มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2098
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2098
เมื่อความรู้สึกที่เหยียบอยู่กับพื้นส่งตรงมา หลัวซิวพบว่าตัวเองมาถึงก้นบึ้งของเหวปีศาจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อกวาดตามองออกไป ที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยโครงกระดูกที่ไร้ขอบเขต
พูดได้เลยว่าภาพเหตุการณ์นี้มันน่าช็อกอย่างยิ่ง เมื่อมองออกไปไกล ๆ ทุกตำแหน่งที่สายตามองเห็นล้วนเป็นโครงกระดูก ร่างกายของเขาเหมือนกำลังยืนอยู่กลางทะเลกระดูก โครงกระดูกของที่นี่มีมากจนนับไม่ถ้วน ล้วนเสียชีวิตมายาวนานอย่างไม่รู้จบ
“หรือว่าเป็นซากกระดูกของเหล่าผู้แข็งแกร่งในโลกะอัมพรเทวที่บุกเข้ามาในเหวปีศาจตั้งแต่โบราณกาล?”หลัวซิวพูดพึมพำโดยที่รู้สึกตะลึงและช็อกเล็กน้อย
ทว่าเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากโครงกระดูกของที่นี่เก่าแก่มากจนไม่สามารถสืบสาวเรื่องราวไปจนถึงต้นตอของเหตุการณ์ กฎเวลาที่เขายึดกุม มีความรู้สึกไวต่อออร่าของกาลเวลาประเภทนี้มากที่สุดแล้ว
อีกอย่างเหล่าผู้แข็งแกร่งในโลกะอัมพรเทวที่กล่าวถึงนั้น ไม่มีทางมาถึงก้นเหวปีศาจได้เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะสามารถฝ่าฟันเขตลมอำมหิตคำรามมาได้ แต่ก็ไม่มีทางมีคนฝ่าฟันแถบที่มีจิตสังหารรอยดาบผนึกไว้ได้อย่างแน่นอน
หลัวซิวย่างเท้าเดินอยู่บนโครงกระดูกสีขาวที่นับไม่ถ้วน โครงกระดูกของที่นี่แข็งแรงอย่างยิ่ง กาลเวลาผ่านพ้นมายาวนานอย่างไม่รู้จบ โครงกระดูกของที่นี่สูญเสียความเป็นเทพและพลังไปตั้งนานแล้ว ทว่าความแข็งแรงของมันสูงมาก ๆ จากศักยภาพของหลัวซิว แม้จะทุ่มสุดกำลังสามารถ ก็ไม่สามารถทิ้งร่องรอยไว้บนโครงกระดูกเหล่านี้ได้เลยแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้เลยว่าเจ้าของโครงกระดูกจำนวนมากที่ตายอยู่ในนี้ ครั้นเมื่อยังมีชีวิตพวกเขาต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากจนไม่อาจจินตนาการได้อย่างแน่นอน
โครงกระดูกที่มากมายเช่นนี้ แทบจะอัดแน่นอยู่ในทั้งก้นเหวปีศาจ มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งดับสลายสูญสิ้นอยู่ที่นี่มากเท่าไหร่?
ทันใดนั้นเอง หลัวซิวก็มองเห็นชิ้นส่วนหอกหนึ่งชิ้น เมื่อมองออกไปไกล ๆ มันเหมือนเสาหินขนาดใหญ่ที่ปักอยู่กลางโครงกระดูกที่นับไม่ถ้วน กระทั่งเมื่อลองสังเกตและเรียนรู้ดูใกล้ ๆ ถึงจะค้นพบว่าแท้จริงแล้วมันคือหอกที่แตกหักไปแล้วหนึ่งท่อน
แต่ทว่าหอกท่อนนี้กลับใหญ่ดั่งเสาหิน ยาวสามร้อยกว่าเมตร หากเป็นหอกที่สมบูรณ์แบบเล่มหนึ่ง เกรงว่าคงจะยาวเป็นหกร้อยกว่าเมตร ซึ่งเพียงพอที่จะถอนภูเขาลูกหนึ่งออกมาจากดิน แค่คิดก็พอจะทราบได้แล้วว่าหอกท่อนนี้หนักเพียงใด
หลัวซิวมองเห็นค่ายกลสัญลักษณ์จำนวนมากที่สลักอยู่ด้านบนหอกท่อนนี้ ทุกค่ายกลสัญลักษณ์ล้วนลึกซึ้งซับซ้อน ซึ่งจากแดนค่ายกลของเขาก็มองความลึกลับและมหัศจรรย์ที่แฝงซ่อนอยู่ภายในไม่ออกเลย
แต่ไม่ว่าจะเป็นร่างแท้ของหอกท่อนนี้ หรือค่ายกลสัญลักษณ์ที่สลักอยู่ด้านบน ล้วนสูญเสียความเป็นเทพและธาตุทิพย์ไปแล้ว ไม่มีอำนาจแห่งพลังอมตะและกฎใด ๆ ตั้งนานแล้ว
ยื่นมือออกไปลูบลายเส้นบนท่อนหอก คล้าย ๆ กับว่ามีภาพเหตุการณ์หนึ่งได้ผุดขึ้นมาในสมองหลัวซิว
นั่นคือยักษ์ที่สูงหกร้อยกว่าเมตร รอบกายมันมีสายฟ้าสีทองพันอยู่รอบ ๆ มือกำหอกหนึ่งเล่ม มันข้ามทะลุไป ๆ มา ๆ อยู่ในห้วงดารา ตะคอกเสียงดังลั่นครั้งหนึ่ง ดวงดาวที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าก็ร่วงหล่นลงมา!
อย่างไรก็ตามในเวลานี้เอง ก็มีมือใหญ่ข้างหนึ่งที่กำดาบยุทธ์ปรากฏ ง้างดาบขึ้นแล้วฟาดฟันลงมา หอกถูกตัดขาด ร่างกายของยักษ์ก็ถูกฟันจนแตกสลายเช่นกัน เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด เหลือเพียงร่างศพที่ไม่สมบูรณ์
เมื่อหลัวซิวดึงสติกลับมาได้ เขาก็ตกตะลึงมากจนเหงื่อแตก ขนตามร่างกายตั้งขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เนื่องจากภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏในสมองในเมื่อครู่นี้มันน่ากลัวมากเกินไปแล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะเพ่งมองหอกท่อนนั้น และเข้าใจบางอย่างขึ้นมากะทันหัน ซึ่งนี่คือความทรงจำของจิตภัณฑ์หอกที่ยังหลงเหลืออยู่ แม้จะดับสูญไปแล้ว แต่ก็ยังมีความทรงจำบางอย่างหลงเหลืออยู่ในท่อนหอก
กวาดตามองดูทะเลกระดูกที่กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขตรอบ ๆ เหมือนหลัวซิวจะเข้าใจอะไรบางอย่าง บางทีเจ้าของโครงกระดูกที่นับไม่ถ้วนในนี้ อาจจะล้วนถูกสังหารโดยผู้ที่ทิ้งรอยดาบนั่นไว้!