มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2106
อั่ก!
เลือกสีแดงสดสาดกระเด็น เทพปีศาจเฒ่าตระกูลจู้ที่มีผลการฝึกตนแข็งแกร่ง ฝึกกฎเพลิงอัคคีจนแทบจะถึงแดนขั้น 7 บริบูรณ์ แต่ร่างเนื้อของเขากลับไม่แข็งแกร่งแต่อย่างใด ถูกหมัดนี้ของหลัวซิวโจมตีจนใบหน้าบิดเบี้ยว เลือดสีแดงสดท่วมใบหน้าครึ่งหนึ่ง ดูน่าสยดสยองอย่างยิ่ง
“นี่คือภูมิฐานที่ตระกูลจู้ของพวกมึงภูมิใจนักภูมิใจหนาหรือ? บรรพอาจารย์กึ่งจ้าวมหาเทพก็มีดีเท่านี้เอง”
ภายในอาณาจักรวัฏสงสาร หลัวซิวที่เหมือนดังผู้ชี้ขาดทุกสรรพสิ่งในฟ้าดินพูดอย่างเรียบนิ่ง
คำพูดของเขาดูไม่ได้นำตระกูลจู้มาไว้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เรียกได้เลยว่าหยิ่งผยองถึงขีดสุด แต่วินาทีนี้กลับไม่มีผู้ใดคิดว่าเขาพูดผิด เนื่องจากเทพปีศาจเฒ่าที่เกะกะระรานของตระกูลจู้ถูกเขากดอัดโดยสิ้นเชิง และไม่มีกำลังที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย
“เจ้าเด็กเดรัจฉาน มึงทำให้กูกราดเกรี้ยวแล้ว!”
ในฐานะที่เป็นบรรพอาจารย์ตระกูลจู้ผู้ยอดเยี่ยมที่ดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน เทพปีศาจเฒ่าท่านนี้ที่เคยเป็นผู้ไร้เทียมทานในอดีตบ้าคลั่งแล้ว เขาตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง ภายในเสียงตะคอกเปี่ยมล้นไปด้วยความไม่ยอมและความโกรธแค้น และมีความเด็ดเดี่ยวและจิตสังหารที่ไร้ขอบเขตด้วย
ท่ามกลางสายตาผู้คน ร่างกายของเทพปีศาจเฒ่าตระกูลจู้ลุกโชนขึ้นมา เดิมทีอายุไขของเขาก็เหลือไม่มากแล้ว วินาทีนี้เขาก็แผดเผาอายุไขของตนเองอีก และยิ่งแผดเผาแม้กระทั่งวิญญาณช่องจิตของเขาด้วย เพื่อแลกกับผลการฝึกตนที่เกะกะระรานและสูงเทียมฟ้า
กระตุ้นชุดรบระดับจ้าวมหาเทพภายใต้สภาวะเช่นนี้ ออร่าบนตัวเทพปีศาจเฒ่าตระกูลจู้ ณ วินาทีนี้เทียบทัดผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพ
แน่นอนอยู่แล้วว่าเขายังบรรลุไม่ถึงระดับจ้าวมหาเทพอย่างแท้จริง แต่พลังออร่าทั้งตัวกลับสามารถเทียบทัดผู้แข็งแกร่งที่พึ่งบรรลุสู่ระดับจ้าวมหาเทพใหม่ ๆ แล้ว
เสียงฟ้าร้องสะท้อนออกมาจากนภาสูง ราวกับปณิธานของกฎเทียนเทียนจักรวาลกำลังจะจุติทัณฑ์สวรรค์ลงมา เนื่องจากในโลกามนุษย์มีข้อจำกัดไม่อนุญาตให้มีผู้ที่มีผลการฝึกตนสูงกว่าระดับจ้าวมหาเทพปรากฏ
“ตระกูลจู้ของกูมีการถ่ายทอดสืบสานมาหลายสิบล้านปี จักอนุญาตให้มึงที่เป็นผู้น้อยมาเหยียดหยามอำนาจบารมีได้อย่างไร วันนี้แม้กูต้องตาย กูก็จะทำให้มึงได้รู้ว่าอำนาจบารมีของตระกูลจู้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถลบหลู่ได้!”
เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพคนหนึ่งที่อยู่ในโลกามนุษย์บ้าคลั่งขึ้นมา ถือเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองมาก ๆ พลังออร่าที่ปะทุออกมาจากร่างเทพปีศาจเฒ่าตระกูลจู้พอจะพูดได้เลยว่าสามารถทำลายล้างฟ้าดิน เปลวไฟทั้งหมดลุกโชนขึ้นมา ลุกลามจนแผ่คลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ซึ่งเปลวไฟเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากกฎแต่อย่างใด แต่มาจากผลการฝึกตนที่บริสุทธิ์ เนื่องจากเทพปีศาจเฒ่าตระกูลจู้ยังไม่ได้สูญเสียสติปัญญาไปโดยสิ้นเชิง เขาทราบอยู่ว่าฝ่ายตรงข้ามมีวิชาควบคุมไฟพิเศษ ซึ่งสามารถปราบกฎเพลิงอัคคีได้
“อำนาจบารมีของตระกูลจู้? ตลกชะมัด! กูยังไม่เคยเอาตระกูลจู้เล็ก ๆ มาไว้ในสายตา กูไม่ได้ท้าทายอำนาจบารมีของตระกูลจู้พวกมึง แต่ตระกูลจู้ของพวกมึงไม่รู้จักความเป็นความตาย มาท้าทายอำนาจบารมีของกูเอง”
ลอยตัวขึ้นฟ้า หลัวซิวควบคุมอาณาจักรวัฏสงสาร ภายในแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความทะนงองอาจ
เขาไม่ได้อวดดี และไม่ได้กำเริบเสิบสานเช่นกัน แต่เขามีคุณสมบัติที่จะพูดคำพูดเช่นนี้ และมีศักยภาพที่จะทำเช่นนี้ได้ด้วย!
“มึงคิดว่าแผดเผาชีวีดั้งเดิมแล้วจะสามารถกดอัดกูได้อย่างนั้นหรือ? เกรงว่ามึงคงต้องได้ตายตาไม่หลับแล้วล่ะ!”
ตู้มม!
เสี้ยววินาทีที่สิ้นเสียง ก็มีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นปานสึนามิระเบิดออกมาจากตัวหลัวซิว พลังออร่าบนร่างกายเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามจังหวะ
ฝึกวิชาบรรพเทพโลหิต ทำให้พลังแห่งเลือดปราณของหลัวซิวนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง พลังที่แฝงซ่อนอยู่ในพลังและเลือดทุกหยดมีมากมายมหาศาล
กฎชีวิตของเขาฝึกถึงแดนขั้น 6 แล้ว ซึ่งสามารถแผดเผาพลังและเลือดในร่างกายได้ถึงหกส่วน!
แผดเผาพลังและเลือดหกส่วน ทำให้ผลการฝึกตนของเขาพุ่งพรวดภายในพริบตา จากราชาเทพขั้น 1 พุ่งขึ้นมาถึงราชาเทพขั้น 6 อย่างรวดเร็ว นี่เป็นการบรรลุจากราชาเทพขั้นปฐมขึ้นมาถึงช่วงกลางโดยตรงเลยนะ!
จากผลการฝึกตนของราชาเทพขั้น 1 กำลังรบของเขาก็สามารถเทียบทัดมกุฎเทพขั้นสูงแล้ว ปัจจุบันเมื่อใช้การแผดเผาพลังและเลือดเพื่อแลกกับผลการฝึกตนราชาเทพขั้น 4 ทำให้เขาเพียบพร้อมไปด้วยกำลังรบระดับกึ่งจ้าวมหาเทพ!