มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2112
คำเรียกราชาเทพและมกุฎเทพในมหาโลกาพันสาม หากมองในยุคสมัยอันไกลโพ้นนั่นแล้ว มันก็เป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น!
ในยุคสมัยของไท่ซ่างฉิง สำหรับเขาแล้วเทพมารระดับสี่ก็เป็นเพียงหมดตัวจ้อยตัวหนึ่งเท่านั้น ทว่าวินาทีนี้เขาไม่ใช่ไท่ซ่างฉิงอีกต่อไปแล้ว เทพมารระดับสี่คนหนึ่งต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจที่จัดการยากอย่างแน่นอน
หลัวซิวจำโลงศพโบราณที่ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำกำลังนั่งได้ในทันที ซึ่งมันก็คือโลงศพโบราณที่เขาพบเห็น ณ สถานผนึกดารามรณะนอกดาราฟ้าเยือกนั่นเอง
เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าภายในโลงศพโบราณใบนั้น มีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งนอนหลับใหลอยู่ ครั้นเมื่อเขาปรากฏในสถานผนึกดารามรณะ ฝ่ายตรงข้ามก็สัมผัสออร่าชิ้นส่วนกงล้อวัฏจักรธรรมจากตัวเขาแล้ว
และในความเป็นจริงสิ่งที่หลัวซิวไม่ทราบคือ ครั้นเมื่อเขาอยู่ในตำหนักวัฏสงสาร โลงศพโบราณทองสัมฤทธิ์ก็เคยปรากฏครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งถูกเมิ่งเชียนชางควบคุมตำหนักวัฏสงสารโจมตีจนมันถอยออกมา
“ตู้มม!”
ณ วินาทีนี้พลังออร่าบนตัวหลัวซิวได้ปะทุออกมา มังกรโลหิตแสนแปดหมื่นตัวบินวนอยู่รอบกาย เลือดปราณพุ่งทะยานขึ้นฟ้าพลางโคจรกฎชีวิต แผดเผาพลังและเลือดหกส่วน!
กฎชีวิตขั้น 6 สามารถแผดเผาพลังและเลือดหกส่วนได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของกฎชีวิต
พลังออร่าที่น่าสยดสยองระเบิดออกมาจากตัวหลัวซิว เส้นผมสีดำที่ยาวสลวยปลิวลอย ออร่าสูงเทียมฟ้า
“เป็นเพียงเทพมารระดับสี่กระจอก ๆ ก็คิดที่จะใช้พลังออร่าข่มข้าอย่างนั้นหรือ?”
หลัวซิวหกระเหินเดินฟ้า เขาไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด แต่เป็นการประจันหน้ากับผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำบนโลงศพโบราณโดยไม่หวาดหวั่น
“หื้ม? เทพมารระดับหนึ่งกระจอก ๆ ก็บังอาจกำเริบเสิบสานอย่างนั้นหรือ?”ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง “แม้ผลการฝึกตนของเจ้าเป็นเทพมารระดับหนึ่งแต่ก็มีศักยภาพเทพมารระดับสามแล้ว ทว่าเมื่ออยู่ในสายตาบรรพอาจารย์อย่างข้า เจ้าก็เล็กน้อยมากจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงด้วยซ้ำ”
เวิ่ง!
ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำลงมือโจมตีโดยตรง ชี่มรณะที่ล้นฟ้าไร้ขอบเขตกลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่ง ตรงกลางฝ่ามือมีกฎความตายที่ลึกซึ้งถึงขีดสุดหมุนเวียน ภายใต้การบดบังจากมือใหญ่ความตายข้างนี้ ราวกับทั้งท้องฟ้าและปฐพีถูกปกคลุมจนหม่นหมอง
เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือดังกล่าว หลัวซิวยกมือขึ้นมาพลิกฝ่ามือทีหนึ่ง แล้วหยิบลูกแก้วความเป็นตายออกมา
ภายในเวลาชั่วพริบตา ชี่มรณะที่ล้นฟ้าก็ล้วนถูกลูกแก้วความเป็นตายดูดกลืน แม้แต่มือใหญ่ความตายที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ที่มีชี่มรณะแผ่กระจายออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนนั่น ก็ถูกลูกแก้วความเป็นตายดูดกลืนเช่นกัน
ลูกแก้วความเป็นตายนั้น เป็นของล้ำค่าที่มาจากชิ้นส่วนของกงล้อวัฏจักรธรรม ซึ่งมีความเร้นลับของการเวียนว่ายตายเกิดบนเส้นทางแห่งวัฏสงสารแฝงซ่อนอยู่ เมื่อนำมันมารับมือกับกฎความตาย ก็เป็นเรื่องที่ผ่อนคลายมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำนั่นกลับไม่ธรรมดา เทพมารระดับสี่ไม่ใช่ศักยภาพที่แท้จริงของเขาแต่อย่างใด ทว่าเนื่องจากได้รับบาดสาหัสเมื่อหลายแสนล้านปีก่อน ทำให้ผลการฝึกตนลดฮวบ แม้จะมีผลการฝึกตนเพียงเทพมารระดับสี่ แต่ศักยภาพที่เขาปลดปล่อยออกมากลับน่าสยดสยองมาก ๆ
กฎความตายที่เขาควบคุมนั้นถึงขั้นบรรลุถึงระดับขั้น 9!
หากไม่ใช่เพราะถูกจำกัดโดยผลการฝึกตน เขายิ่งสามารถปลดปล่อยพลานุภาพของกฎความตายขั้น 10 ออกมาได้!
“กงล้อทมิฬ!”
ชี่มรณะล้นฟ้า จู่ ๆ มือใหญ่สีดำก็แปรเปลี่ยน กลายเป็นรูเล็ตสีดำหนึ่งวง ผนึกรวมกฎความตายให้ถึงขีด แม้แต่ลูกแก้วความเป็นตายก็ยากที่จะยึดครองดูดกลืนมัน
“บำเพ็ญพลิกทมิฬ?”รูม่านตาหลัวซิวหดลง เขาต้องคุ้นเคยต่อวรยุทธ์ดังกล่าวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แม้สำหรับไท่ซ่างฉิงเมื่อชาติปางก่อน วรยุทธ์เช่นนี้มันเล็กน้อยมากจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง ทว่าเขาในภพชาติปัจจุบันกลับทราบข้อมูลจากวัฏสงสาร วรยุทธ์ดังกล่าวเป็นวรยุทธ์ที่มหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิริเริ่ม
“สุดท้ายผลการฝึกตนก็ยังต่ำเกินไป”
หลัวซิวถอนหายใจทีหนึ่ง หลังจากปลุกตื่นความทรงจำของไท่ซ่างฉิงแล้ว เขาก็เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของกฎทั้งปวงเลย
แต่กฎที่ระดับสูงเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของเขาสามารถควบคุมได้ จากผลการฝึกตนของเขา ณ บัดนี้ การที่ควบคุมกฎขั้น 6 นั้นก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว มากสุดแค่สามารถหลอมรวมกฎขั้น 6 แล้วปลดปล่อยพลานุภาพที่เทียบเท่ากฎขั้น 7 ออกมา