มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2443
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2443
แท้จริงแล้วนี่ก็ถือเป็นความสำเร็จที่ได้รับจากการเตรียมพร้อมมาอย่างดีเช่นกัน เนื่องจากอดีตตระกูลเทพสงครามใช้ชีวิตอยู่ในความระแวดระวังมาโดยตลอด ขาดแคลนทรัพยากรและวรยุทธ์ในการฝึกตน หลังจากเก็บกดมายาวนานอย่างไม่รู้จบ ในที่สุดก็ได้รับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา จึงต้องแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
กองทัพใหญ่ราชาเทพนับแสน เป็นพลังที่แข็งแกร่งมาก ๆ แล้ว อย่าคิดว่าราชาเทพที่อยู่ในมหาโลกาพันสามไม่มีค่าอะไร แต่ถ้าเกิดกองทัพใหญ่ราชาเทพนับแสนปฏิบัติตามคำสั่งพร้อมเพรียงกัน นั่นการเปลี่ยนแปลงทางด้านปริมาณนี้ต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพอย่างแน่นอน กลายเป็นทหารมุทะลุดุดันและโหดร้ายขบวนหนึ่งที่ไร้เทียมทาน!
แม้เผ่าจี้จะมีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพหลายคน ทว่าภาพรวมกลับด้อยกว่าตระกูลเทพสงครามไม่น้อยเลย มกุฎเทพในเผ่าจี้มีหลักร้อยหลักพัน จ้าวมหาเทพก็มีหลายสิบคนเช่นกัน แต่ราชาเทพต้องไม่มีทางมีถึงแสนแน่นอน
หากพูดถึงเรื่องศักยภาพแล้วละก็ ตระกูลเทพสงครามจะแข็งแกร่งกว่าเผ่าจี้เล็กน้อย ตั้งแต่โบราณกาลมาไม่มีเผ่าพันธุ์ใดที่เหมาะสมกับการทำสงครามมากกว่าตระกูลเทพสงครามแล้ว ผู้คนในตระกูลของพวกเขาล้วนเร่าร้อนฮึกเหิม เป็นนักรบที่มีพละกำลังและความกล้าหาญในการสู้รบ!
ในความทรงจำของไท่ซ่างฉิงก็มีการบันทึกที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเทพสงครามอยู่บ้าง ในยุคสมัยที่ไท่ซ่างฉิงคงอยู่ ตระกูลเทพสงครามก็หายเข้าไปในกลีบเมฆแล้ว เสื่อมถอยเร็วยิ่งกว่าเผ่าจี้เสียอีก และถูกขจัดออกจากแบบทดสอบอันยิ่งใหญ่
เล่ากันว่าสาเหตุที่ตระกูลเทพสงครามแข็งแกร่งนั้น เป็นเพราะอาศัยค่ายรบประเภทหนึ่ง ราชาเทพนับแสน หากมีการเพิ่มเสริมจากค่ายรบ ยิ่งสามารถต่อกรกับจ้าวมหาเทพ สามารถสังหารมกุฎเทพได้อย่างง่ายดาย!
ในศึกสงครามช่วงชิงชะตาชีวิตเมื่อครั้นนั้น บรรพบุรุษของตระกูลเทพสงครามยิ่งนำพากองกำลังทหารของทั้งตระกูล ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเจ็ดเป็นต้นไปนับหมื่น ระเบิดกำลังรบอันน่าทึ่งออกมา!
สามารถพูดได้อย่างไม่ลังเลใจเลยว่าศึกแห่งการช่วงชิงชะตาชีวิตนั่น ตระกูลเทพสงครามเป็นผู้ที่เสียสละมากที่สุด และเป็นผู้ที่เสียหายหนักหนามากที่สุด สามารถยับยั้งสังหารจ้าววัฏสงสารรุ่นที่แปด คุณูปการของตระกูลเทพสงครามยิ่งใหญ่มากที่สุด และไม่อาจลบล้างไปจากประวัติศาสตร์ได้!
อย่างไรก็ตามยุคหลังได้ผ่านพ้นมายาวนานอย่างไม่รู้จบ ไม่มีผู้ใดจำได้ว่าบุคคลที่สร้างคุณูปการให้แก่โลกคือผู้ใด ตระกูลเทพสงครามเร่ร่อนไปถึงจักรวาลกันดารอย่างอดอยาก และยิ่งไม่สามารถยืนหยัดในมหาโลกาพันสาม มาถึงโลกะดาราอัมพรเทวก็ต้องคอยดูสีหน้าผู้คน ใช้ชีวิตดิ้นรนจนถึงเฮือกสุดท้าย
ค่ายรบของตระกูลเทพสงครามขาดการสืบทอดไปตั้งนานแล้ว แต่หลัวซิวกลับหวังว่าค่ายรบไร้เทียมทานจะสามารถปรากฏในมือเขาอีกครั้ง เขายึดกุมฎีกาค่าย ค่ายกลทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดินล้วนกำเนิดจากแก่นสำคัญของฎีกาค่าย เขาเชื่อว่าตัวเองสามารถตามหาความลี้ลับของค่ายรบไร้เทียมทานออกมาจากฎีกาค่ายได้!
หลัวซิวหยิบขวดหยกออกมายื่นให้ซิงเฉินหนึ่งขวด เมื่อซิงเฉินรับขวดหยกไป สีหน้าอารมณ์เขาก็ชะงักงันลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนึกไม่ถึงเลยว่าภายในขวดหยกขวดนี้จะเป็นโอสถทะยานฟ้าหนึ่งเม็ด
โอสถทะยานฟ้าคือยาเซียนระดับเจ้ายุทธจักร ประโยชน์ของยาเซียนประเภทนี้ก็คือให้มกุฎเทพขั้นสูงใช้เพื่อบรรลุสู่จ้าวมหาเทพ
แม้จากเงื่อนไขของซิงเฉิน หากไม่ใช้โอสถทะยานฟ้าเขาก็สามารถบรรลุสู่แดนจ้าวมหาเทพได้เช่นกัน แต่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งมาสั่งสมภูมิฐาน เคี่ยวกรําผลการฝึกตน
ทว่าวินาทีนี้หากมีโอสถทะยานฟ้าเม็ดนี้แล้วละก็ เช่นนั้นภายในระยะเวลาสิบปี ซิงเฉินต้องสามารถบรรลุสู่แดนจ้าวมหาเทพได้อย่างแน่นอน สามารถลดระยะเวลาลงไปเยอะมาก!
“ท่านชาย นะ…..นะนี่มีค่ามากเกินไปแล้ว”ซิงเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ก่อนจะคืนขวดหยกกลับไปให้หลัวซิว
เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าหลัวซิวยังอยู่ในแดนมกุฎเทพ โอสถทะยานฟ้านี่ควรจะเก็บไว้ให้เขาใช้เอง
ซิงเฉินไม่ทราบแต่อย่างใดว่าสำหรับหลัวซิวในปัจจุบัน ยาเซียนระดับเจ้ายุทธจักรไม่มีค่าอะไรแล้ว แม้นผลการฝึกตนของเขาจะไม่ใช่จ้าวมหาเทพ แต่กลับสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพจำนวนมากยังหวาดหวั่น เกรงกลัว!
“หยุดบ่ายเบี่ยงได้แล้ว ข้าก็ไม่ได้เอายาเซียนเม็ดนี้ให้เจ้าโดยเสียเปล่าเช่นกัน ข้ามีภารกิจจะมอบให้เจ้า”หลัวซิวยิ้มพลางพูด