มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2477
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2477
“มึงอีกแล้วหรือ?!”
หนุ่มเจ้าสำนักน้อยที่อยู่ในห้องที่นั่งพิเศษโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงก็สั่นคลอนเล็กน้อยด้วย หากไม่ใช่เพราะเสียงที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ให้เขาอย่าไปมีปัญหากับเจ้าหมอนั่น เขาคงพุ่งออกไปอบรมสั่งสอนฝ่ายตรงข้ามตั้งนานแล้ว
“คนดังกล่าวไม่ธรรมดา เจ้าอย่าได้มีปัญหากับมันง่าย ๆ รากแก่ยาเซียนต้นนี้ล้ำค่ามาก ๆ แจ้งให้ผู้อาวุโสในเกาะเทียนเหอมาจัดการเรื่องนี้”มีเสียงที่แก่ชราดังขึ้นมาในตัวหยั่งรู้ของหนุ่มเจ้าสำนักน้อยอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงคือหนุ่มเจ้าสำนักน้อยนิ่งเงียบลงไปอีกครั้ง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับหลัวซิวติดต่อกันสองครั้ง
แต่ทุกคนในงานล้วนสัมผัสได้อยู่ว่าหนุ่มเจ้าสำนักน้อยนั่นกำลังระงับไฟโกรธที่ล้นฟ้าอยู่ภายในใจ บัดนี้ยังไม่ได้อาละวาดโดยสิ้นเชิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว คอยงานประมูลจบลง ต้องมีการแสดงสนุก ๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ลูกค้าท่านนี้เสนอห้าล้านแล้ว ยังมีผู้ใดเสนอราคาที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่? นี่คือรากแก่ของยาเซียนระดับมหาจักรพรรดิต้นหนึ่งเชียวนะ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแน่นอน!”
ใบหน้าของซ่งเฉิงที่ยืนอยู่บนเวทีอำนวยการเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม พยายามปลุกปั่นบรรยากาศในงาน แต่สิ่งที่ตอบกลับเขากลับเป็นเพียงความเงียบ
ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มเจ้าสำนักน้อยที่อยู่ในห้องที่นั่งพิเศษนั่นหรือหลัวซิว ไม่มีผู้ใดยินดีรุกรานพวกเขาเลย หากเสนอราคาที่สูงกว่าในเวลานี้ มันไม่เพียงจะเป็นการรุกรานหลัวซิว ก็จะเป็นการรุกรานหนุ่มเจ้าสำนักน้อยนั่นด้วย
ทุกอย่างดำเนินการไปตามนี้ รากเทวอลวนถูกหลัวซิวซื้อไปในราคาแก้วเทวชั้นยอดห้าล้านชิ้น นี่เป็นความแปลกใจที่อยู่เหนือความแปลกใจจริง ๆ
แม้แต่ขณะที่ฝ่ายประมูลส่งกล่องหยกผลึกหินที่ใส่รากเทวอลวนมา สภาพจิตใจของหลัวซิวก็ยังฮึกเหิมเล็กน้อยอยู่ดี เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับหนึ่งในยาหลักที่ใช้กลั่นโอสถเคล็ดเซียนตรีภพมาได้ง่ายดายเช่นนี้
งานประมูลยังคงดำเนินการต่อไป เดิมทีหลัวซิวคิดว่าหลังจากมีของล้ำค่าอย่างปรปักษ์สวรรค์สังหารมารและโอสถเคล็ดเซียนตรีภพปรากฏแล้ว งานประมูลในครั้งนี้ก็น่าจะถึงช่วงท้ายแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคืองานประมูลในครั้งนี้ ถึงขั้นดำเนินการติดต่อกันสองวันเต็ม ๆ!
ในช่วงเวลาสองวันนี้ สมบัติต่าง ๆ ที่ปรากฏมีมากจนน่าทึ่ง ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสองวัน แค่ผลกำไรที่ได้รับจากงานประมูลในครั้งนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เมืองมังกรครามยักษ์กลายเป็นกองกำลังที่มั่งคั่งที่สุดในบรรดาโลกาดาราที่อยู่บริเวณรอบ ๆ!
แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งที่สามารถทำให้หลัวซิวรู้สึกสนใจในช่วงท้าย ๆ นั้นยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง ในส่วนของเม็ดยาเซียนระดับเจ้ายุทธจักรที่ถูกนำมาประมูลก่อนรั้งท้ายนั้น หลัวซิวยิ่งไม่ชายตาลงไปมองเลย
คนอื่นไม่ทราบมูลค่าที่แท้จริงสิ่งที่เขาต้องตา ส่วนสิ่งที่เขาไม่ต้องตานั้น กลับถูกผู้อื่นยกย่องเป็นสิ่งล้ำค่า จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นเรื่องที่น่าตลกมาก ๆ
งานประมูลครั้งหนึ่งทำให้เสี่ยวเจียงหมิงได้เปิดหูเปิดตามาก บนใบหน้าที่แดงระเรื่อดูตื่นเต้นดีใจเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากงานประมูลสิ้นสุดลงแล้ว หลัวซิวก็จูงมือเสี่ยวเจียงหมิงแล้วเดินออกไป มีคนจำนวนไม่น้อยต่างรวมตัวกันอยู่นอกงานประมูล
คนเหล่านี้ไม่ได้มาหาเรื่องหลัวซิวแต่อย่างใด ทว่าล้วนยืนอยู่ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไม่ไกลด้วยลักษณะท่าทีที่เฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลง
มีเงาดำสามร่างลอยอยู่กลางนภา เพียงแวบเดียวหลัวซิวก็มองเห็นชายหนุ่มที่เรียกแทนตัวเองว่าเจ้าสำนักน้อยนั่นแล้ว ส่วนข้างกายเขามีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยปรากฏสองคน ต่างมีผลการฝึกตนระดับจ้าวมหาเทพ!
หลัวซิวไม่นำผลการฝึกตนระดับจ้าวมหาเทพมาใส่ใจ แต่สิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจคือ ในห้วงดาราระดับล่างถูกพันธนาการโดยกฎจักรวาลฟ้าดิน เหตุใดจึงมีจ้าวมหาเทพปรากฏได้?
เมื่อพูดตามหลักการทั่วไป อย่างมากสุดมีเพียงกึ่งจ้าวมหาเทพเท่านั้นถึงจะปรากฏในห้วงดาราระดับล่างได้ ปีนั้นครั้นเมื่อหอยอดอัมพรส่งจ้าวมหาเทพคนหนึ่งลงมา ก็อาศัยฮู้เทวพิเศษที่มหาจักรพรรดิยุทธ์กลั่นถึงจะส่งตัวจ้าวมหาเทพลงมาได้