มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2548
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2548
“มู่กงหมิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ตระกูลมู่ของเราเป็นทายาทของมหาจักรพรรดิยุทธ์สรรพสิทธิ์ จะยอมก้มหน้าต่อเจ้าเดรัจฉานนี่ได้อย่างไร? แล้วจะเอาศักดิ์ศรีของตระกูลมู่ของเราไปไว้ที่ใด?”
ไฟโกรธของมู่เต๋อหนานล้นฟ้า ตะคอกเสียงดัง: “ต่อให้เจ้าจะหยุดยั้งข้า วันนี้ข้าก็จะลงมือสังหารเจ้าเดรัจฉานนี่ด้วยเงื้อมมือข้าเอง!”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น มู่เต๋อหนานก็ลงมืออีกครั้ง ครั้งนี้ทันทีที่ลงมือเขาก็ทุ่มสุดกำลังสามารถเลย เตาเทพเตาหนึ่งที่มีเปลวไฟลุกโชนได้บินออกมาจากร่างกายเขา ซึ่งมันก็คือสมบัติแห่งจักรพรรดิเทพชิ้นหนึ่งนั่นเอง กฎเพลิงอัคคีขั้น 10 ลุกโชนอย่างรุนแรงจนไม่อาจยั้งอยู่ แผดเผาท้องฟ้าและผืนดิน
“มู่เต๋อหนาน มึงประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว ครั้งแรกที่มึงลงมือต่อกูถูกผู้อาวุโสกงหมิงห้ามไหว แซ่หลัวไม่คิดเล็กคิดน้อยกับมึง แต่มึงกลับกำเริบเสิบสานลงมือต่อ คิดจริง ๆ หรือว่าแซ่หลัวกูเป็นพวกไก่อ่อน?”มีรัศมีที่เฉียบคมกระพริบผ่านไปในดวงตาหลัวซิว
เขาไม่ต้องเอ่ยปากพูด ร่างกายของคาดิสลาร์ที่เหมือนดั่งหอเหล็กก็ก้าวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ง้างมือปล่อยฝ่ามือหนึ่งออกไป โดยที่ไม่มีกฎผลการฝึกตนใด ๆ แฝงซ่อนอยู่เลยแม้แต่น้อย
กวง!
ฝ่ามือของลาร์พุ่งชนเข้ากับเตาเทพ มีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นที่ก้องหูสะท้อนออกมา ทำให้ทั้งสำนักอภิปรายรายงานสั่นไหวขึ้นมาด้วย แทบจะพังทลายลงมา
เตาเทพของมู่เต๋อหนานถูกตบจนแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา พลานุภาพมือใหญ่ของคาดิสลาร์ที่พุ่งตรงไปไม่ลดน้อยลงเลย อาศัยแรงฮึดของร่างเนื้อที่บริสุทธิ์ กดอัดกฎและพลังอมตะทั้งปวง จับร่างมู่เต๋อหนานขึ้นมาโดยตรง ราวกับกำลูกไก่ไว้ในกำมือยังไงอย่างนั้น
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุตะลึงงันไปแล้วจริง ๆ มู่กงหมิงที่วางแผนจะลงมือห้ามปรามอีกครั้งในตอนแรกก็ยืนผงะอยู่กับที่เช่นกัน
คาดิสลาร์แสยะยิ้ม มีรัศมีอันเยือกเย็นกระพริบบนฟันที่เฉียบคมปานดาบกระบี่
“ลาร์ ปล่อยมัน”หลัวซิวเอ่ยปากพูดอย่างเรียบนิ่ง หากเขายังไม่เอ่ยปากพูดอีกละก็ จากความเข้าใจของเขาที่มีต่อลาร์ การกระทำต่อไปของเขาต้องโยนตาแก่มู่เต๋อหนานนั่นเข้าไปในปากแล้วกลืนกินแน่นอน
คาดิสลาร์เบ้ปาก ทว่ากลับไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของหลัวซิว ง้างมือโยนร่างมู่เต๋อหนานไปข้าง ๆ ผู้อาวุโสไท่ซ่างแดนจักรพรรดิเทพคนนี้ของตระกูลมู่ตกใจจนใบหน้าขาวซีด ทั้งร่างกายใกล้จะถูกเหงื่อเกาะกินจนเปียกไปทั้งตัวแล้ว
และในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสที่มุ่งหน้าไปยังคลังสมบัติก็กลับมาแล้ว เขาไม่รู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น แต่ได้ยินลาดเลาที่สะท้อนมาจากตำหนักอภิปรายรายงานอยู่ วินาทีนี้เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสเต๋อหนานกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าที่ขาวซีด เขาก็รู้แล้วว่าเมื่อครู่ต้องเกิดการปะทะกันอย่างแน่นอน และผู้ที่เสียเปรียบก็คือผู้อาวุโสไท่ซ่างตระกูลมู่
ถัดจากนั้น เขาก็สังเกตเห็นแววตาของมู่กงหมิงที่ถ่ายทอดมา จึงเข้าใจความหมายทันที ก่อนจะยื่นกล่องหยกใบหนึ่งไปด้านหน้าหลัวซิวอย่างเคารพนบนอบแล้วพูด: “นี่คือสิ่งที่ท่านชายต้องการ เชิญท่านชายตรวจสอบดูก่อนขอรับ”
บนกล่องหยกมีตัวต้องห้ามที่คอยขวางกั้นการสำรวจของตัวสำนึกอยู่ แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าหลัวซิว ตัวต้องห้ามประเภทนี้ก็ไม่มีค่าอะไรเลย ยกมือโบกทีหนึ่ง เขาก็เก็บกล่องหยกเข้าไปในแหวนเก็บของเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะนำสายตาร่วงลงบนตัวมู่กงหมิงอีกครั้งแล้วพูด: “ในเมื่อได้รับของแล้ว แซ่หลัวก็ขอตัวก่อนล่ะ”
ไม่รอให้มู่กงหมิงได้พูดอะไร หลัวซิวก็หันหลังเดินออกไปจากสำนักแล้ว อสูรดูดจิตที่เกาะอยู่บนไหล่ลอยตัวขึ้นฟ้า กลายร่างเป็นร่างดั้งเดิม ก่อนจะพาเขาและลาร์จากไปพร้อมกับเสียงคำราม
ภายในสำนักอภิปรายรายงานตระกูลมู่เงียบเป็นเป่าสาก มู่กงหมิงมองมู่เต๋อหนานด้วยสายตาที่เห็นใจรอบหนึ่ง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจ้าหมอนี่ดึงดันที่จะลงมือต่อหลัวซิว แล้วจะมีภาพเหตุการณ์ที่อึดอัดเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
แต่ในทางตรงกันข้ามมู่กงหมิงกลับรู้สึกโชคดีเล็กน้อยที่มู่เต๋อหนานลงมือ เพราะจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตระกูลมู่จำเป็นต้องพิจารณาตัดสินชี้ขาดหลัวซิวใหม่อีกครั้งแล้ว
มู่จื่อเซียวก็ทราบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อเขาทราบว่าหลัวซิวจากไปพร้อมกับยาเซียน อีกทั้งทราบว่าผู้ติดตามคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายเขาแค่ง้างมือก็สยบผู้อาวุโสมู่เต๋อหนานได้ ตัวเขาก็งงเป็นไก่ตาแตกเช่นกัน
“ข้างกายเขามีผู้ติดตามที่เก่งกาจเช่นนั้นปรากฏตั้งแต่เมื่อไหร่?”คำถามนี้ได้วนเวียนอยู่ในจิตใจของระดับสูงตระกูลมู่
ออกจากตระกูลมู่ หลัวซิวค่อนข้างรู้สึกพึงพอใจต่อดอกผลในครั้งนี้ ได้รับยาเซียนที่ตัวเองต้องการไม่ว่า ยิ่งใช้โอกาสนี้ข่มขวัญตระกูลมู่ด้วย บวกกับเรื่องที่นายแห่งเผ่าจี้บรรลุเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็เกิดประสิทธิผลด้านการข่มเช่นกัน คาดว่าตระกูลมู่ก็น่าจะทราบแล้วว่าอนาคตควรจะเผชิญหน้ากับการตัดสินใจอย่างไร
ไม่ว่าผู้คนในตระกูลมู่จะคาดคะเนอย่างไร หลัวซิวก็นำเป้าหมายต่อไปผนึกไปที่เผ่าพันธุ์มังกรแท้แห่งโลกาบรรพมารแล้ว