มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2551
ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งชั้นยอดในเผ่าพันธุ์มาร จำนวนมังกรแท้ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์อย่างแท้จริงนั้นมีไม่มาก ส่วนมากล้วนเป็นมังกรเทียมที่สายเลือดมีการผสมผสานคละปนกัน
เพราะฉะนั้นในระบบของเผ่าพันธุ์มังกร มีเพียงสายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ถูกเรียกว่ามังกรแท้ ในส่วนของมังกรที่มีสายเลือดผสมผสานกันนั้น สามารถเรียกแทนตัวเองว่าเป็นเผ่าพันธุ์มังกรได้ ทว่ากลับไม่มีสิทธิ์เรียกว่ามังกรแท้
ดาวมังกรฟ้าไม่ใช่สถานที่ทั่วไป เมื่อหลัวซิวมาถึงที่แห่งนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่มีความจำเป็น เขาจึงเก็บพลังออร่าที่เป็นของมนุษย์ผู้ฝึกยุทธ์บนตัวเข้าไป
ในเผ่าพันธุ์มาร ก็มีอสูรยักษ์บางส่วนที่หลังจากกลายร่างแล้ว จะสลัดเอกลักษณ์และรูปร่างพิเศษของร่างดั้งเดิมทิ้งโดยสิ้นเชิงเช่นกัน เมื่อดูจากรูปร่างลักษณะภายนอกแล้วจะไม่ต่างอะไรจากเผ่าพันธุ์มนุษย์เลย เพราะฉะนั้นหลังจากเก็บพลังออร่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว ไม่ว่าหลัวซิวจะเดินไปถึงสถานที่แห่งใด ก็ไม่ถูกผู้อื่นมองว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์
ในเผ่าพันธุ์มังกร แซ่เอ้านั้นเป็นแซ่แห่งมังกรแท้ มีเพียงพวกเผ่าพันธุ์มังกรที่มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์แซ่เอ้า นี่จึงทำให้ขอบข่ายของหลัวซิวย่อเล็กลง ยืนยันความเป็นมาของเอ้าเจียงได้
รังมังกรเทวะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของดาวมังกรฟ้า มีเพียงเผ่าพันธุ์มังกรที่มีสายเลือดมังกรแท้บริสุทธิ์ ถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปฝึกตนในรังมังกรเทวะ
ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่ที่หลัวซิวมาถึงดาวมังกรฟ้าเป็นต้นมา เขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังรังมังกรเทวะเลย และถูกเผ่าพันธุ์มังกรสองสามคนสกัดกั้นไว้ตรงทางเข้าของรังมังกร
“รังมังกรเทวะคือแดนแห่งมังกรแท้ รีบถอยกลับให้ไว มิเช่นนั้นก็จะถูกฆ่าสถานเดียว!”
มาตรแม้นว่าเป็นองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้า ก็เป็นเผ่าพันธุ์มังกรหนุ่มที่มีสายเลือดมังกรแท้เช่นกัน แต่ละคนล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่ดีเลิศ วิสัยทัศน์เลิศล้ำ ลักษณะท่าทีแข็งกร้าว
หลัวซิวยืนอยู่เหนือศีรษะดูดจิต กวาดตามององครักษ์หนุ่มสองคนที่เฝ้าอยู่หน้ารังมังกรด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างเย็นชา: “ไปแจ้งเอ้าเจียง บอกแค่ว่าแซ่หลัวมาตามคิดบัญชีกับมันแล้ว ให้มันออกมาพบข้า”
“โอหัง! มึงใหญ่โตมาจากที่ใด? ถึงมีสิทธิ์ให้สิทธิ์พี่เอ้าเจียงออกมาพบมึง?”
ใบหน้าของเผ่าพันธุ์มังกรหนุ่มคนหนึ่งดูเหยียดหยาม คนดังกล่าวสัมผัสออร่าสายเลือดมังกรแท้จากตัวเขาไม่ได้แต่อย่างใด จึงเห็นได้เลยว่าเขาไม่ใช่คนในเผ่าพันธุ์มังกรแท้ และเมื่ออยู่บนดาวมังกรฟ้า ขอแค่ไม่ใช่มังกรแท้ ไม่ว่าเจ้าจะมีความเป็นมาอย่างใด เมื่ออยู่ต่อหน้ารังมังกรเทวะแล้วก็ล้วนต้องก้มหน้า
หลัวซิวรู้สึกหมดคำจะพูดมาก ๆ ผลการฝึกตนของเผ่าพันธุ์มังกรหนุ่มที่พูดอยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงมกุฎเทพ ต่อให้มีสายเลือดมังกรแท้ แล้วมันมีสิทธิ์มาทำตัวจองหองพองขนเช่นนี้ได้อย่างไร?
เพี๊ยะ!
เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงง้างมือแล้วฟาดลงไป ทั้ง ๆ ที่เขายืนห่างจากฝ่ายตรงข้ามไกลมาก ๆ แต่กลับใช้กฎปริภูมิ ตบเผ่าพันธุ์มังกรที่พูดจาจองหองคนนั้นจนกระเด็นออกไปในทีเดียว เลือดสดพุ่งกระฉูด
“กูไม่อยากพูดจาไร้สาระ ให้เอ้าเจียงออกมาพบกู มิเช่นนั้นก็รับผิดชอบผลลัพธ์ที่ตามมาด้วยตัวเองก็แล้วกัน!”หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
ขณะที่เขาไปตระกูลมู่นั้น เขาไม่ได้ทำตัวแข็งกร้าวแต่อย่างใด ทว่าที่นี่กลับแตกต่างกัน เอ้าเจียงอยากสังหารตัวเองครั้นเมื่ออยู่บนดาราเสวียนหมิง บัญชีนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสะสางดี ๆ
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามสามารถโจมตีมิตรสหายตนจนไร้แรงโต้กลับได้อย่างง่ายดาย สีหน้าของเผ่าพันธุ์มังกรหนุ่มที่เป็นองครักษ์คนนั้นจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก
“มึงบังอาจลงมือในรังมังกรเทวะอย่างนั้นหรือ?”ถึงแม้จะรู้สึกเกรงกลัว แต่อาศัยว่าสถานที่แห่งนี้คือรังมังกรเทวะ น้ำเสียงของคนดังกล่าวจึงไม่มีท่าทีที่จะอ่อนข้อให้เลยแม้แต่น้อย
“เพี๊ยะ!”
หลัวซิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง แล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง: “กูไม่อยากพูดคำพูดเดิมเป็นครั้งที่สอง ถ้าเกิดมึงอยากให้กูพูดอีกครั้งละก็ มันก็จะไม่ใช่ฝ่ามือเดียวอีกแล้ว”
“ช่างปากดียิ่งนัก เจ้าคิดว่ารังมังกรเทวะคือสถานที่แบบใด? ถึงบังอาจมาจองหองที่นี่?”
มีเสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวสะท้อนมา ผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มังกรที่ท่าทีน่าเกรงขามคนหนึ่งมาถึงภายในชั่วลมหายใจเดียว ดวงตาสีทองที่เยือกเย็นคู่นั้นร่วงลงบนตัวหลัวซิว