มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2555
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2555
หลังจากหลัวซิวออกจากดาวมังกรฟ้า นอกเหนือจากมังกรอาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นแล้ว มังกรอาวุโสอัจฉริยะที่ยังคงอยู่รอดจนกระทั่งปัจจุบันอีกสองคนที่เหลือก็ต่างพากันออกจากการปิดขังเช่นกัน
หลังจากผ่านไปไม่นาน ก็มีข่าวคราวส่งมาจากฝั่งตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ ถึงแม้ตระกูลมู่จะพยายามปิดข่าวอย่างสุดกำลังสามารถแล้ว แต่เรื่องที่หลัวซิวเข้าไปในตระกูลมู่ อีกทั้งสยบมู่เต๋อหนานได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปากก็แพร่งพรายออกไปอยู่ดี
ภายในเวลาชั่วขณะ กองกำลังทั้งหลายต่างจำเป็นต้องประเมินศักยภาพของหลัวซิวและเผ่าจี้ใหม่ นายแห่งเผ่าจี้บรรลุสู่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ก็ถือว่าเจริญรุ่งเรืองอย่างสุดขีดเหมือนดวงตะวันอยู่กลางฟ้าแล้ว ในยุคปัจจุบัน ก็มีเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิที่คงอยู่มาหลายร้อยล้านปีเท่านั้นถึงจะสามารถกดอัดเขาได้
ทว่าจู่ ๆ ข้างกายหลัวซิวกลับมีผู้ติดตามที่แข็งแกร่งปรากฏอีกคนหนึ่ง อ้างอิงจากร่างกายที่สูงหลายร้อยเมตรของคาดิสลาร์ที่แสดงให้เห็นในรังมังกรเทวะ มีคนนึกโยงถึงหุ่นเชิดระดับจักรพรรดิเทพที่หลัวซิวพึ่งพาเมื่อก่อนหน้านี้ เพราะหุ่นเชิดที่เขากลั่นได้เมื่อครั้นนั้น ก็เลียนแบบรูปร่างลักษณะตามยักษ์อัสนีนี่แหละ
มีคนจำนวนไม่น้อยต่างคาดเดาว่ายักษ์ที่สูงหลายร้อยเมตรนั่น มีโอกาสมาจากเผ่าจี้สูงมาก ๆ!
แต่ทว่าเผ่าจี้กลับไม่ทราบเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ สำหรับความเป็นมาของคาดิสลาร์นั้น นอกจากหลัวซิวแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดทราบอีกเลย
ในส่วนของหุบเขาลั่วหยุนแห่งดารายอดอัมพรนั้น อดีตเคยมีคนเข้าไปอยู่ ทว่าผู้ที่มีชีวิตรอดออกมากลับมีน้อยมาก ขอแค่กล้าบุกรุกเข้าไปในหุบเขาที่มีมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลผนึกอยู่ ก็ไม่มีผู้ใดมีชีวิตรอดออกมาได้เลย
หลัวซิวยังไม่ออกจากโลกาบรรพมาร เขาก็รู้แล้วว่าเรื่องที่ตนสร้างไว้ในตระกูลมู่และเผ่าพันธุ์มังกรแท้ก็แพร่งพรายออกไปตามช่องทางต่าง ๆ แล้ว ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ากองกำลังอย่างสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนต้องมีการเตรียมป้องกันล่วงหน้าอย่างแน่นอน
ตั้งแต่ออกจากดาวมังกรฟ้าเป็นต้นมา หลัวซิวก็มุ่งหน้าตรงไปยังมหาโลกาจ้านเทียน เมื่อเขามาถึงสำนักเขาของสำนักจักรพรรดิจ้านเทียน ผู้อาวุโสจักรพรรดิเทพคนหนึ่งของสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนก็รีบเข้ามาต้อนรับอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมอบยาเซียนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ต้นหนึ่งให้อย่างเกรงใจมาก ๆ
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น นอกจากยาเซียนหนึ่งต้นแล้ว สำหรับเรื่องที่พระโอรสจ้านเทียนลงมือต่อหลัวซิวครั้นเมื่ออยู่บนดาราเสวียนหมิงนั้น สำนักจักรพรรดิจ้านเทียนให้การชดเชยด้วยตนเองเช่นกัน นี่จึงทำให้หลัวซิวถึงขั้นหาข้ออ้างลงมือไม่ได้เลย
ในส่วนของพระโอรสจ้านเทียนนั้นกลับไม่กล้าเปิดเผยใบหน้า นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกเสียใจทีหลังเล็กน้อยที่ไปเผ่าพันธุ์มังกรแท้ ถ้าเกิดเขามาสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนก่อน ต้องสามารถหลอกต้มทรัพยากรที่มากกว่าได้แน่นอน เนื่องจากมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนเพิ่งดับสลายสูญสิ้นได้ไม่นาน สำนักนี้เคยมีมหาจักรพรรดิยุทธ์อุบัติสองคน ภูมิฐานทรัพย์สินนั้นแน่นหนาอย่างมาก
หลัวซิวเป็นคนที่มีหลักการในตนเอง เมื่อผู้อื่นเกรงใจต่อเขา เขาก็จะเกรงใจต่อผู้อื่นเช่นกัน สำนักจักรพรรดิจ้านเทียนวางลักษณะท่าทีลงและให้การชดเชยขอสงบศึกด้วยตนเอง เขาก็ลงมือหักหน้าผู้อื่นก่อนไม่ได้ สุดท้ายจึงทำได้เพียงรับของมาแล้วจากไป
จากนั้นหลัวซิวก็เดินทางไปโลกาวิหารเทวต่อ ตำหนักเสินหยูนั้นยิ่งเด็ดเดี่ยวกว่ามาก เขายังไปไม่ถึงดาราเสินหยูผู้อาวุโสของตำหนักเสินหยูก็มาหาเขาก่อนทันที จับกุมตัวเซียวจื้อหยวนมาโดยตรง บอกว่าจะให้เขาจัดการเซียวจื้อหยวนเต็มที่ อีกทั้งจะให้การชดเชยด้วย
ถึงแม้คนอย่างเซียวจื้อหยวนจะน่ารังเกียจมาก ทว่าหลัวซิวก็ไม่ได้เอาเขามาไว้ในสายตาเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยตำหนักเสินหยูไปง่าย ๆ ด้วย ขอยาเซียนระดับหกห้าต้นกับฝ่ายตรงข้ามเหมือนเผ่าพันธุ์มังกรแท้
……
ต่อมา เป้าหมายของหลัวซิวก็ได้ผนึกไปที่มหาโลกะมรณะ ในบรรดาตระกูลสำนักจักรพรรดิทั้งหมดนี้ สำนักจักรพรรดิมรณะเป็นกระดูกหนึ่งชิ้นที่แทะยากที่สุดอย่างไร้ข้อสงสัยเลย ตัวมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเองมีศักยภาพที่แข็งแกร่งไม่ว่า เขายิ่งมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในสวรรค์ในยุคไท่ชู โดยเฉพาะหลังจากออกมาจากวังเทียนหมิงแล้ว ศักยภาพของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็เพิ่มทวีขึ้นทุกวัน ตกลงเขามีไพ่เด็ดท่าไม้ตายอย่างไรนั้น หลัวซิวก็คาดการณ์ไม่ได้เช่นกัน
แต่ทว่าสำหรับการเดินทางไปมหาโลกะมรณะในครั้งนี้ หลัวซิวไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย ต่อให้มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่มีทางบรรลุถึงแดนเทพมารระดับเจ็ด เช่นนั้นก็ไม่มีทางช่วยคู่ต่อสู้ของคาดิสลาร์แน่นอน ต่อให้มีอุบายไพ่เด็ดอยู่บ้าง มันก็เป็นเพียงอุบายที่มีความเกี่ยวข้องกับพลังแห่งสวรรค์ เขามีศิลาผนึกปีศาจ จึงไม่ต้องเกรงกลัวอะไรมากนัก