มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2562

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2562

นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกหมดคำจะพูดเล็กน้อย สิ่งที่เขาใช้นั้นคือเม็ดยาเซียนระดับหกที่สามารถทำให้จักรพรรดิเทพบรรลุสู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ได้เชียวนะ มาตรแม้นว่าเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่นึกเลยว่ายังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาทลายสู่แดนจ้าวมหาเทพ หากไม่มีโอสถเวทย์อลวนละก็ เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้เขาก็อย่าคิดที่จะได้บรรลุอีกเลยมิใช่หรือ?

หลัวซิวกัดฟันแน่น จากนั้นเขาก็หยิบโอสถเวทย์อลวนชั้นสูงออกมาอีกหนึ่งเม็ด แล้วกลืนกินมันโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ครั้งนี้เขาสัมผัสประตูแห่งกฎเกณฑ์ได้ชัดเจนมากกว่าเดิมแล้ว ทว่าก็ยังขาดอีกเล็กน้อยอยู่เช่นเคย

“เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย!”

มีความแน่วแน่เสี้ยวหนึ่งกระพริบผ่านไปในแววตาหลัวซิว เขาหยิบโอสถเวทย์อลวนชั้นยอดเพียงหนึ่งเดียวออกมา หากทำขนาดนี้แล้วยังไม่บรรลุอีกละก็ เขาก็ไม่มีวิธีการอื่น ๆ อีกแล้วล่ะ เนื่องจากสามารถกินยาประเภทนี้ได้สูงสุดแค่สามเม็ดเท่านั้น หากกินต่อละก็ จะไม่มีประสิทธิผลใด ๆ อีก

อย่างไรเสียต่อให้เป็นยาเซียน มันก็ไม่ได้มีความสามารถสารพัดอย่าง

หลังจากกินโอสถเวทย์อลวนเม็ดที่สามลงไปแล้ว พลังผลการฝึกตนที่อยู่ภายในร่างกายหลัวซิวก็บ้านระห่ำถึงขีดสุด หลัวซิวรู้สึกแค่ว่าร่างกายของตัวเองใกล้จะแตกสลายแล้ว มีรอยร้าวปรากฏตามร่างกายหลายจุด ร่างยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพใกล้จะแตกสลายแล้ว

อั่กก!

หลัวซิวกระอักเลือดออกมาเฮือกหนึ่ง เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าพลังที่สะสมอยู่ในร่างกายตัวเองแข็งแกร่งมากเกินไป หากไม่สามารถลงมือแก้ไขได้ทันท่วงที ร่างกายเขาต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอน

เขาผนึกรวมสติความคิด สัมผัสตำแหน่งของประตูแห่งกฎเกณฑ์ จากนั้นก็กระตุ้นพลังในร่างกายพุ่งโจมตีเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……

ในที่สุดเขาก็สัมผัสประตูแห่งกฎเกณฑ์ได้สักที จากการพุ่งโจมตีในทุก ๆ ครั้ง ร่างกายของเขาก็จะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รอยแผลที่แตกร้าวตามร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้น ทว่าเขากลับไม่สนใจเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เลยแม้แต่น้อย แค่ทุ่มสุดกำลังสามารถเพื่อไปทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์

ตู้มม!

ในที่สุดประตูแห่งกฎเกณฑ์ก็ถูกเขาโจมตีจนแตกแยกออกเป็นช่องเล็ก ๆ ทำให้เขาสัมผัสความล้ำลึกทั้งปวงของแดนจ้าวมหาเทพได้ภายในพริบตา นี่ไม่ใช่แดนจ้าวมหาเทพทั่วไป แต่เป็นแดนจ้าวมหาเทพที่เป็นของตัวเขาเอง!

เนื่องจากสิ่งที่เขาฝึกคือวิถีไร้ลักษณ์ เป็นวิถีที่ไม่เคยมีผู้ใดฝึกมาก่อน เพราะฉะนั้นเขาที่บรรลุขึ้นไปถึงทุก ๆ แดนด้วยวิถีนี้ จึงแตกต่างจากผู้อื่น

แดนจ้าวมหาเทพของผู้อื่น มากสุดแค่สามารถยึดกุมกฎขั้น 9 ส่วนแดนจ้าวมหาเทพของเขา เมื่อใช้วิถีไร้ลักษณ์จะสามารถวิวัฒนาการพลังกฎขั้น 10 ในฟ้าดินออกมาได้อย่างง่ายดายเลย!

ซึ่งนี่ก็หมายความว่าแดนจ้าวมหาเทพของเขา เท่ากับแดนจักรพรรดิเทพของผู้อื่น!

การเวียนว่ายตายเกิดห้วงเวลา เบญจธาตุหยินหยาง ลมอัสนีตรีภพ……ทุกครั้งที่วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการ ก็จะทำให้เขาตระหนักรู้วิถีทั้งปวงในฟ้าดินได้ลึกซึ้งมากขึ้น จนทำให้เขาปรับปรุงวิถีไร้ลักษณ์ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น จากการที่ผลการฝึกตนมีการบรรลุ เคล็ดเทวกลั่นวิญญาณก็มีการบรรลุเช่นกัน ตัวสำนึกวิญญาณของเขาก้าวขึ้นไปสู่จ้าวมหาเทพขั้นสูงในครั้งเดียว

“แคว็กก!”

ประตูแห่งกฎเกณฑ์ถูกทลายในทีเดียว พันธนาการแตกสลายหายไปแล้ว วินาทีนี้หลัวซิวรู้สึกว่าจิตวิญญาณของตัวเองสุขุมเยือกเย็นอย่างยิ่ง วิถีไร้ลักษณ์ของเขาก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย ราวกับมองเห็นเส้นทางในอนาคต

เสี้ยววินาทีที่ผลการฝึกตนบรรลุ เสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้องก็ปรากฏกลางนภา ทั้งดาราเมฆาทมิฬถูกเมฆครึ้มที่ไร้ขอบเขตปกคลุม

หลัวซิวรู้อยู่ว่านี่คือทัณฑ์สายฟ้าพิโรธของเขา เนื่องจากเขาคือบำเพ็ญปรปักษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่เทียนเต้าไม่อาจยอมรับ ขณะที่บรรลุแดนเล็กจะมีทัณฑ์สายฟ้าพิโรธย่างกรายมาเสมอ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบรรลุในแดนใหญ่เลย

ผู้แข็งแกร่งวิถียุทธ์ทั่วไปที่บรรลุแดนใหญ่ก็มีทัณฑ์สายฟ้าพิโรธเช่นกัน แต่เนื่องจากเขาคือบำเพ็ญปรปักษ์ พลานุภาพของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธจึงจะสยองน่ากลัวกว่ามาก ๆ

“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……”

ร่างกายหลัวซิวสั่นเทิ้ม ยันต์ค่ายทั้ง 99 ยันต์ที่สลักจารึกอยู่บนร่างเนื้อก็พากันแตกสลาย

ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพแล้ว เขาสามารถสลักจารึกยันต์ค่ายที่ทรงพลังมากกว่าลงไปในร่างเนื้อ

อีกทั้งตัวหยั่งรู้ของเขาก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน หลังจากสลักจารึกยันต์ค่ายที่ทรงพลังมากกว่าลงไปแล้ว พลังตัวสำนึกวิญญาณก็สามารถเพิ่มขึ้นจนแข็งแกร่งมากกว่าเดิมได้เช่นกัน