มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2583

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2583

หลังจากการต่อสู้เมื่อครู่นี้ หยูเฉิงเหวินรู้แล้วว่าแม้ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าหลัวซิว แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าหลัวซิว ความแข็งแกร่งของหลัวซิวไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจักรพรรดิเทพตามข่าวลือที่ได้ยินมา และความเก่งกาจก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเทพขั้น 7 ด้วยซ้ำ

ในขณะนี้ ออร่าที่ทรงพลังกระแทกมาอย่างกะทันหัน ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในอนัตตาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากการต่อสู้ระหว่างหลัวซิวและหยูเฉิงเหวิน

“เจ้าสำนัก!”หยูเฉิงเหวินตะโกนพร้อมด้วยความยินดีบนใบหน้า หวังว่าเจ้าสำนักจะช่วยเหลือเขา

คนที่มาที่นี่คือเจ้าสำนักสำนักจักรพรรดิแสงดาว เขาเห็นว่า หยูเฉิงเหวินกำลังต่อสู้กับหลัวซิว เดิมทีเขาก็คิดจะช่วยเหลือ แม้ว่าสำนักจักรพรรดิแสงดาวไม่อยากเป็นศัตรูกับเผ่าจี้ แต่เรื่องที่หลัวซิวทำในแผ่นดินแสงดาวนั้นเกินไปแล้ว ตระกูลหยูและสำนักจักรพรรดิแสงดาวสนิทกัน และหลัวซิวทำลายตระกูลหยูเท่ากับตบหน้าสำนักจักรพรรดิแสงดาว

ไม่ว่าหลัวซิวจะน่าทึ่งแค่ไหน เขาก็ยังเป็นผู้เยาว์ สำหรับสำนักจักรพรรดิแสงดาว แม้ว่าจะฆ่าเขาแล้วจะทำให้เผ่าจี้โกรธแค้น แต่สำนักจักรพรรดิแสงดาวก็ไม่กลัว

แม้ว่าจี้จู่จะกลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว แต่สำนักจักรพรรดิแสงดาวก็ยังเคยมีมหาจักรพรรดิยุทธ์มาก่อน และมีการปกป้องที่สืบทอดจากบรรพบุรุษเหลือไว้ให้

นอกจากนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลจี้จะต่อสู้กับสำนักจักรพรรดิแสงดาวจนตายไปข้าง เพื่อหลัวซิวคนหนึ่งที่ตายไปแล้วหรอกนะ?

แต่ในขณะที่เขากำลังจโจมตี ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นสายตาที่จ้องมองมาที่เขา แม้ว่าจะเป็นเพียงการจ้องมองก็ทำให้เจ้าสำนักจักรพรรดิแสงดาวตัวสั่นโดยไม่ตั้งใจ

เขามองไปที่เจ้าของสายตา ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งชายร่างกำยำเหมือนยักษ์ตัวน้อยหอคอยเหล็ก เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของคนๆนี้ เมื่อตอนที่เขาอยู่ในตระกูลมู่ เขายกมือขึ้นและปราบปรามผู้อาวุโสจักรพรรดิเทพคนหนึ่งของตระกูลมู่ เปป็นไปได้ว่าเป็นจักรพรรดิเทพช่วงปลายคนหนึ่ง หรือเป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพแดนขั้นสูง

แต่ถึงแม้จะเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง ก็จะไม่ทำให้เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงได้ ในฐานะประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิ เขายังเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงและเขาอยู่ห่างจากผู้มหาจักรพรรดิยุทธ์เพียงครึ่งก้าว

ในขณะนี้ ประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิเข้าใจเล็กน้อยแล้วว่าไม่น่าแปลกใจที่หลัวซิวกล้าที่จะไปไหนมาไหนในมหาโลกาโดยไม่เกรงกลัว เช่นตระกูลมู่ เผ่ามังกร ตำหนักเสินหยู และแม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะหลัวซิวคนนี้มั่นใจมาก!

เป็นไปได้ไหมว่าผู้แข็งแกร่งเช่นยักษ์ตัวน้อยหอคอยเหล็กจะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ท่านหนึ่ง?

การปรากตัวของประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิอแน่นอนว่าหลัวซิวชเห็นแล้ว ในขณะเดียวกันก็เห็นความยินดีบนใบหน้าของ หยูเฉิงเหวิน

แต่หลัวซิวไม่สนใจการปรากฏตัวของประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิเลย มีลาร์อยู่ที่นี่ แม้ว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์จะมาเขาก็จะไม่ให้พวกเขาได้ผลประโยชน์แม้แต่น้อย

ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวไม่ได้คิดจะปล่อยหยูเฉิงเหวินไป ในเมื่อประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่อยากต่อสู้กับหยูเฉิงเหวินอยู่ที่นี่ต่อไป เขาใช้กฎพลังอมตะเวลาโดยตรง

ในชั่วพริบตา เวลาหยุดนิ่ง และเหนือศีรษะของหลัวซิว มีแม่น้ำสายยาวมายาไหลผ่านและไหลเชี่ยวกราก นี่คือพลังอมตะของเพลาไหลรวย

เมื่อก่อนเมื่อตอนที่หลัวซิวยังไม่บรรลุจ้าวมหาเทพ การเปลี่ยนแปลงเพลาไหลรวยจะกินเวลาผลการฝึกฝนของเขาไปมาก แต่ตอนนี้เขาคือแดนจ้าวมหาเทพแล้ว และแม้ว่าจะใช้เวลามากเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทนไม่ได้

เมื่อเพลาไหลรวยออกมา ทุกสิ่งก็สงบนิ่ง แม้ด้วยพลังแห่งกฎที่หยูเฉิงเหวินใช้อย่างบ้าคลั่ง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของกฎพลังอมตะ

พรึบ!

กระบี่ร่องฟ้าแทงทะลุคิ้วของ หยูเฉิงเหวินโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง จากนั้นอัคคีเทพเข้มขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้น เผาร่างของเขาเป็นเถ้าถ่าน

หลัวซิวยกมือขึ้นและคว้าแหวนของ หยูเฉิงเหวินจากนั้นเงยหน้าขึ้นมองประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิที่ปรากฏตัวที่นี่