มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2614
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2614
“ข้าไม่มีบุญคุณความแค้นอะไรต่อพวกเจ้า เหตุใดพวกเจ้าจึงต้องวางแผนลอบทำร้ายข้าเช่นนี้ด้วย?”หงหวู้พูดด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ไอ้แก่มึงหน้าด้านเกินไปหรือเปล่า? เมื่อครู่ผู้ใดเป็นคนบอกว่าต่อให้ข้ามีสามเศียรหกกร วันนี้ก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้?”หลัวซิวยิ้มเยาะพลางถาม
“หากมึงบังอาจจะต้องตัวกู ตระกูลหงไม่มีทางจบกับมึงแน่!”หงหวู้ตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว
“พูดมากมากชิบหาย”
หลัวซิวง้างมือปล่อยวิกลหนึ่งออกไป ถัดจากนั้นเพลาไหลรวยก็พรั่งพรูออกมา ก่อนจะมีพลังเต๋าของเกณฑ์เวลาไหลไหลเวียนออกมา ทำการผนึกร่างหงหวู้เอาไว้แน่น ๆ ภายในพริบตา
ตู้มม!
ร่างกายลาร์เคลื่อนไหวครั้งหนึ่ง ร่างเนื้อที่ทรงพลังกดอัดปริภูมิโดยตรง แล้วไปถึงตรงหน้าหงหวู้ภายในชั่วพริบตาเดียว ภายใต้ผลกระทบจากพลังเต๋าเกณฑ์เวลา หงหวู้ไม่ทันได้ต่อต้านอะไรเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกลาร์ตบจนระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด
ทันทีที่หงหวู้ตายไป ธงค่ายนับพันผืนจึงตกอยู่ในการควบคุมของหลัวซิวโดยสิ้นเชิง เขาหลับตาลงและเริ่มอนุมาน เนื่องจากก่อนหน้านี้หงหวู้ได้จัดวางทุกอย่างไว้แล้ว เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงใช้มันเป็นพื้นฐานในการอนุมานต่อ ก่อนที่เขาจะเริ่มชำนาญคล่องแคล่วต่อธงค่ายทั้งหลายอย่างรวดเร็ว
“อยู่ที่นี่ ตามข้ามา!”
ผ่านไปไม่นานนัก หลัวซิวก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมากะทันหัน จากนั้นเงาร่างก็กระพริบทีหนึ่ง แล้วพุ่งเข้าไปในภูเขาถูหลิง
และในเวลานี้เอง ม้วนหยกวิญญาณชีวีของหงหวู้ก็แตกสลาย ทำให้ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างของตระกูลหงต่างช็อกเป็นอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสไท่ซ่างทุกคนในตระกูลหงล้วนออกจากการปิดขัง ต่างพากันมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของภูเขาถูหลิงโดยที่มีนายแห่งตระกูลหงเป็นผู้นำ
……
เมื่อกลุ่มคนตระกูลหงที่โกรธเกรี้ยวอย่างยิ่งย่างกรายมาถึงภูเขาถูหลิง จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ในละแวกใกล้เคียงของภูเขาถูหลิงก็ต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึงมาก สัมผัสได้ถึงอานุภาพอันมากมายมหาศาลที่ตลบฟุ้งไปทั่วแผ่นฟ้า
แต่พวกคนจากตระกูลหงกลับเห็นเพียงภูเขาถูหลิงที่ระเกะระกะ เงาร่างของหลัวซิวและมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิทั้งสามคนหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว
ผู้ที่เดินทางมาพร้อมกับนายแห่งตระกูลหง ยังมีบรรพอาจารย์มหาจักรพรรดิยุทธ์จากแสงดาว จ้านเทียนและมหาวาลด้วย หลังจากพวกเขาหลบหนีออกไปจากภูเขาถูหลิงได้แล้ว ก็ย่อมต้องรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว ดังนั้นจึงรีบแจ้งให้ตระกูลหงที่อยู่ใกล้ที่นี่มากที่สุดทราบ
ทว่าพวกเขาก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าคอยพวกเขาเร่งเดินทางกลับมาถึงที่นี่อีกครั้ง ไม่เพียงแค่หงหวู้เสียชีวิตไปแล้ว หลัวซิวและมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็หายวับไปแล้วด้วย ค่ายกลต้องห้ามที่นับไม่ถ้วนที่คงอยู่ในภูเขาถูหลิงในตอนแรกก็ถูกทลายจนเกลี้ยง แค่คิดก็พอจะทราบได้แล้วว่าสมบัติที่คงอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ถูกเอาไปแล้วแน่นอน
“หลัวซิว! มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ! ตระกูลหงจะไม่จบไม่สิ้นกับพวกมึง!”นายแห่งตระกูลหงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนหน้านี้เรื่องที่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลหง โอรสสวรรค์โชคลาภถูกหลัวซิวสังหารในแดนเทวนิรันกาลยังไม่จบ บัดนี้นักค่ายเทพระดับหกอย่างหงหวู้ก็ตายอยู่ในเงื้อมมือฝ่ายตรงข้ามด้วย วินาทีนี้ความเกลียดชังที่ตระกูลหงมีต่อหลัวซิวนั้น สามารถพูดได้เลยว่าบรรลุถึงขีดสูงสุดในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในส่วนของเวลานี้นั้น หลัวซิวและมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิออกจากดาราที่ภูเขาถูหลิงตั้งอยู่ตั้งนานแล้ว มาตรแม้นว่าโลกาโกลาหลจะเป็นอาณานิคมของตระกูลหง จากอุบายของพวกเขาทั้งสองคน ก็สามารถหลุดพ้นจากการตามสะกดรอยและการค้นหาของตระกูลหงได้อย่างง่ายดายเลย
ภายในภูเขาถูหลิงมียอดเขาเยอะมาก มีทั้งสูงเตี้ยเล็กใหญ่ ปริมาณเยอะมาก ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์เลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวใคร่ครวญแนวคิดในการทลายค่ายกลของหงหวู้ จากนั้นเขาก็อาศัยระดับฝีมือด้านค่ายกลของตนเองอนุมานค่ายกลเหล่านั้นต่อ ใช้เวลาไม่นานก็เจอจุดที่เป็นแกนกลางในการทลายค่ายกลต้องห้าม และได้รับสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูเขาถูหลิงมา
ซึ่งมันคือหินแก้วที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบเจ็ดเมตร ตัวหินแก้วคือสีเขียวล้วน มีออร่าเกณฑ์พลังเต๋าฟ้าดินซ่อนอยู่ภายในด้วย
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิไม่รู้จักสิ่งนี้ ทว่าเพียงแวบเดียวหลัวซิวก็ดูออกแล้วว่านี่คือหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งก้อน
ถึงแม้จะเป็นกรองแก้วมรกตที่ระดับขั้นต่ำที่สุดในหินแก้วดั้งเดิม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้ว กรองแก้วมรกตดั้งเดิมที่ใหญ่โตขนาดนี้หนึ่งก้อน มูลค่าของมันไม่ด้อยกว่าหินบรรพไท่ชูที่อยู่ในมือเขา
โดยส่วนใหญ่แล้วหินแก้วดั้งเดิมเป็นสมบัติที่ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเจ็ดเป็นต้นไปนำมาฝึกตน ภายในหินแก้วประเภทนี้จะมีออร่าเกณฑ์พลังเต๋าฟ้าดินแฝงซ่อนอยู่โดยธรรมชาติ เมื่อใช้สมบัติประเภทนี้มาฝึกตนเป็นเวลานาน ก็จักตระหนักรู้ในความล้ำลึกของเกณฑ์พลังเต๋าได้ง่ายกว่า
ของมหัศจรรย์ที่ถูกฟ้าดินหล่อเลี้ยงออกมานั้น ไม่มีทางได้ครอบครองง่าย ๆ อยู่แล้ว แสงเทวที่ร่วงหล่นลงมาจากอนัตตาเมื่อหลายสิบล้านปีก่อนก็น่าจะเป็นกรองแก้วมรกตดั้งเดิมก้อนนี้แหละ เกณฑ์พลังเต๋าที่แฝงซ่อนอยู่ภายในกรองแก้วมรกตได้แผ่กระจายออกมา จนประกอบเป็นค่ายกลต้องห้ามที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ มีเพียงทลายตัวต้องห้ามเหล่านั้น ถึงจะเจอตำแหน่งของกรองแก้วมรกตแล้วได้ครอบครองมัน
หลัวซิวกลุ้มใจอยู่กับเรื่องทรัพยากรการฝึกตนมาโดยตลอด ไม่นึกเลยว่านี่เพิ่งลงมือปฏิบัติการเพียงครั้งเดียว ก็ได้รับกรองแก้วมรกตดั้งเดิมที่ใหญ่โตขนาดนี้มาหนึ่งก้อนแล้ว หากไม่มีข่าวคราวที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจัดเสนอให้ เขาคาดว่าตนคงต้องพลาดโอกาสได้ครอบครองกรองแก้วมรกตดั้งเดิมก้อนนี้ไปแล้วล่ะ หากตระกูลหงได้ครอบครองมัน ไม่แน่ก็อาจจะมีคนสามารถใช้เกณฑ์พลังเต๋าที่แฝงซ่อนอยู่ภายในกรองแก้วมรกตมาทดแทนเกณฑ์ที่ขาดตกบกพร่องของห้วงดาราแห่งนี้ จนส่งผลให้บรรลุถึงแดนเทพมารระดับเจ็ด!