มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 344 วิชาพลังมังกรแท้วรยุทธ์ระดับ8
“เหอะ เหอะ……”
จู่ ๆเหว้ยห้าวหรานก็หัวเราะออกมา และกระทบเข้าหูของจักรพรรดิยุทธ์ และทันใดนั้นสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป
เพราะทุกคนที่คุ้นเคยกับคนนี้รู้ดีว่าเมื่อเขายิ้มแบบนี้หมายความว่าเขาต้องการทำเงินอีกเป็นจำนวนมาก
“ตำหนักดำแห่งนี้ได้รับการปกป้องโดยค่ายคุ้มกัน” เหว้นห้าวหรานเหยียดสองนิ้วออก จับเคราบนคางของเขา และพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเลห์
“ไร้สาระ!” จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นเผยสีหน้าแย่ของพวกเขา เพราะพวกเขากังวลเรื่องค่ายคุ้มกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กระทำการที่หุนหันพลันแล่น
จากสมัยโบราณนับหมื่นปี วิชาค่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันล้วนไม่ธรรมดา สีหน้าของจักรพรรดิยุทธ์หลายคนดูเหมือนจะกินแมลงวันตายเพราะวิชาค่ายมีอยู่จริง ก็หมายความว่าพวกเขาจะถูกรีดไถเงินโดยไอ้หน้าเงินเหว้ยห้าวหรานอีกครั้ง
ในการสำรวจซากปรักหักพังโบราณ และต้องพานักค่ายกลไปด้วย และนักค่ายกลก็เป็นกลุ่มคนที่ได้รับความนิยมและทำเงินได้เร็วสุดในเรื่องนี้ด้วย
หากปราศจากคำแนะนำของนักค่ายกลไม่ว่าฐานการฝึกฝนของคุณจะสูงแค่ไหนก็ยากที่จะทำลายค่าย หากต้องการสำรวจซากปรักหักพัง ก็ทำได้แค่จับจมูกและจ่ายให้กับนักค่ายกลเท่านั้น
หลัวซิวยังจ้องมองและสังเกตเห็นข้าง ๆตำหนักดำ ที่มีร่องรอยของค่ายอยู่จริง เป็นค่ายคุ้มกันขนาดใหญ่ และตกแต่งค่อนข้างลึกลับ ซึ่งเขาไม่ได้สังเกตในตอนแรก
เหว้ยห้าวหรานเห็นได้ในแวบแรก ซึ่งบอกได้เลยว่าระดับค่ายกลของเขานั้นสูงกว่าหลัวซิวขึ้นมาระดับหนึ่ง
ชั้น5และชั้น6ต่างกันแค่หนึ่งชั้น ในความเป็นจริงแล้วมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง นักค่ายกลชั้นห้าส่วนมาก ศีกษาค่ายกลมานานนับแสนปี พวกเขาอาจไม่สามารถทำตามขั้นตอนนี้ได้
“ไอ้หน้าเงินเหว้ย ตอนขึ้นมาเจ้าก็เก็บพวกข้าเกือบหนึ่งแสนชั้นกลาง ถ้าตอนนี้ยังต้องการเงินอีก มันจะมากเกินไปแล้ว” ฝานไท่เต๋อขมวดคิ้วพูด
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์กลั่นยาชั้นหกอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทนต่อวิธีไถเงินแบบนี้ได้ หากมีวิธีค่ายกลแบบโบราณอยู่ด้านใน ก็ต้องจ่ายอีกไม่ใช่เหรอ?
สีหน้าของจักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ๆ ก็ดูไม่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะเหว้ยห้าวหรานซึ่งเป็นนักค่านกลอันดับหกในอาณาจักร พวกเขาคงไม่เต็มใจที่จะมากับเขาอย่างแน่นอน
“การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักค่ายกลอย่างเรา ซึ่งต้องพึ่งพาสิ่งนี้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเก็บเงิน”เหว้ยห้าวหรานพูดด้วยเหตุผล
“แน่นอนว่าพวกเจ้าไม่ต้องจ่าย แต่ข้ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง” เหว้ยห้าวหรานกลอกตาและพูดอีกครั้ง
“เงื่อนไขคืออะไร?” จักรพรรดิยุทธ์ทั้งหมดมองมาที่เขาทีละคน
“หลังจากเข้ามาในตำหนักนี้แล้ว ถ้ามีสมบัติอยู่ในนั้น ให้ข้าเลือกก่อน ตราบใดที่เจ้ายอมรับเงื่อนไขนี้ ตราบใดที่เจ้าพบค่ายกลด้านในนั้น ข้าจะลงมือทำลายพวกมัน และจะไม่เรียกค่าชดเชยเพิ่มเติมใด ๆ ”
เหว้นห้าวหรานยื่นข้อเสนอนี้ออกมา ทำให้จักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทุกคนถึงกับต้องขมวดคิ้ว
โดยเฉพาะจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง, ฝานไท่เต๋อและเฒ่าประหลาดฉิวคนนี้ที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้ามีสมบัติล้ำค่าปรากฏ พวกเขาคเป็นคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในการแย่งชิง ถ้ารับข้อเสนอของเหว้นห้าวหรานแล้ว ก็เป็นการสละให้คนอื่น ?
มีคนมากมายที่นี่ เมื่อพวกเขาเห็นด้วย ก็ไม่สามารถคืนคำได้ มิฉะนั้น ใครจะอยากทำธุรกิจอีกในอนาคต ไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ?
ผลการฝึกตนถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้ พึ่งพาตบะตัวเองล้วน ๆ และยากมากที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ ดังนั้นเหล่าจักรพรรดิยุทธ์ มักจะแลกเปลี่ยนสิ่งที่พวกเขาต้องการซึ่งกันและกัน และให้ความสำคัญกับประเด็นความน่าเชื่อถือมากขึ้น
“ข้อเสนอนี้ข้าไม่เห็นด้วย ไอ้หน้าเงินเหว้ย เจ้ามีหน้าที่ทำลายค่ายกลและกำหนดราคามาซะ” จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ท่ามกลางฝูงชน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าเขาสามารถได้รับสมบัติล้ำค่าจากซากปรักหักพังของถ้ำจากจักรพรรดิยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ค่าใช้จ่ายในการทำลายค่ายกลสำหรับเหว้ยห้าวหราน ก็ไม่น่าจะพูดถึงอีกแล้ว
จักรพรรดิยุทธ์ที่อ่อนแอกว่าบางคนรู้สึกว่ามันไม่สำคัญ เพราะพวกเขาไม่มีความคิดที่จะแข่งขันเพื่อชิงสมบัติล้ำค่าอยู่แล้ว คิดเพียงว่าจะได้รับโอกาสอื่น ๆ ในซากปรักหักพังของถ้ำเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงได้กล่าวไว้แล้ว คนอ่อนแอเหล่านี้ทำได้เพียงนิ่งเงียบและทำตามแนวโน้ม
“กำหนดราคามาเถอะ” ฝานไท่เต๋อ อาจารย์หงหมิง เฒ่าประหลาดฉิว และสำนักเสวียนหยางคนอื่น ๆ ก็พูดเช่นกัน
“นี่คือรูปแบบของค่ายคุ้มกันที่ดึงเอาพลังของคีตโลกามารวมกัน หลังจากผ่านไปหลายหมื่นปี พลังก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ข้าทำลายมันเองไม่ได้ แต่สามารถหาที่ที่เหมาะสมที่สุดได้ และเก็บน้อยลงหน่อย. .”
ขณะที่เหว้ยห้าวหรานพูด เขาก็ยื่นมือออกและกางนิ้วทั้งห้าออก
“ห้าหมื่น?” เว้นจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงและคนอื่น ๆ ที่มีสีหน้าปกติ จักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ๆ ต่างแสดงสีหน้าไม่ดีในทันใด
หลัวซิวก็ตกตะลึงเล็กน้อย มันง่ายมากสำหรับนักค่ายกลสายมืดที่จะหาเงิน เพียงแค่หาจุดที่จะทำลายค่ายนั้น ต้องคิดราคา ห้าหมื่น?
บวกจักรพรรดิยุทธ์ที่มีอยู่แล้ว ก็ประมาณเจ็ดแปดแสน เงินที่ได้มาง่ายเกินไปแล้ว
ในความคิดของหลัวซิว มีเพียงสำนวนเดียว สิ่งล้ำค่าที่ได้มายาก!
เนื่องจากนักค่ายกลเป็นกุญแจสำคัญในการทำลายค่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักค่ายกลที่รู้จักค่ายโบราณดีที่สุดในบรรดาพวกเขา
จักรพรรดิยุทธ์ทั้งหมดหยิบหินพลังจิตชั้นกลางออกมาทีละชิ้น ใบหน้าของเหว้นห้าวหรานเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีรอยย่น และอดไม่ได้ที่อยากจะตบปากเขาซักทีสองที
หลัวซิวยังคงหาหินพลังจิตชั้นกลางไม่ได้ หลังจากเอาออกมาติดต่อกันสองแสน สวีจิงเหนียนจากอาจารย์ตระกูลสวีคนนี้ ก็รู้สึกอับอายเล็กน้อย
ครั้งนี้หลัวซิวไม่ได้ตั้งใจจะขอความช่วยเหลือคนอื่น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็หยิบแผ่นหยกออกมาแล้วยกมือขึ้นแล้วโยนให้เหว้ยห้าวหราน
“หือ? วรยุทธ์ระดับ8ของวิชาพลังมังกรแท้?” เหว้นห้าวหรานคว้าแผ่นหยกและสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็แทรกซึมเข้าไปสีหน้าเดิมก็แสดงความยินดีออกมา
ราวกับว่าเขากลัวว่าหลัวซิวจะกลับไป เขารีบใส่ใบหยกเข้าไปในแหวนเก็บของของเขา
วรยุทธ์ระดับ9 นั้นเทียบเท่ากับระดับตำนานในภูมิภาคของประเทศเทียนหวู และวรยุทธ์ระดับ8นั้นเป็นมรดกชั้นยอดอยู่แล้ว
แม้แต่ยักษ์สี่ตัวจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ฝานไท่เต๋อ หงหมิงและเหว้ยห้าวหรานต่างก็ฝึกฝนแบบฝึกหัดวรยุทธ์ระดับ8
แม้ว่าจะมีการฝึกระดับสูงที่สามารถเรียนรู้ได้ภายในแก๊ง แต่ก็ต้องได้รับอนุญาตด้วย
ตัวอย่างเช่นหลัวซิวที่มีอำนาจของอัจฉริยะในขั้นดำชั้นสูง สามารถซื้อวิชายุทธ์ระดับ9จากภายในองค์กรนักล่ายุทธ์ แต่สถานะการฝึกฝนของจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงนั้นสูงกว่าของหลัวซิว แต่เขากลับไม่มีอำนาจในส่วนนี้
เนื่องจากเป็นมรดกของวิชายุทธ์ระดับสูง จึงเปิดให้เฉพาะสมาชิกที่มีความสามารถเท่านั้น
นี่ยังหมายความว่าแม้ว่าจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงจะมีหินพลังจิตจำนวนมากอยู่ในมือ เขาไม่สามารถซื้อวิชายุทธ์ระดับ9จากภายในแก๊งได้
วิชายุทธ์ระดับ8นั้นทรงพลังอย่างแท้จริง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นหนึ่งในวิชายุทธ์ระดับ8อันดับต้น ๆ ในพื้นที่โดยรอบของประเทศเทียนหวู