มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 381 ได้รับไม่น้อย
“ไม่เพียงแค่นี้ ฉันสงสัยว่าเขาเป็นปรมาจารย์ค่ายกลขั้น6!” ชายหน้าบากพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ปรมาจารย์ค่ายกลขั้น6 ที่มีผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น2 งั้นหรอ แกกำลังล้อฉันเล่นหรือไง” เหอหวู่เจียงยากที่จะเชื่อ
“นายจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ หรงเซี๋ยตายไปแล้ว ฉันไม่อยากตายอยู่ที่นี่” ชายหน้าบากไม่พูดอะไรมาก หันหลังกลายเป็นลำแสงพุ่งออกไป
“ต่อหน้าฉัน นายอยากไปก็ไปอย่างนั้นเหรอ” ขณะนั้น เสียงหัวเราะเย็นชา ดังเข้ามาในหูชายหน้าบาก
สวบ!
หลัวซิวง้างมือขึ้นมาสะบัด ลำแสงหนึ่งพุ่งไปที่ขอบฟ้า เป็นธงขนาดเล็กลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ เห็นธงเล็กขยับ แสงค่ายพุ่งออกมา สลับไปมาบนท้องฟ้า กลายเป็นม่านแสงค่ายกล
ทันใดนั้น ม่านแสงค่ายกล ที่ปกคลุมรัศมีอาณาเขตร้อยเมตร รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เหมือนชามขนาดใหญ่ที่ล็อกเอาไว้ ปิดกั้นทั้งแถบฟ้าดิน
ชายหน้าบากที่คิดจะหนี โดนม่านแสงขวางเอาไว้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ใช้การโจมตี พยายามทำลาย แต่เมื่อโจมตีลงบนม่านแสง เกิดการกระเพื่อมเท่านั้น ไม่สามารถสั่นสะเทือนได้
“ค่ายกลขั้น5 ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาเป็นปรมาจารย์ค่ายกลขั้น6 จริงเหรอ” ชายหน้าบากสีหน้าซีดเผือดทันที
“ทุกคนฟังคำสั่ง เสกยันต์โจมตี” เหอหวู่เจียงแผดเสียงดังออกมา
ราชายุทธ์แต่ละคน ที่เข้ามาในแดนแต่งตั้งราชา ล้วนมียันต์ขั้น6 ติดตัว พวกราชายุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ล้วนมีกันทุกคน
ราชายุทธ์ยี่สิบคน โดนหลัวซิวฆ่าตายไป 7-8 คน 12 คนที่เหลือ ต่างพากันกระตุ้นยันต์โจมตี เหมือนกับผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ลงมือพร้อมกัน 12 คน
การโจมตีเช่นนี้ ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ขั้น1 ก็ต้องโดนโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
ทันใดนั้น หลัวซิวสัมผัสได้ว่ามีลมปราณอันแข็งแกร่งเพ่งเล็งตัวเอง ยันต์โจมตีขั้น6 ถูกกระตุ้น กลายเป็นลำแสงพุ่งออกไป
“การโจมตีนี้ฉันไม่สามารถต้านทานได้ แต่ไม่สามารถโจมตีโดนฉันได้”
หลัวซิวไม่หวาดกลัวแม้สถานการณ์คับขัน แสยะยิ้มเย็นชามุมปาก
ปีกทิพย์ไร้มลทินด้านหลังสั่นสะเทือน เขาคว้าฮู๋ชิงชิงที่อยู่ด้านข้าง หายแวบไปจากที่เดิม
ตู้ม!
พลานุภาพของยันต์โจมตี 12 ชิ้น น่าหวาดกลัวระดับไหน พื้นที่ขนาดใหญ่แตกกระจายในพริบตา กลายเป็นแถบช่องว่างสีดำ
พื้นที่โดนปกคลุมไปด้วยช่องว่างสีดำ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลาย แพร่กระจายไปเรื่อยๆ ทำให้ยอดเขาเตี้ยๆ สองลูก ล้มลง ราบเป็นหน้ากลอง
“ตายหรือยัง”
สายตาของทุกคนพากันหันไปมอง ว่ากันตามเหตุผล การโจมตีระดับนี้ ราชายุทธ์ขั้น9 ยังโดนระเบิดจนกลายเป็นซาก
“เหอะๆ ฉันว่าทุกท่านน่าจะผิดหวังแล้วล่ะ”
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังเข้ามาในหูทุกคน คนของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด หันไปมองตามเสียง เห็นชายหนุ่มชุดคลุมดำ ลอยอยู่กลางอากาศ ยิ้มเย้ยหยันมองทุกคน
“น่าเสียดายยันต์โจมตีขั้น6 12 ชิ้น ถ้าเอาไปขาย คงแลกหินพลังจิตมาได้ไม่น้อย”
เหมือนหลัวซิวถอนหายใจอย่างเศร้าโศก ทันใดนั้นความอาฆาตฉายขึ้นในตา “พวกนายไปตายได้แล้ว”
เขาเก็บกระบี่อาถรรพ์ฟันเสือ มือทั้งสองข้างกลายเป็นเงา บีบตราประทับอย่างรวดเร็ว ธงขลังสรรพสิ่งที่ลอยอยู่บนฟ้า ปล่อยแสงออกมา
ธงขลังสรรพสิ่ง เป็นสมบัติโบราณ ที่ได้มาจากแดนปริศนา ก่อนเกิดเรื่อง ได้สลักลายเส้นสัญลักษณ์ค่ายกลเอาไว้บนธงค่าย สามารถใช้เวลาสั้นๆ วางค่ายกลได้อย่างรวดเร็ว เป็นสมบัติที่นักค่ายกลโบราณใช้บ่อยที่สุด ไม่เหมือนนักค่ายกลในปัจจุบัน วางค่ายกลต้องใช้ธงค่าย ต้องมีเวลาวางค่ายกลอย่างเพียงพอ
ระยะเวลาไม่กี่อึดใจ เร็วจนพวกแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ไม่ทันตั้งตัว ตัดค่ายยากเย็นก่อนหน้านี้ออกไป ค่ายสังหารขั้น6 โดนหลัวซิวใช้ธงขลังสรรพสิ่งกระตุ้น
การควบคุมค่ายกลขั้น6 ต้องการพลังจิตแท้กับตัวสำนึกสูงมาก
หลัวซิวมีเพียงผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น2 ถึงได้รับการแนะนำจากจักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำ ผู้เป็นปรมาจารย์ค่ายกลโบราณ ทำให้เข้าใจค่ายกลขั้น6 แต่พลานุภาพในการกระตุ้นค่ายกล ยังด้อยกว่าปรมาจารย์ค่ายกลขั้น6 ที่แท้จริงอยู่บ้าง
พลานุภาพของค่ายกลระดับนี้ ถึงทำอะไรผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ไม่ได้ แต่ถ้าฆ่าคู่ต่อสู้แดนราชายุทธ์ สามารถทำได้มากเพียงพอ
“ตู้ม!”
ค่ายสังหารขั้น6 ระเบิดพลานุภาพออกมา การเคลื่อนไหวของพลังฟ้าดินอันบ้าคลั่ง ทำให้ราชายุทธ์แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดที่นี่ รู้สึกถึงความสิ้นหวังที่มาจากส่วนลึกของวิญญาณ
กระทั่งไม่กี่อึดใจผ่านไป การเคลื่อนไหวของพลานุภาพอันน่ากลัว ค่อยๆ สงบลง
เหอหวู่เจียงกับชายหน้าบาก มีคราบเลือดตรงมุมปาก ลุกขึ้นยืนอย่างสั่นเทา ทั้งสองมองไปรอบๆ อย่างตกตะลึง
หลัวซิวลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าทั้งสองคน ยื่นมือออกมา ธงขลังสรรพสิ่งหล่นลงมาในมือ และถูกเก็บลงไปในแหวนเก็บของ ค่ายกลรอบๆ ก็หายไปเช่นกัน
ตอนนี้เหอหวู่เจียงกับชายหน้าบาก บาดเจ็บสาหัส การที่พวกเขาไม่ตาย เพราะผลการฝึกตนของเขา ยังไม่ถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ ไม่สามารถใช้พลานุภาพของค่ายกลขั้น6 ออกมาได้
“นี่ค่ะอาจารย์”
ขณะนั้น ฮู๋ชิงชิงมาข้างหลัวซิว ยื่นแหวนเก็บของหนึ่งกำมือให้เขา
แหวนเก็บของเหล่านี้ เป็นของพวกราชายุทธ์แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ที่ตายไปแล้ว
“ฉัน…….” เหอหวู่เจียงกำลังจะพูด เห็นชายชุดคลุมดำง้างมือตบลงมา เพียงฝ่ามือเดียว ทำให้กลางกะโหลกศีรษะของเขาแตกกระจาย
ศพของเหอหวู่เจียงล้มลงบนพื้น ชายหน้าบากข้างๆ หน้าซีดเหมือนตาย อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออกสักคำ จากนั้นถูกพลังกระบี่ฟันจนหัวกระเด็น
หลัวซิวง้างมือขึ้น แหวนเก็บของสองวงมาอยู่ในมือหลัวซิว ผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ แค่กองทัพดิน เขารวบรวมได้ยี่สิบกว่าอัน
ในนั้นมีดาบสั้นสีเลือดของหรงเซี๋ย อยู่ในระดับขั้นดินกลาง ถึงวัสดุจะไม่นับว่าดีมาก แต่มูลค่าก็ไม่ธรรมดา
นอกจากนี้ ยังมีเกราะนักยุทธ์ขั้นดิน ยันต์ขั้น6 ยาทิพย์ ยา และหินพลังจิต พวกราชายุทธ์ที่เกิดในแดนศักดิ์สิทธิ์ ล้วนมีทรัพย์สินไม่ธรรมดา ถึงกระทั่งที่รวยกว่าอาจารย์ตระกูลสวี จักรพรรดิยุทธ์ ที่ระดับต่ำสุดของประเทศเทียนหวู
“ฆ่าคนเร็วกว่าหาทรัพยากรด้วยตัวเองตามคาด” หลัวซิวหาพื้นที่ในแหวนเก็บของที่มีพื้นที่มากที่สุด และเก็บของทั้งหมดเข้าไป
จากนั้นทำตามความเคยชิน หลัวซิวโยนอัคคีไปกลุ่มหนึ่ง เผาศพที่นี่จนกลายเป็นความว่างเปล่า และใช้พลังจิตแท้ของตัวเอง ขจัดความเคลื่อนไหวของพลังจิตในเขตนี้ไปจนหมด
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แม้มีคนมาที่นี่ ก็ไม่มีทางรู้ว่าเคยเกิดการเข่นฆ่าอันดุเดือดที่นี่
“อาจารย์ ฉัน……” ฮู๋ชิงชิงเดินมาหน้าหลัวซิว ก้มหน้าอย่างกระอักกระอ่วน
“เป็นอะไร” หลัวซิวมองเธออย่างประหลาดใจ
“ฉันอยากตามอาจารย์ไปด้วย ถึงพละกำลังของฉันค่อนข้างอ่อนแอ แต่ฉันจะเชื่อฟัง” ฮู๋ชิงชิงเงยหน้าขึ้นมา มองหลัวซิวอย่างคาดหวัง
เธอยังสวมผ้าคลุมหน้าอยู่ ปิดบังใบหน้าอันงดงามมีเสน่ห์เอาไว้ แม้เป็นเช่นนี้ ความปรารถนาที่เผยออกมาจากดวงตาคู่สวย ยังคงมีเสน่ห์ไม่รู้จบ ทำให้หลัวซิวไร้สติไปเล็กน้อย สติหลุดลอยทันที
ฮู๋ชิงชิงฉลาดมาก เธอเห็นหลัวซิวแข็งแกร่งขนาดไหน เธอรู้ว่าแค่ติดตามผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ถึงจะรักษาความปลอดภัยของตัวเองในแดนแต่งตั้งราชาได้