มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 390 ความคิดหยุดชะงัก
ตัวของหลัวซิวหายวับไปจากที่เดิม ทำให้กฎการโจมตีที่ราชายุทธ์ 12 คน ปล่อยออกมา ปะทะกับความว่างเปล่า
“อ๊าก!……”
ทันใดนั้น เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ทุกคนหันไปตามเสียง เห็นร่างของเพื่อนคนหนึ่ง ถูกฟันจนแยกเป็นสองท่อน จากนั้นมีมือหนึ่งยื่นออกมา เอาชิ้นส่วนกฎที่เขาหลอมรวมเข้าไปในร่างกายออกมา หลอมรวมเข้าไปในร่างกายตัวเอง
“ให้ตายเถอะ นี่มันความเร็วอะไรกัน”
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสี เพราะพวกเขายังไม่มีใครตั้งสติได้ เพื่อนคนหนึ่งก็โดนฆ่าไปเสียแล้ว อีกทั้งพวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย นี่จะสู้ได้อย่างไร
ในใจของทุกคนเพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา จากนั้นมีเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นอีก มีคนโดนแสงจิตห้าสีพาดผ่าน ตัวแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนกฎถูกมือหนึ่งคว้าเอาไว้ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ถ้าพูดว่าคนแรกโดนฆ่า ทำให้ทุกคนสยองขวัญตกใจ งั้นการที่คนที่สองโดนฆ่า เหลือเพียงราชายุทธ์ 10 คน ในใจหลงเหลือเพียงความหวาดผวาไม่สิ้นสุด!
“หนีสิ!”
ไม่รู้ใครตวาดออกมา กลายเป็นลำแสงพุ่งออกไปที่ขอบฟ้าก่อนเพื่อน
แต่คนนี้เพิ่งเหาะออกไปได้ไม่ไกล แสงจิตห้าสีลอยขวางผ่านไป เกิดเสียงดังพรวด ตัดกลางเอวของคนนี้ ชิ้นส่วนกฎธาตุลมลอยออกมาหนึ่งชิ้น โดนหลัวซิวเก็บเอาไว้ในกล่องหยก
นี่ทำให้ที่เหลืออีก 9 คน สยองขวัญเข้าไปอีก!
“พวกเราแยกย้ายกันหนี!”
ทันใดนั้น ราชายุทธ์ที่เหลือ 9 คน พากันหนีไปคนละทิศคนละทาง ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่ต่อ
“ไอ้พวกนี้ไม่โง่นี่นา”
พื้นที่ว่างสั่นสะเทือน ตัวของหลัวซิวปรากฏออกมา ตัวสำนึกแผ่กระจายไปทั่ว เพ่งเล็งไปยังลมปราณของราชายุทธ์ไม่กี่คน ในบรรดาคนพวกนั้น
ทั้ง 9 คน พากันหนีไปคนละทิศคนละทาง เขาไม่มีทางฆ่าได้ทั้งหมด หลัวซิวทำได้เพียงเพ่งเล็งพวกคนที่ช้าไม่กี่คน ฆ่าได้เท่าไรก็เท่านั้น
มือหนึ่งโอบฮู๋ชิงชิงที่กำลังสลบเอาไว้ อีกมือถือกระบี่ใหญ่สีดำเปื้อนเลือด ตัวของหลัวซิวเหมือนผี ทุกครั้งที่หายตัว จะข้ามระยะทางไปได้เกือบพันเมตร
เมื่อก่อน เขาอาศัยความเร็วสูงสุดของปีกทิพย์ไร้มลทิน เคลื่อนตัวได้ 700 กว่าเมตร แต่เมื่อเร่งด้วยกฎเบญจธาตุทั้ง5 กลับเคลื่อนย้ายด้วยความเร็วสูงสุด ในระยะทางเกือบพันเมตร
สุดท้าย ราชายุทธ์ 12 คน หนีไปได้ 5 คน ราชายุทธ์สองคนในนั้น ที่มีชิ้นส่วนกฎ 3 ชิ้น หนีไปได้หมด หลัวซิวได้ชิ้นส่วนกฎมาทั้งหมด 9 ชิ้น
ในชิ้นส่วนกฎ 9 ชิ้นนี้ ในนั้นมี 7 ชิ้น เป็นกฎเบญจธาตุทั้ง5 มีธาตุลม 2 ชิ้น ไม่มีธาตุอัสนี
ในชิ้นส่วนกฎทั้งเจ็ดชนิด กฎเบญจธาตุทั้ง5 ได้มาค่อนข้างง่าย ธาตุอัสนีกับธาตุลมค่อนข้างน้อย อีกทั้งธาตุอัสนีได้ยากกว่าธาตุลม
หลังหลอมรวมชิ้นส่วนกฎทั้งเจ็ดชิ้น หลัวซิวมีชิ้นส่วนกฎอยู่ในตัว 15 ชิ้น ทำลายบันทึกในสมัยโบราณ ที่ได้รับชิ้นส่วนกฎในแดนแต่งตั้งราชามากที่สุด 13 ชิ้น
ชิ้นส่วนกฎธาตุลมสองชิ้น ก็โดนเขาหลอมรวมเข้าไปในตัวฮู๋ชิงชิง
“ไอ้หนุ่ม จากกฎเบญจธาตุทั้ง5 ของนายตอนนี้ เพียงพอที่จะต้านทานข้ามขั้นกับจักรพรรดิยุทธ์ขั้น2แล้ว เมื่อจักรพรรดิยุทธ์ขั้น1 เจอนาย นายใช้ความเร็วของปีกทิพย์ไร้มลทิน อีกฝ่ายจะหนีก็ทำไม่ได้”
ถึงเป็นจักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำ ที่มีวิสัยทัศน์สูงส่ง ก็ประเมินหลัวซิว อย่างชมเชยไม่ขาดปาก เพราะถึงเป็นสมัยโบราณ แม้มีคนเคยหลอมรวมกฎเบญจธาตุทั้ง5 กฎการผสมรวม กฎอัสนีวายุ แต่กลับไม่มีใครจิตวิปริตเหมือนไอ้หมอนี่ รวมชิ้นส่วนกฎในตัวตั้ง 15 ชิ้น
อีกทั้งประโยคพวกนี้ที่เขาพูด แสดงว่าตอนนี้หลัวซิวเพิ่งมีผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น2 ก็มีพละกำลังในการฆ่าข้ามขั้นกับจักรพรรดิยุทธ์ ถ้าถึงขั้นราชายุทธ์ขั้น9 พละกำลังต้องน่ากลัวกว่านี้อีก
หลัวซิวหยุดลงในป่าเขียวขจีแห่งนี้ ป้อนยาให้ฮู๋ชิงชิง ผ่านไปประมาณสองชั่วยามกว่าๆ ฮู๋ชิงชิงฟื้นขึ้นมา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เพียงพริบตาก็ผ่านไปอีกหลายเดือน ระยะห่างจากการปิดแดนแต่งตั้งราชา เหลืออีกไม่นานแล้ว
ในช่วงเวลานี้ หลัวซิวหาชิ้นส่วนกฎเจออีก 2 ชิ้น ฆ่าราชายุทธ์ไปสามคน ชิงชิ้นส่วนกฎมาได้ 5 ชิ้น
ให้ชิ้นส่วนกฎธาตุอัสนีกับฮู๋ชิงชิง 1 ชิ้น ชิ้นส่วนกฎเบญจธาตุทั้ง5 ที่เหลือ 6 ชิ้น ถูกเข้าหลอมรวมด้วยตัวเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขามีชิ้นส่วนกฎอยู่ในตัว 20 ชิ้น พละกำลังเพียงพอจะต้านทานจักรพรรดิยุทธ์ขั้น3!
ทว่ายังห่างจากการรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดของกฎเบญจธาตุทั้ง5 อีกเยอะมาก
พื้นที่ในแดนแต่งตั้งราชากว้างใหญ่เกินไป ช่วงเวลาหนึ่งปี สำรวจได้เพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น พื้นที่โดยส่วนใหญ่ หลัวซิวยังสำรวจไปไม่ถึง
และพื้นที่ที่เขาไม่ได้ไปสำรวจ ยังมีชิ้นส่วนกฎอีกมากมาย
“ไอ้หนุ่มอย่าโลภ ได้ชิ้นส่วนกฎมา 20 ชิ้น เรียกได้ว่านายเหนือธรรมชาติแล้ว อีกทั้งชิ้นส่วนกฎของผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นของนาย ถ้าคิดเช่นนี้ อย่าว่าแต่ต่อไปจะไม่มีทางเกิดขึ้น อย่างน้อยความสำเร็จนี้ สมัยโบราณก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!” จักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำพูดอย่างอิจฉาตาร้อน
เพราะจากฐานะผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์สมัยโบราณของเขา เมื่อก่อนเคยร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชา แต่ไม่สามารถได้รับฉายา
นี่ไม่ใช่เพราะความสามารถของจักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำอ่อนแอ แต่เพราะการฝึกยุทธ์ในสมัยโบราณรุ่งเรืองมาก ราชายุทธ์ทุกคนที่เข้าร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชา ล้วนเป็นผู้มีความสามารถไร้เทียมทาน จนน่าตกใจ อยากโดดเด่นท่ามกลางผู้มีความสามารถไร้เทียมทานเหล่านี้ เรียกได้ว่าหาได้น้อยมาก
ถ้าให้จักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำมาในยุคปัจจุบัน จากพละกำลังของเขา การได้รายชื่อฉายาราชายุทธ์ เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
“ติ๊ง!……”
เมื่อหมดเวลาหนึ่งปีในการเปิดแดนลึกลับ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในแดนแต่งตั้งราชา มีเสียงดังชัดเจนเหมือนกระดิ่งดังขึ้นในหู
ในเวลานี้ เหมือนกับเวลาและพื้นที่รอบๆ ถูกแช่แข็งเอาไว้ในช่วงนั้น ตัวของทุกคนหยุดอยู่ที่เดิม ถึงขนาดที่ความคิดของตัวเองก็หยุดชะงักลง
“ครืน!”
ช่วงที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น ลูกแก้วความเป็นตายที่อยู่ในวิญญาณหยั่งรู้ของหลัวซิว เกิดความสั่นสะเทือนเล็กน้อย ถึงการขยับตัวของเขาโดนแช่แข็งไว้ แต่ความคิดได้รับการปกป้องจากลูกแก้วความเป็นตาย และไม่ได้รับผลกระทบ
“นี่มันพลังอะไรกัน ถึงทำให้ความคิดของคนหยุดชะงักลงได้ น่ากลัวจริงๆ” หลัวซิวตกใจเป็นอย่างมาก
เขารู้ว่าการที่ความคิดของตัวเองยังโลดแล่น เพราะการปกป้องของลูกแก้วความเป็นตาย แม้เป็นเช่นนี้ การเคลื่อนไหวของร่างกายเขาชะงักลงแล้ว ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย ถ้ามีใครสักคนเข้ามา สามารถฆ่าตัวเองได้อย่างง่ายดาย
“ผู้อาวุโสเสวียนดำ” เขาลองใช้ตัวสำนึกติดต่อกับจักรพรรดิ์ยุทธ์เสวียนดำ แต่กลับมีเพียงความเงียบ เหมือนวิญญาณของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์คนนี้ ได้รับผลกระทบจากพลังลึกลับนั้น โดนแช่แข็งไปแล้ว
จากนั้น ลมปราณอันทรงพลังยากจะคาดเดาใกล้เข้ามา หลัวซิวรู้สึกว่าสติของตัวเองเลอะเลือน วินาทีต่อมา เขาปรากฏตัวอยู่ในตำหนักสูงใหญ่ กว้างขวางโอ่อ่า