มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 463
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 463
จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ได้ดังลอยมา เป็นเกาเหลียนหงผู้นั้นนั่นเองที่ได้เรียกหลัวซิวเอาไว้
หลัวซิวหยุดฝีเท้าลงทันที เขากำหมัดคารวะ “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือ”
ทว่า เกาเหลียนหงกลับได้ขมวดคิ้ว “ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าแห่งสำนักผู้หนึ่ง ก็ควรจะมีมาดของเจ้าสำนัก”
หลัวซิวได้ยินดังนั้น ก็ต้องประหลาดใจ เขาครุ่นคิด ตนยังไม่ได้เข้าสู่สถานะเจ้าสำนักไท่เสวียนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพจิตใจหรือการกระทำ ยังคงเหมือนกับเมื่อก่อนไม่เปลี่ยนแปลง
“เจ้าสามารถทำให้สุนัขเฒ่าหยูชุนชิวบาดเจ็บหนักได้ นอกเสียจากจะเป็นเฒ่าประหลาดแดนมกุฎยุทธ์ขึ้นไป ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติให้เจ้าเรียกผู้อาวุโสได้ นี่ถึงเป็นกิริยา และท่าทางหยิ่งผยองที่เจ้าแห่งสำนักควรจะมี”
หลัวซิวเกาศีรษะ จะว่าไปแล้วยังไงอายุของเขาก็ยังไม่ถึงยี่สิบ ด้านความรู้สึกนึกคิด ยังด้อยอยู่บ้างจริง ๆ
จะเป็นเจ้าสำนักที่ดีได้อย่างไร ตอนนี้เขายังอยู่ในขั้นที่กำลังเรียนรู้อยู่
“ข้าน้อยรับการสั่งสอน” หลัวซิวกำหมัดคารวะกล่าว “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ลงมือช่วยเหลือเมื่อสักครู่”
ในยุคสมัยโบราณ การสื่อสารระหว่างนักยุทธ์รุ่นเดียวกัน จะเรียกอีกฝ่ายว่าผู้เพื่อนยุทธ์ หมายถึงสหายนักยุทธ์
เมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลัวซิว บนใบหน้าของเกาเหลียนหงถึงได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง “เจ้าสำนักหลัวเกรงใจเกินไปแล้ว ข้ามีคำถามอยากจะถามเจ้าหน่อย”
“ผู้เพื่อนยุทธ์โปรดกล่าว”
“เจ้าเป็นเจ้าสำนักไท่เสวียน ไม่ทราบว่าสำนักไท่เสวียนของเจ้า และสำนักไท่เสวียนเก่า มีความสัมพันธ์อะไรกัน?” เกาเหลียนหงหรี่ตาเล็กน้อย ท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมา
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เสียงของมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำก็ได้ดังลอยเข้าในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว “เจ้าหนุ่มหลัว คนที่อยู่ตรงหน้าเจ้าผู้นี้ บางทีอาจเป็นผู้สืบทอดของสำนักไท่เสวียนของข้า”
หลัวซิวชะงักไป จากนั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำก็ได้อธิบายต่อ: “พลังล่องหนที่เขาแสดงออกมาในตอนที่ประมือกับหยูชุนชิวในเมื่อสักครู่ น่าจะเคยได้ฝึกวิชาล่องหนไท่เสวียนมาก่อน”
ในสมัยโบราณ กฎของสำนักไท่เสวียนนั้นเคร่งครัดเป็นพิเศษ วิชายิ่งเลิศทั้งเก้าจะไม่ถ่ายทอดให้คนนอกง่าย ๆ อย่างแน่นอน เหมือนกับตอนที่หลัวซิวยังไม่ได้รับปากก่อตั้งสำนักไท่เสวียนใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำก็ไม่ยินยอมที่จะถ่ายทอดวิชาสังหารไท่เสวียนให้กับหลัวซิวอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้แล้วแม้ว่าสำนักไท่เสวียนจะล่มสลายไป แต่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน อาจจะมีผู้ที่โชคดีมีชีวิตรอดมาได้ และได้สืบถอดต่อมา
ผู้ที่ได้ฝึกหนึ่งในเก้าวิชายิ่งเลิศ จะต้องเป็นทายาทของสำนักไท่เสวียนอย่างแน่นอน จุดนี้ ไม่ได้สงสัยเลย
แน่นอน ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ว่าวิชายิ่งเลิศทั้งเก้าได้รั่วไหลออกไป
จากการคาดเดาของมหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเกาเหลียนหง หลัวซิวก็ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย “ผู้เพื่อนยุทธ์ถามคำถถามนี้กับข้า เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากข้าคาดเดาไม่ผิดละก็ ผู้เพื่อนยุทธ์น่าจะได้ฝึกฝนวิชายิ่งเลิศแห่งสำนักไท่เสวียนของข้า วิชาล่องหนไท่เสวียนสินะ?”
เมื่อหลัวซิวได้พูดเช่นนี้ออกมา ดวงตาของเกาเหลียนหงก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
แม้ว่าหลัวซิวจะไม่ได้ตอบคำถามของเขาโดยตรง ทว่าเกาเหลียนหงก็ได้เข้าใจแล้ว สำนักไท่เสวียนของอีกฝ่ายและสำนักไท่เสวียนโบราณ จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
“ไม่ทราบอาจารย์ของเจ้าสำนักหลัวคือผู้ใด?” เกาเหลียนหงเอ่ยถาม
“สายเสวียนดำ” หลัวซิวยิ้มเล็กน้อย
ในยุคสมัยโบราณ สำนักไท่เสวียนมีผู้สืบทอดทั้งหมดเก้าสาย สอดคล้องกับวิชายิ่งเลิศทั้งเก้า
สายไท่เสวียน สายเสวียนดำ สายเทพเสวียน สายนภาเสวียน สายดินเสวียน และสายตะวันออกทั้งสี่สาย
มหาจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ ก็คือตัวแทนสายเสวียนดำของสำนักไท่เสวียนโบราณ ได้ฝึกฝนวิชาสังหารไท่เสวียนจนถึงแดนบรรลุผล
ผู้ที่มีตำแหน่งสามผู้อาวุโสร่วมกันกับเขา ยังมีมหาจักรพรรดิยุทธ์นภาเสวียนและมหาจักรพรรดิยุทธ์เทพเสวียน ส่วนเทพศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นสายไท่เสวียน ฝึกฝนวิชาหยินหยางไท่เสวียน บรรลุแดนบริบูรณ์ เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนิรันกาล
ไม่ใช่ว่าสายไท่เสวียเท่านั้น ถึงจะเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่เป็นผู้ใดที่แข็งแกร่งที่สุด มีอำนาจบารมีสูงที่สุด ผู้นั้นถึงจะขึ้นนั่งบนตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์ได้
“ผู้เพื่อนยุทธ์เกาคงจะเป็นคนของสายนภาเสวียนสินะ?” หลัวซิวยิ้มกล่าวอีกหนึ่งประโยค เนื่องจากสายนภาเสวียนควบคู่กับวิชาล่องหนไท่เสวียน
การสนทนาของทั้งสองคนมาถึงขั้นนี้ ก็ได้เข้าใจแทบทั้งหมดแล้ว
“เกาเหลียนหงน้อมพบเจ้าสำนัก” เกาเหลียนหงโค้งตัวคารวะหลัวซิว
จากที่หลัวซิวได้เอาชนะหยูชุนชิวในเมื่อสักครู่ เกาเหลียนหงถามตัวเองก็รู้ว่าไม่มีทางที่จะต้านทานกระบวนท่านั้นได้ เพราะเหตุนี้จึงได้ยอมรับว่าหลัวซิวมีฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าตน ถึงได้คารวะเขา
ในโลกของนักยุทธ์ ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่เสมอมา ถ้าหากฝีมือของหลัวซิวด้อยไปกว่าเขา เป็นธรรมดาที่เกาเหลียนหงจะไม่ยอมรับสถานะเจ้าสำนักของเขา
“ตึง!”
ในตอนนี้เอง เสียงระฆังดังก้องกังวานขึ้นมา งานประมูลยาที่ร้อยปีจัดหนึ่ง ในที่สุดก็กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ