มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 48 หลัวซิวมีชื่อ
บทที่ 48 หลัวซิวมีชื่อ
“แพล๊ง!”
กระบวนท่าที่98 กระบี่เงามืดกระทบกับปืนเงิน ปืนเงินในมือของสวี่ชิวเซิงกระเด็นออกจากมือไป ร่างก็ถอยร่น ง่ามมือฉีก เลือดไหลเป็นหยด
จริงๆ แล้วตั้งแต่ที่หลัวซิวชักกระบี่ออกมานั้น ทุกครั้งที่หอกและกระบี่กระทบกัน เขาก็รับรู้ได้ถึงพลังภายในที่ส่งเข้ามาอย่างรุนแรงทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะอดทนรับแรงนั้นไว้ ก็คงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
“ทำไมปราณในของมึงถึงได้แข็งแหร่งกว่าของกู หรือว่ามึงฝึกพลังหยางบริสุทธิ์?” สวี่ชิวเซิงมองไปที่หลัวซิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แพล๊ง!”
หลัวซิวเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพยักหน้าพูดว่า “วิชาหอกของศิษย์พี่สวี่แข็งแกร่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมฝึกพลังหยางบริสุทธิ์แล้วมีปราณในที่แข็งแกร่ง ก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศิษย์พี่สวี่แน่”
พลังหยางบริสุทธิ์งั้นหรือ?
800มานี้มีเพียง3คนที่ฝึกกำลังภายในระดับ3ขั้นสุดยอดสำเร็จ
พอได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนบทเวทีประลอง ด้านล่างเวทีก็เป็นเสียงตื่นตกใจกันดังขึ้นมาทันที
นอกจากเจ้าสำนักยุทธ์อย่างจวงหนานเทียนที่รู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แม้แต่ลู่เมิ่งเหยา ครูสาวสุดสวยก็ตกใจจนต้องลุกขึ้นยืน
เธอคิดไม่ถึงว่า หลัวซิวจะฝึกพลังหยางบริสุทธิ์ได้สำเร็จ
คนส่วนมากไม่รู้ที่มาที่ไปของวิชากำลังภายในสายนี้ แต่เธอมีตัวตนพิเศษ เธอรู้ที่มาของมันอย่างชัดเจน
บนห้องใต้หลังคา เจ้าสำนักยุทธ์ค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วกล่าวเสียงดังฟังชัดออกมาว่า “การประลองครั้งนี้ หลัวซิวเป็นผู้ชนะ!”
พอเห็นเจ้าสำนักยุทธ์ประกาศผลด้วยตัวเอง สายตาของทุกคนก็ไปหยุดอยู่ที่ตัวของหลัวซิว ทันใดนั้นทุกคนก็นิ่ง สายตาลังเลกันมาก
การต่อสู้ครั้งสุดท้าย แทบไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น แม้แต่สวี่ชิวเซิงก็ยังแพ้ให้กับหลัวซิว หานซานก็ยอมแพ้ขึ้นมาเองเลย
จากนั้น เฟิงเซวียนจวี๋เจอกับสวี่ชิวเซิงก็เสนอตัวยอมแพ้ อันดับรายชื่อก็ถูกกำหนดชัดเจน
3อันดับแรกของการประลองยุทธ์ครั้งนี้ เรียงตามลำดับ คือ หลัวซิว สวี่ชิวเซิงและหานซาน!
หลัวซิว เป็นแชมป์!
“เขาทำได้ถึงขนาดนี้เลยหรือนี่……..”
ในกลุ่มคนด้านล่างเวทีประลอง ใบหน้าเรียวๆ ของหลิวหยู่ซินก็อึ้งนิ่งไป ในใจก็บังเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา
ถ้าหากว่า……..ถ้าหากว่าตอนนั้นที่เขามาชอบตนเอง แล้วตนเองรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ อย่างนั้นไม่เพียงตัวเองที่ได้ผลประโยชน์เท่านั้น ทั้งตระกูลหลิวก็จะได้ผลประโยชน์นี้ไปด้วย
ไม่น่าแปลก หลัวซิวกำลังจะกลายเป็นคนดังของทั้งเมืองชิงหยุน และอีกไม่นาน ก็จะออกไปจากเมืองชิงหยุนนี้ ไปมีชื่อเสียงทั้งเขตการปกครองหยุนหลง และทั้งประเทศเทียนหวู!
“หลัวซิว!หลัวซิว!หลัวซิว!……”
ได้เป็นแชมป์การประลองยุทธ์ ชื่อเสียงของหลัวซิว มีเหล่านักเรียนของสำนักยุทธ์มากมายอยากจะเข้ามาคบค้าสมาคมด้วยมากมาย
คนจำนวนไม่น้อยตะโกนอยู่ด้านล่างเวที โดยเฉพาะเหล่านักเรียนที่เกิดในสังคมชาวบ้านยากลำบากทั้งหลาย แต่ละคนล้วนมองเขาว่าเป็นบุคคลต้นแบบแห่งการต่อสู้
เด็กชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา มันจะแปลกเลยที่จะได้เป็นตำนานที่เล่าขานในสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนไปอีกนาน
สัมผัสถึงการยกย่องจากคนนับไม่ถ้วน บนตัวมีรัศมีของความเป็นอัจฉริยะ แต่ในใจของหลัวซิว กลับนิ่งเฉย
เขารู้ดีว่าทุกอย่างมันได้มาได้อย่างไร
ถ้าบอกว่าหลอมลูกแก้วความเป็นตายไป เป็นตัวแปรหลักที่ทำให้เขาได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ อย่างนั้นระยะเวลา5เดือนที่ฝึกฝนอย่างหนัก ผ่านความเป็นความตาย นี่แหละถึงหล่อหลอมทำให้เขามีพลังและตำแหน่งอย่างทุกวันนี้
ถ้าจะพูดถึงผลลัพธ์ที่ใหญ่ที่สุดของหลัวซิว นั่นก็คือ เขาเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ผู้แข็งแกร่งตัวจริง มันเกิดจากการหลอมรวมของเลือดและไฟเข้าด้วยกัน จะต้องผ่านความยากลำบากหลายครั้ง และผ่านมันมาได้ นั่นถึงจะเป็นผู้แข็งแกร่ง!
แดนกลั่นร่าง ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นของวิถียุทธ์ เส้นทางที่เขาจะต้องเดินไป มันยังอีกยาวไกล
หลัวซิวเดินลงเวทีประลอง กลุ่มคนก็เปิดเป็นช่องทางเดิน นักเรียนทุกคนในสำนักยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นชั้นต้น ชั้นกลางหรือคนเก่งในขั้นสูง ตอนที่มองไปทางเขา ล้วนมีใบหน้าที่เคารพเกรงกลัว
สวีเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิวหยู่ซินราวกับเป็นคนปกป้องดูแลสาวงาม ตอนนี้ก็ก้มหน้านิ่งไป ในใจก็ไม่คิดกล้าที่จะไปหาเรื่องอะไรกับหลัวซิวอีก
“ทางที่ดีเอ็งอย่าไปหาเรื่องอะไรมันเลยดีกว่า” จ้าวฉีชวง ญาติผู้พี่ของสวีเฟยยิ้มพูดหน้าแหย ตอนที่ประลองกันก็ยังดูถูกหลัวซิว ใครจะรู้ล่ะว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้ได้?
หลิวหยู่ซินก็จ้องมองหลัวซิว แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ หลัวซิวไม่มองเธอเลยแม้แต่หางตา
เธอมีสีหน้านิ่งไป กัดปากแดงๆ นั้น ในใจก็เสียดายที่ทำลงไปแบบนั้น ตอนนี้ก็ได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง
เดิมทีเธอคิดว่า หลัวซิวนั้นไม่คู่ควรกับตัวเธอเลย
แต่ตอนนี้ แม้แต่คุณสมบัติที่จะให้หลัวซิวหันมามองสักหน่อย ก็ไม่เหลือแล้ว………
“หลัวซิว ตามมานี่”
การประลองยุทธ์เพิ่งจบลง จวงหนานเทียน ผู้อาวุโสสำนักยุทธ์ก็มาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลัวซิว
ในส่วนลึกที่สุดของสำนักยุทธ์ มีอยู่ตำหนักหนึ่ง เป็นพื้นที่ที่เจ้าสำนักยุทธ์ใช้เป็นที่พำนัก
ในห้องโถงของตำหนัก นอกจากผู้อาวุโสที่เฝ้าหอเก็บหนังสือไม่ได้มา ผู้อาวุโสทั้ง4ก็ล้วนมากันหมด เจ้าสำนักยุทธ์นั่งสูงๆ อยู่ตำแหน่งหลัก แล้วมองลงมาด้านล่าง
“กระผมหลัวซิว ขอทำความเคารพเจ้าสำนักครับ และผู้อาวุโสทุกท่าน” หลัวซิวก้าวไปข้างหน้า แล้วยืนอยู่ตรงกลางตำหนัก พร้อมกับทำความเคารพ
เขารู้ดี ว่าหลายคนตรงหน้านี้ กุมอำนาจใหญ่ๆ ของทั้งเมืองชิงหยุนไว้!
ไม่ใช่แค่เพียงในเขตการปกครองหยุนหลง แต่เป็นสำนักยุทธ์ในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศเทียนหวู ตำแหน่งสูงๆ ทั้งนั้น
“หลัวซิว เอ็งเป็นแชมป์ของการประลองยุทธ์ครั้งนี้ เป็นอันดับ1 นี่คือรางวัลของเอ็ง”
เจ้าสำนักยุทธ์ค่อยๆ เอ่ยปาก จากนั้นก็มีนางสนองพระโอษฐ์เดินออกมาจ้างห้องข้างๆ สองมือยกจานหยก ด้านบนมีผ้าสีแดงปิดไว้
นางสนองพระโอษฐ์3คน จานหยก3จาน หลัวซิวตาเป็นประกาย อยากรู้ว่าตนเองจะได้รางวัลเป็นอะไร
“ชุบ!”
เปิดผ้าแดงบนจานหยกจานแรกออก เห็นว่าในจานหยดนั้น มีป้ายบัญชาการสีเงินขนาดเท่าฝ่ามืออยู่หนึ่งอัน
“มีป้ายบัญชาการนี้ เอ็งจะสามารถเข้าออกมาชั้น3ของหอเก็บหนังสือได้ เลือกเรียนวิชายุทธ์ระดับ4ได้ตามสบาย!” เจ้าสำนักยุทธ์กล่าว
“เลือกได้ตามสบายงั้นหรือ?” หลัวซิวตกใจ เดิมทีเขาคิดว่าได้เรียนวิชายุทธ์ระดับ4สักวิชาก็ไม่เลวแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เลือกเรียนได้อย่างตามใจ
นี่มันก็หมายความว่า กำลังภายใน ทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่างของตนเอง ก็จะสามารถฝึกวิชายุทธ์ระดับ4ได้แล้วล่ะสิ?
จากนั้น ผ้าสีแดงที่ปิดจานหยกจานที่2ก็เปิดออก ด้านบนมีขวดหยกหรูหราขวดหนึ่งวางอยู่
“นี่คือยาผนึกปราณ1เม็ด เป็นยาระดับ2 หลังจากกินลงไป ก็จะทำให้ผลการฝึกตนของเอ็งบรรลุไปถึงการกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูง ก้าวเข้าสู่แดนชี่ไห่ กลายเป็นจอมยุทธ์!”
หลัวซิวผงะ รู้ว่ายาเม็ดนี้มีค่ามาก ปกติแล้วผู้ฝึกยุทธ์การกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูงทั่วไป ถ้าอยากจะบรรลุเข้าแดนชี่ไห่ จะต้องรวบรวมปราณในจำนวนมาก ต้องทดลองเปิดจุดตันเถียนหลายครั้ง ใช้เวลาครึ่งปีหรือเป็นปี เพื่อให้บรรลุเข้าสู่แดนชี่ไห่
แต่ถ้ากินยาผนึกปราณเม็ดนี้ลงไป ก็จะเร็วมาก สำเร็จได้ทันที ร่นระยะเวลาได้ครึ่งปีหรือเป็นปีได้เลย
ยาระดับ2แบบนี้ ในเมืองชิงหยุน อย่างน้อยต้องใช้หินพลังจิตชั้นล่างเป็นพันอันถึงจะซื้อได้
จากนั้น ผ้าแดงบนจานหยกจานที่3ก็เปิดออก ด้านบนนั้น เป็นจานสำริดกลมขนาดเท่าปากถ้วย แกะลวดลายมากมาย ลวดลายคล้ายกับค่ายผนึกปราณที่เขาเคยใช้
“นี่คือ อุปกรณ์ค่ายผนึกปราณขั้น2 สามารถทำให้การฝึกฝนของเอ็ง เพิ่มขึ้นเป็น4เท่า!”
########################