มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 510
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 510
เขาลุกขึ้นและเดินออกไปจากตำหนักวัฏสงสารในทันที เงยหน้ามองไปทางด้านนอกของสำนักเขา เห็นร่างสองร่างยืนอยู่ข้างนอก รอบกายมีรังสีลมปราณที่แข็งแกร่งของมกุฎยุทธ์ผู้แข็งแกร่งของแผ่กระจายออกมา
หนึ่งในนั้น ก็คือหลี่เสวียนหยาง คนที่อยู่ข้างกายเขา เป็นชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดคลุมยาวสีทอง สีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองค่ายพิทักษ์เขาแห่งสำนักไท่เสวียนอย่างดุเดือด
เมื่อเห็นหลัวซิวปรากฏตัว หลี่เสวียนหยางชี้มาทางเขา และพูดกับชายวัยกลางคนชุดคลุมทองที่อยู่ข้างกายว่า “ศิษย์พี่เจียง คนผู้นี้คือคนที่ร่วมมือกับหลี่ฉางเหอ ฆ่าผู้เพื่อนยุทธ์ป๋ายหลี่!”
ชายวัยกลางคนชุดคลุมทองคนนี้ นามว่าเจียงตงหลิว และเป็นเพื่อนที่สนิทของป๋ายหลี่หยวนหลงในอาณาจักรตะวันตก เป็นพี่น้องร่วมสาบาน
ป๋ายหลี่หยวนหลงเสียชีวิตในค่ายพิทักษ์เขาของเทียนเหอ หลี่เสวียนหยางก็ได้แจ้งกับเจียงตงหลิว คนคนนี้จึงรีบรุดมาที่นี่เพื่อแก้แค้นในทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รังสีอาฆาตบนตัวของเจียงตงหลิวยิ่งน่าหวาดกลัวขึ้นไปอีก “ข้ากับป๋ายหลี่หยวนหลงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำร้ายเขาจนตาย ข้าเจียงตงหลิวจะทำให้มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
เขาชี้ไปที่หลัวซิวที่อยู่ท่ามกลางค่ายพิทักษ์เขา “กล้าออกมาสู้กับข้าหรือไม่?”
“เป็นถึงมกุฎยุทธ์ แต่กลับท้าทายข้าที่เป็นเพียงราชายุทธ์คนหนึ่งเท่านั้น เจ้าไม่กลัวอับอายขายหน้า ถูกหัวเราะเยาะหรือ?” หลัวซิวเผยยิ้มเย็นชา “อาจารย์สำนักฉางเหอ เจ้าฆ่าหรือ?”
“หากใช่แล้วจะเป็นเช่นไร? ข้าเจียงตงหลิวที่มาครั้งนี้เพื่อแก้แค้นให้กับป๋ายหลีเพื่อนข้า หลี่ฉางเหอจายแล้ว คนต่อไปก็คือเจ้า!” เจียงตงหลิวพูดพร้อมกับรังสีอาฆาต
“หากเจ้ามีปัญญา นั่นก็เข้ามาฆ่าข้าสิ” หลัวซิวไม่ใส่ใจ เมื่อสะบัดมือ ค่ายพิทักษ์เขาก็ปรากฏขึ้นที่ทางเข้า มันเป็นท่าทางเชิญชวนให้บุรุษผู้นั้นเข้ามาตาย
หลี่เสวียนหยางสีหน้าพลันเปลี่ยน สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เขาเผลอคิดถึงเหตุการณ์ที่เทียนเหอ หากไม่ใช่ว่าเขา ป๋ายหลี่หยวนหลงและซุนเชียนซางทั้งสามคนถูกขังไว้ในค่ายพิทักษ์เขา เรื่องมันจะเลยเถิดมาจนถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
เจียงตงหลิวก็ไม่ได้โง่ รู้ดีถึงความเก่งกาจของค่ายพิทักษ์เขา หัวเราะเสียงเย็น “ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นถึงเจ้าแห่งสำนัก แต่กลับเอาแต่พึ่งพาค่ายพิทักษ์เขา หากเจ้ามีความกล้าจริง ๆ ก็ออกมาสู้กับข้าโดยตรง”
“ถึงแม้เจ้าจะเป็นราชายุทธ์ แต่ข้าได้ยินมาว่าพลังของเจ้านั้นเกินขั้นแดนของตนไปมาก แม้แต่จักรพรรดิยุทธ์ก็ยังสามารถฆ่าได้ ป๋ายหลีเพื่อนข้าเป็นถึงมกุฎยุทธ์ ก็ยังถูกเจ้าฆ่าด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพลังของเจ้านั้นไม่ธรรมดา หรือว่าไม่กล้าสู้กับข้าตรง ๆ?”
เจียงตงหลิวแม้ว่าเขาจะอาฆาต แต่ก็ยังไม่เสียสติ แต่ใช้วิธีท้าทายแทน เพื่อต้องการให้หลัวซิวออกมาสู้กับเขา
สำหรับผู้แข็งแกร่งแดนมกุฎยุทธ์ หลัวซิวไม่ได้มีความหวาดกลัวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงราชายุทธ์ขั้นเก้า ใช้พลังของลูกแก้วเสวียนดำ ก็มีผลการฝึกตนเทียบเท่าจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้า เพิ่มด้วยเบญจธาตุทั้ง5กฎ อีกทั้งยังมีไพ่ตายอีกนานากลยุทธ์ ทักษะการรบเมื่อเทียบกับมกุฎยุทธ์ทั่วไป ก็สามารถลงแข่งได้สบาย
แต่พลังการต่อสู่ของเข้าสามารถถ่วงดุลได้เพียงแค่กับมกุฎยุทธ์ช่วงต้นเท่านั้น เผชิญหน้ากับเจียงตงหลิวกับหลี่เสวียนหยางที่เป็นถึงมกุฎยุทธ์ช่วงกลาง จึงทำได้แค่ดิ้นรนเพื่อรับมือ ก่อนนี้ที่สามารถฆ่าหยูเชียนฮั่วได้ นั่นก็เพราะว่าอีกผ่านสูญเสียพลังจิตแท้มากเกินไป จนทำให้สูญเสียพลังไปมาก
แต่พูดจากใจจริง หลัวซิวอยากจะออกไปต่อสู้ตัวต่อตัวกับมกุฎยุทธ์ผู้แข็งแกร่งสักครั้ง ใช้โอกาสนี้ทดสอบขอบเขตความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง
“เจียงตงหลิวคิดว่าเพียงแค่ข้าออกไปจากกลางค่ายนี้ ก็จะไม่สามารถใช้พลังของค่ายพิทักษ์เขาได้แล้วหรือ อย่างที่รู้ ค่ายกลใหญ่นี้ข้าเป็นคนสร้างมันเองกับมือ เพียงแค่ระยะห่างจากค่ายพิทักษ์เขาไม่เกินสิบลี้ ข้าก็สามารถใช้พลังแห่งค่ายกลอันยิ่งใหญ่ได้ตามใจชอบ!”
“แต่ด้านนอกยังมีหลี่เสวียนหยางที่จ้องพร้อมตะครุบดั่งพญาเสือ หากถูกมกุฎยุทธ์ทั้งสองร่วมมือกันล้อมโจมตี ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลัวซิวตะโกนเสียงดัง “เจ้าต้องการสู้กับข้าเจ้าสำนักก็ย่อมได้ แต่หลี่เสวียนหยาง ต้องถอยออกไป18ลี้!”
“ดี!” เจียงตงหลิวไม่รีรอพลันตอบตกลงในทันที หันหน้าไปทางหลี่เสวียนหยาง “ศิษย์พี่หลี่ เจ้าถอยออกไป18ลี้ก่อนเถอะ!”
“ศิษย์พี่เจียง ชายคนนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก มันต้องการให้ข้าล่าถอยออกไป แน่นอนต้องหาโอกาสสังหารท่านแน่นอน” หลี่เสวียนหยางชมวดคิ้วพูด
“เฮอะ เพียงแค่ข้าไม่ก้าวเข้าไปในค่ายกล มันจะทำอะไรข้าได้?” เจียงตงหลิวพูดอย่างไม่ใส่ใจ
หลี่เสวียนหยางไม่มีทางเลือก ทำได้แค่เหินฟ้ากลายเป็นลำแสง ล่าถอยไปยังยอดเขาหนึ่งที่ห่างไป18ลี้ และคอยเฝ้าดูอยู่ที่นั่น