มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 584
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 584
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลัวซิวก็ราวกับได้เปิดโลกใหม่ในทันที ร่างของวิญญาณน้ำแข็งถือเป็นหนึ่งในร่างพรสวรรค์ วรยุทธ์ฝึกตนธาตุน้ำแข็ง ทำเพียงน้อยนิดแต่ได้ผลมหาศาล จึงบรรลุแดนได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เทพธิดาหานยู่ดวงตางดงามก็มองไปทางหลัวซิว ไม่ว่าจะเป็นการปลายตาหรือการยิ้มต่างก็งดงามชวนใจตื่น “ข้าสงสัยนัก เจ้าคลายโรคชีพจรขาดธาตุไฟได้อย่างไร ต่อให้ใช้ผลการฝึกตนของข้า หากต้องการคลายโรคชีพจรขาดธาตุไฟ ก็ยังเป็นเรื่องยากลำบาก หากผิดพลาดแม้แต่น้อย ก็จะทำให้เส้นชีพจรเสียหาย ทำให้ธาตุไฟแผดเผาร่างกายได้”
หลัวซิวมองไปทางลู่เมิ่งเหยา กลวิธีที่เขาคลายโรคชีพจรขาดธาตุไฟนั้น นอกจากเขาที่รู้ ก็มีแค่ลู่เมิ่งเหยาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ เขาคาดการณ์ว่า เทพธิดาหานยู่น่าจะรู้จากปากนางอย่างละเอียดแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลัวซิวก็ไม่ได้ปิดบังอะไรอีก ค่อย ๆ ยื่นมือขวาออกไปแล้วแบออก ที่กลางฝ่ามือ เปลวเพลิงกลุ่มหนึ่งก็ลุกโหมขึ้นมา
“พลังไสยอัคคี?” เทพธิดาหานยู่แววตาเป็นประกาย
หลัวซิวเผยสีหน้าฉงนใจ เขาไม่รู้ว่าพลังไสยอัคคีคืออะไร รู้เพียงแค่เปลวเพลิงที่ตนหลอมรวมได้นั้น กับเปลวเพลิงของจอมยุทธ์ทั่วไป ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรแตกต่าง
“ดูแล้วเมิ่งเหยาคงจะพูดไว้ไม่ผิด เจ้าสามารถใช้เรียกใช้พลังไสยอัคคี เพื่อคลายโรคชีพจรขาดธาตุไฟ พลังไสยอัคคีอาจจะดูไม่แตกต่างจากเปลวเพลิงทั่วไป แต่กลับสามารถหลอมรวมสรรพอัคคีมีการเติบโตที่ยิ่งใหญ่”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เทพธิดาหานยู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก สายตานั้นเหลือบมองไปทางเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว หากจะให้พูดถึงเรื่องความรู้เกี่ยวกับเพลิงอัคคี ไม่มีใครสามารถรู้ดีได้เทียบเท่ากับ เจ้ายุทธจักรอัคคีคนนี้แล้ว
“เทพธิดากล่าวถูกแล้ว ศักยภาพสูงสุดของพลังไสยอัคคี ก็คือสามารถหลอมรวมสรรพอัคคี โดยเฉพาะกับภูตอัคคีฟ้าดิน หากสามารถหลอมรวมกันได้ ก็จะสามารถเพิ่มระดับได้อย่างต่อเนื่อง”
เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวยิ้ม พร้อมกับพูดเสริม “หากต้องการเพิ่มศักยภาพของพลังไสยอัคคีหลอมรวมสรรพอัคคี จำเป็นต้องใช้วิชาลับเฉพาะ อีกทั้งยิ่งพลังไสยอัคคีหลอมรวมภูตอัคคีได้มากเท่าไร พลานุภาพก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
ได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เขาคิดมาตลอดว่าเพราะเขาคลายโรคชีพจรขาดธาตุไฟแล้วได้จึงได้รับเปลวเพลิง เป็นแค่เพียงเปลวเพลิงธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
ภูตอัคคีฟ้าดิน ในมือของเขาก็มีอยู่หนึ่งชนิดพอดี อีกทั้งพลังของมันยิ่งใหญ่มากกว่าภูตอัคคีกลืนกินเสียอีก
จากนั้น เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวพูดถึงตรงนี้อยู่ดี ๆ ก็หยุดพูดไปเสียดื้อ ๆ ยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของหลัวซิวมากขึ้นไปอีก
“ไม่รู้ว่าเดิมพันระหว่างข้ากับเจ้ายุทธจักรพลานุภาพ ยังมีผลอยู่หรือไม่?”
เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวหันไปมองทางเจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียน
ต้วนฉือเทียนได้รับสมยานามว่าเจ้ายุทธจักรพลานุภาพ ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ฝึกตนร่างยุทธ์ร่างเนื้อโดยเฉพาะ พละกำลังไม่เป็นสองรองใคร ว่ากันว่าเจ้ายุทธจักรพลานุภาพอาศัยพลังอันแข็งแกร่งของร่างยุทธ์ร่างเนื้อ สมบัติวิเศษชั้นสูงต่างก็สามารถถูกเขาทำลายเป็นผุยผงได้
“แน่นอนว่ายังมีผล!” ต้วนฉือเทียนพ่นลมหายใจออกมา
หลัวซิวมึนงงไปหมด ไม่รู้ว่าท่านหัวหน้าลาดตระเวนทั้งสองไปเดิมพันอะไรกันไว้
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่รู้ว่าหากเจ้ายุทธจักรพลานุภาพชนะ ต้องการสิ่งใดตอบแทนหรือ?” เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวยิ้มบาง ๆ
เมื่อได้ยินคำนี้ เจ้ายุทธจักรพลานุภาพก็รี่ตาลง “ข้าต้องการยาอัคคีเสวียนของท่านหนึ่งเม็ด ท่านจะยอมมอบให้ข้าหรือ?”
ยาอัคคีเสวียน อัคคีจักรพรรดิสีเจ็ดหลอมรวมเป็นสารสกัดเข้มข้น แฝงไปด้วยความลึกลับของกฎธาตุไฟ สำหรับนักยุทธ์ที่ฝึกตนวรยุทธ์ธาตุไฟแล้วนั้น เป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง
แต่สำหรับนักยุทธ์กลั่นร่าง กลับสามารถใช้วิธีกลั่นอัคคีเสวียนในยาอัคคีจักรพรรดิ เพื่อชุบร่างยกระดับร่างยุทธ์ร่างเนื้อ
เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว เพิ่งได้รับอัคคีเสวียนมาสามเม็ดพอดิบพอดี ต้วนฉือเทียนอยากได้มานานมากแล้ว เพียงแต่เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวเก็บมันไว้เป็นเหมือนลูกในไส้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินยอมเอาออกมาสักเม็ด
“เหตุใดต้องไม่ยินยอม?”
ที่ทำให้ต้วนฉือเทียนรู้สึกประหลาดใจก็คือ เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวตอบรับเสียดื้ออย่างนั้น
“แต่ว่าถ้าหากเจ้ายุทธจักรพลานุภาพแพ้ล่ะ?” เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวถามกลับ
ต้วนฉือเทียนนัยน์ตาสั่นไหวเป็นประกาย “เจ้าต้องการสิ่งใด?”
“พลังเก้าภพ เจ้ายุทธจักรพลานุภาพยินยอมมอบให้ข้าหรือ?” เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านต้องการพลังเก้าภพของข้าหรือ?” ต้วนฉือเทียนนัยน์ตาหดลงทันที