มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 607
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 607
พลังแปรเสวียนเทียน 24 เท่า!
นอกจากพลังแปรเสวียนเทียนแล้ว เขายังใช้พลังจากลูกแก้วเสวียนดำ ทำให้การฝึกตนของเขายกระดับไปถึงขั้นมกุฎยุทธ์ขั้น 7
ภายในช่วงระยะเพียงครู่เดียวพลังความน่ากลัวของเขาก็ระเบิดออกมารุนแรงกว่าก่อนหน้านี้ถึงหลายสิบเท่า
“ท่าน……”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลียนเอ๋อร์หายไปทันที แววตาเป็นประกายของนางจ้องมองไปที่หลัวซิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะนางรู้สึกว่าพลังของหนุ่มชุดดำตรงหน้าที่ระเบิดออกมาแทบจะเทียบเท่าได้กลับผู้แข็งแกร่งมหายุทธ์แล้ว
แสงบัวป้องร่างได้ชื่อว่ามีพลังป้องกันแข็งแกร่งมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสงสัย แต่บนโลกนี้ไม่มีการป้องกันใดที่ทำลายไม่ได้ ขอเพียงแค่การโจมตีเกินขอบเขตการป้องกันที่จะสามารถรับได้ แน่นอนว่าย่อมถูกทำลายได้อย่างแน่นอน
“ออกมาเดี๋ยวนี้!”
หลัวซิวตะโกน แล้วใช้ฝ่ามือชกออกไป ราวกับมังกรแท้ที่พุ่งทะยาน
“ตู้ม!”
ฝ่ามือชกเข้าที่แสงบัวป้องร่างอย่างแรง เสียงแตกกระจายราวกระจกแตกดังสะท้อนไม่หยุด วิชายิ่งเลิศที่ได้ชื่อว่าผู้ที่อยู่ในแดนเดียวกันไม่มีผู้ใดทำลายได้ ถูกฝ่ามือของหลัวซิวทุบทำลายจนแหลกละเอียด
“สาวน้อย เจ้าแพ้แล้ว!”
เมื่อทำลายแสงบัวป้องร่างได้แล้ว หลัวซิวจึงก้มลงมองสาวน้อยผู้เฉลียวฉลาดผู้นั้นด้วยรอยยิ้ม
สาวน้อยผู้นี้อายุยังดูไม่มากนัก อายุน่าจะน้อยกว่าตนไม่เท่าไหร่ นี่เองที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจ
เขารู้อยู่แก่ใจว่าการที่จะมีระดับการฝึกตนได้เท่านี้ตอนอายุเท่านี้ได้ อย่างมากเขาคงต้องอาศัยพลังลูกแก้วความเป็นตายมาช่วยเท่านั้น
ส่วนเหลียนเอ๋อร์ผู้นี้อายุน้อยกว่าตน แต่กลับฝึกตนได้ถึงระดับมกุฎยุทธ์ขั้น 6 แล้ว พรสวรรค์ในการฝึกตนเช่นนี้ต่างหากที่เรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง
“ข้าไม่ยอมแพ้หรอก”
นิสัยของเหลียนเอ๋อร์นั้นดื้อรั้น นางอ้าปากแล้วบ้วนเข็มทองเล็กๆเล่มหนึ่งออกมา เข็มทองพุ่งทะยานเข้าใส่หลัวซิวทันที
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้มาก เข็มทองจึงไปถึงเขาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปฏิกิริยาของหลัวซิวจะเร็วมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถหลบได้ทัน
แต่เหลียนเอ๋อร์ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเขาถึงชีวิต เข็มเงินไม่ได้เลือกโจมตีที่ดวงตา แต่มุ่งหน้าไปที่ศีรษะของหลัวซิวแทน
แกร๊ง!
เสียงใสกังวานดังขึ้น เข็มทองปะทะเข้าที่ศีรษะของหลัวซิว เกิดเป็นเปลวไฟกระเซ็นออกมา เข็มเงินระเบิดออกทันที ศีรษะของหลัวซิวเหลือเพียงจุดเลือดเล็กๆ เท่านั้น
“สาวน้อยทำไมใจแคบนัก” สีหน้าของหลัวซิวแสดงอาการไม่พอใจ “รีบยอมแพ้เร็วเข้าเถิด ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
“ข้าไม่มีทางยอม!”
เหลียนเอ๋อร์เป็นคนหัวไว นางดูออกว่าหลัวซิวไม่ได้โกรธนางจริง ร่างบางของนางถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสะบัดมือเพื่อปล่อยเข็มทองใส่หลัวซิวต่อ อย่างรวดเร็ว
เข็มทองพวกนี้อาจจะเล็กจิ๋ว แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกๆ เข็มมีพลังโจมตีเทียบเท่ากับนักยุทธ์ดินชั้นกลาง หากไม่ใช่ผู้ที่ฝึกวรยุทธ์แล้วโดนโจมตีในระยะประชิด จะต้องบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน
เข็มเงินทุกเล่มที่ปะทะเข้าที่ร่างกายของหลัวซิวเด้งกลับออกมา จากนั้นเขาจึงรีบวิ่งกวดตามไปในทันที พลางยื่นมือดึงคอเสื้อด้านหลังของเหลียนเอ๋อร์เอาไว้แล้วดึงนางขึ้นมา
สาวน้อยผู้นี้มีความสูงประมาณหนึ่งเมตรห้า แต่ร่างกายกลับคล่องแคล่ว นางพยายามปัดป้องดิ้นรน จนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย หลัวซิวเองก็รู้สึกเข๊อะเขินเช่นกัน
“เอาล่ะเหลียนเอ๋อร์ หยุดวุ่นวายได้แล้ว”
และในตอนนั้นเอง มีเสียงแผ่วเบาดังสะท้อนมาจากท้องฟ้าอันไกลโพ้น
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เหลียนเอ๋อร์ที่อยู่ในมือของหลัวซิวก็ถอนหายใจ แม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่นางก็ไม่พยายามดิ้นรนอีกต่อไปอีก
“หนุ่มน้อยชุดดำ ปล่อยข้าซะ ข้ายอมแพ้แล้ว”
“แบบนี้ถึงจะถูก” หลัวซิวยิ้มพลางกล่าวตอบ ก่อนจะปล่อยนางลงไป
สาวน้อยผู้ดื้อรั้นเมื่อเท้าเหยียบลงบนพื้นแล้ว ก็ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางอย่างผู้ชนะ ราวกับว่าคนที่ยอมแพ้ไม่ใช่นางแต่เป็นหลัวซิว