มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 692
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 692
หอคอยเสวียนเทียนแห่งนี้เหมือนกับหอคอยเทพจิตและหอคอยร่างทองตรงที่ ไม่สกัดพลังแห่งกฎ
ในทุกๆ ชั้นของหอคอยเสวียนเทียนจะปรากฏคู่ต่อสู้เก้าคน และทั้งเก้าคนนี้มีการฝึกพลังจิตแท้ที่เหมือนกัน และไม่มีแดนตัวสำนึกและแดนร่างเนื้อเช่นกัน
คู่ต่อสู้เก้าคนในชั้นแรก ทุกคนล้วนอยู่ในแดนมหายุทธ์ขั้นสาม
หลัวซิวแน่ใจว่าหากใช้เพียงแค่พลังจิตแท้เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถผ่านอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นเมื่อมาถึงที่นี่เขาจึงใช้พลังแห่งกฎทันที
ภายในเวลาสั้นๆ เพียงอึดใจเดียว คู่ต่อสู้ระดับมหายุทธ์ขั้นสามถูกเขากำจัดจนดับสลายไปทันที
กฎการผ่านอุปสรรคของหอคอยเสวียนเทียนแบ่งออกเป็นสองวิธีเช่นเดียวกัน วิธีแรกคือภายใต้การตีวงล้อมของคู่ต่อสู้ทั้งเก้าจะต้องรับมือให้ได้เป็นเวลา 1 ก้านธูป วิธีที่สองคือสังหารคู่ต่อสู้ทั้งเก้าคนภายในเวลาหนึ่งก้านธูป
แม้ดูเหมือนว่าจำนวนคู่ต่อสู้จะมากกว่าที่หอคอยมหาภพ แต่คู่ต่อสู้บน หอคอยมหาภพ นั้นช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนไร้จุดอ่อน นี่เองทำให้ระดับความยากของ หอคอยมหาภพ สูงกว่า
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงช่วงหายใจเข้าออก หลัวซิวก็ผ่านด่านที่หอคอยเสวียนเทียนชั้นสามแล้ว จากนั้นจึงออกไปจากที่นั่นทันที
การผ่านด่านชั้นแรกโดยวิธีการที่สองนั้นจะได้รับเวลาในการฝึก 6 วัน เมื่อผ่านชั้นที่ 2 แล้วจะได้รับเวลาในการฝึก 20 วัน และเมื่อผ่านชั้นที่ 3 จะได้รับเวลาในการฝึก 30 วัน
เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว หลัวซิวจะได้รับเวลาในการฝึกทั้งหมดนานถึง 3 เดือน
แต่หลัวซิวไม่รู้ตัวว่าฝีมือของตัวเองบนหอคอยเสวียนเทียนนั้นอยู่ในสายตาของเทวทูตจื่อเยียนทั้งหมดแล้ว
แม้ว่าญาณทิพย์ของเขาจะว่องไวมาก แต่ยังห่างไกลจากเทวทูตจื่อเยียนอยู่มาก ดังนั้นจึงไม่รู้ตัวว่านางกำลังสืบเรื่องของเขาอยู่
และต่อให้หลัวซิวรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตามสืบเรื่องของตัวเองอยู่ก็คงจะไม่สนใจเท่าไหร่นัก บางทีการควบคุมกฎแห่งความตายได้ในขั้นแรกสำหรับผู้แข็งแกร่งจากโลกแสงดาวแล้วอาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งอย่างเทวทูตจื่อเยียนกลับเห็นเป็นแค่ผู้มีพรสวรรค์พอใช้ก็เท่านั้น
“เจ้าแดนหลิวข้าเคยพูดว่าอะไรนะ ซิงหลิงที่ควบคุมกฎเกิงจินเอาไว้นั้นไม่นับว่ามีประโยชน์อะไร” บนพระราชวังบนยอดเขาสูงในแดนศักดิ์สิทธิ์ เทวทูตจื่อเยียนกำลังกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“เจ้าเด็กคนนี้เหนือกว่าซิงหลิงแน่นอน” เจ้าแดนหลิวกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มอันขมขื่นเช่นกัน
ในโลกแสงดาวนั้น ซิงหลิงนับว่าเป็นอัจฉริยะที่หมื่นปีจะปรากฏสักคน อายุเพียง 20 ปีก็สามารถตระหนักรู้การควบคุมพลังแห่งกฎถึงสามอย่าง ในประวัติศาสตร์กว่าหมื่นปีที่ผ่านมาก็นับว่าเป็นอัจฉริยะขั้นสุดยอดคนหนึ่ง
หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เขาหวังว่าภายในร้อยปีจะบรรลุถึงแดนมหายุทธ์ได้ และกลายเป็นอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งและโดดเด่นที่สุดในโลกแสงดาว
ทว่าชะตาชีวิตของคนก็มักจะพลิกผันเช่นนี้ จู่ๆ ก็ปรากฏคนประหลาดอย่างหลัวซิวขึ้นมา แถมยังมีอายุน้อยกว่าซิงหลิงอยู่หลายปี และในตอนนี้ก็ควบคุมกฎแห่งความตายขั้นแรกได้แล้ว
การตระหนักรู้กฎกับการควบคุมกฎในขั้นแรกได้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าซิงหลิงจะตระหนักรู้กฎ 3 ประเภทธรรมดา แต่เมื่อรวมกันแล้วก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าได้กับกฎแห่งความตายในระดับสูงสุด
เพราะกฎในระดับสูงสุดกับกฎธรรมดา ไม่สามารถเอามาเทียบเท่ากันได้เลย
สำหรับหลัวซิวที่ตระหนักรู้เรื่องราวของกฎความตายนั้น ต่อให้เขาพยายามปิดบังมากแค่ไหน แม้ว่าจะปิดบังคนอื่นๆ มาได้ แต่กลับไม่สามารถหนีรอดสายตาของเทวทูตจื่อเยียน กับ เจ้าแดนหลิวได้ ดังนั้นในตอนที่สังเกตุเห็นหลัวซิว พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานของกฎที่เคลื่อนไหวซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเขา
“ตอนนี้เขาเข้าไปในตำหนักเต๋าเพื่อศึกษากฎแล้ว ไม่รู้ว่าตอนที่เขาออกมาจะสร้างความประหลาดใจให้ข้าอีกหรือไม่” เทวทูตจื่อเยียน จิบชาหนึ่งคำก่อนจะอมยิ้มพูดออกมา
ภายใน ตำหนักเต๋า หลัวซิวอยู่ในโซนที่มีความประหลาดเฉพาะตัว ตรงหน้าปรากฏร่องรอยแห่งกฎอย่างชัดเจน อธิบายถึงความมหัศจรรย์อย่างไม่รู้จบของกฎแห่งชีวิต
เวลาหนึ่งร้อยกว่าวันผ่านไปเงียบๆ จนไม่รู้สึกตัว
บทที่ 691
บทที่ 693