มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 704
เทวทูตจื่อเยียนและเจ้าแดนหลิวล้วนคิดว่าความน่าสะพรึงกลัวของหลัวซิวนั้นอยู่ที่ความสามารถในการตระหนักรู้กฎ
แต่ที่จริงแล้วความสามารถในการตระหนักรู้กฎของหลัวซิว ไม่ได้น่าสะพรึงกลัวหรือเหนือมนุษย์อย่างที่พวกเขาคิด
ที่เขาสามารถตระหนักรู้กฎความตายได้อย่างรวดเร็วนั้น เป็นเพราะมีสาเหตุมาจากหลายด้าน
อันดับแรกก็คือวิญญาณของเขาได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับลูกแก้วความเป็นตาย สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของกฎดั้งเดิมที่แผ่ซ่านออกมาจากลูกแก้วความเป็นตายที่เป็นสมบัติของกฎดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ตลอดเวลา ทำให้รู้และเข้าใจกฎได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ประการที่สองก็คือข้อคิดและประสบการณ์ในการฝึกตนที่เทวทูตจื่อเยียนมอบให้ ในนั้นได้บันทึกทุกอย่างเกี่ยวกับความซับซ้อนของกฎความตายเอาไว้ อธิบายอย่างแจ่มแจ้ง และละเอียดหมดจด
และสุดท้ายก็คือร่องรอยกฎของเค้าโครงผังกฎดั้งเดิมได้ปรากฏอยู่ในสมองส่วนลึกของหลัวซิว จึงสามารถตระหนักรู้ถึงความล้ำลึกซับซ้อนของมันได้อย่างง่ายดาย
ปัจจัยหลายอย่างรวมกัน หากหลัวซิวไม่สามารถเพิ่มระดับแดนของกฎได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ละก็ เช่นนั้นบอกได้แค่ว่าความสามารถในการตระหนักรู้กฎของเขาแย่จนถึงขีดสุด
เพียงแต่ว่าเทวทูตจื่อเยียนและเจ้าแดนหลิวไม่มีทางที่จะรู้ว่าหลัวซิวมีข้อได้เปรียบในการตระหนักรู้กฎที่มากมายเช่นนี้ ดังนั้นจึงได้คิดไปเองว่า เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะด้านการตระหนักรู้ที่มีพรสวรรค์เหนือมนุษย์อย่างแน่นอน!
“อัจฉริยะไม่ได้หมายถึงฝีมือความแข็งแกร่ง หวังว่าเขาจะเติบโตไปจนถึงจุดนั้นได้” เทวทูตจื่อเยียนกล่าวพลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“หากเขารักษาความสามารถในการตระหนักรู้กฎเอาไว้ต่อไปได้ ไม่แน่ในอนาคตเขาอาจจะก้าวเข้าสู่แดนเทพฟ้าได้ก็เป็นได้” เจ้าแดนหลิวเองก็กล่าวอย่างถอดถอนใจ
เทพฟ้านั่นเป็นผู้แข็งแกร่งที่ปรากฏได้แค่ในพิภพกลางเท่านั้น!
นอกจากนี้แล้วต่อให้เป็นพิภพกลางก็ตาม แสนปีถึงจะปรากฏเทพฟ้าขึ้นผู้หนึ่ง ส่วนพิภพต่ำอย่างโลกแสงดาว ไม่ว่าจะกี่ปีก็ไม่มีทางที่จะปรากฏเทพฟ้าได้
นี่ไม่ได้หมายความว่าความสามารถของอัจฉริยะในโลกแสงดาวไม่เพียงพอที่จะฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเทพฟ้า แต่เป็นเพราะข้อผูกมัดของพิภพต่ำ อยู่ที่นี่ไม่มีทางที่จะกลายเป็นเทพฟ้าได้
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันยาวนาน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เคยได้ส่งอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมไปยังโลกเสวียนเทียน แต่การแข่งขันในโลกเสวียนเทียนนั้นดุเดือดโหดร้ายกว่าที่โลกแสงดาวหลายเท่า
ผู้คนที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมพวกนั้น ไม่มีใครที่ทำสำเร็จเลย สุดท้ายแล้วก็หยุดฝีเท้าอยู่ที่แดนเทพมารนิรันกาลและมีบางคนที่แม้กระทั่งแดนเทพมารก็ยังไม่สามารถบรรลุถึงได้ หยุดอยู่เพียงที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์
มีบางคนที่เลือกอยู่ที่โลกเสวียนเทียนต่อไป และมีบางคนที่รู้สึกสิ้นหวัง จึงเลือกกลับมาที่โลกแสงดาว
และคนส่วนมาก ที่ได้สิ้นชีพไป ภายใต้การแข่งขันอันโหดร้ายในพิภพกลาง!
ดังนั้นแม้ว่าหลัวซิวจะได้แสดงพรสวรรค์และมันสมองอันน่าสะพรึงกลัวออกมา แต่เทวทูตจื่อเยียนและเจ้าแดนหลิวก็ยังคงคิดว่า เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นเทพฟ้าอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้นเอง
ต้องการบรรลุถึงแดนเทพฟ้านั้น มันเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไม่ใช่มีเพียงพรสวรรค์และมันสมองก็สามารถบรรลุถึงได้
ครืน! ครืน! ครืน! ……
การต่อสู้ภายในชั้นสามของหอคอยสุดหล้ายังคงดำเนินต่อไป ไม่มีการลอบโจมตีเป็นครั้งคราวจากมหายุทธ์กลั่นวิญญาณ หลัวซิวก็ได้ค่อย ๆ ควบคุมสถานการณ์โดยรวม
ผ่านไปอีกประมาณสิบลมหายใจเข้าออก ฝ่าเท้าของหลัวซิวเหยียบลงไปบนพื้น มั่นคงดั่งภูเขา ปล่อยให้การโจมตีของมหายุทธ์กลั่นร่างตกลงมาบนร่างของเขาตามอำเภอใจ กระบี่หมัดของเขาจู่โจมจนศีรษะของอีกฝ่ายตกกระจายกลายเป็นม่านโลหิตอย่างไร้ไมตรี
คู่ต่อสู้คนที่สอง ถูกสังหาร!
และเวลา พึ่งผ่านไปยังไม่ถึงสามสิบลมหายใจเข้าออก!
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเจ้าแดนหลิว “เทวทูตจื่อเยียน อัจฉริยะเหมือนดั่งหลัวซิว อยู่ที่โลกเสวียนเทียนก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้วสินะ?”
ไม่เหมือนกับเทวทูตจื่อเยียน หลิวหงเทียนเกิดอยู่ในโลกแสงดาว ส่วนเทวทูตจื่อเยียนนั้นมาจากพิภพกลาง โลกเสวียนเทียน!