มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 863
“อัจฉริยะสองคนผู้มากไปด้วยศักยภาพถูกฆ่าทิ้ง คนจากค่ายสว่างโมโหเสียจนนั่งไม่ติด แน่นอนว่าต้องมาแก้แค้นแน่นอน”
ชั้นที่สองของตำหนักเทวมืด หลายคนต่างพากันพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะคนจากค่ายสว่างมาท้าประลองที่ชั้นสองของหอคอยเทว ทั้งหมดต่างก็พุ่งเป้าหมายมาที่หลัวซิว
“ยอร์ค!”
เสียงหนึ่งดังเข้ามาในหูของหลัวซิว จากนั้นหลัวซิวก็เห็นคนสามคนเดินตรงมาหาตน
ทั้งสามคนนั้น หนึ่งในนั้นคือเผ่าพันธุ์มนุษย์ อีกหนึ่งคือเผ่าปีศาจร้าย และยังมีอีกหนึ่งคนที่เป็นเผ่ามนุษย์อสูร
“มีเรื่องอันใด?” หลัวซิวเอ่ยถามเสียงเรียบ เขาได้รู้มาแล้วว่าคนจากค่ายสว่างมาหาเรื่องให้ตนถึงที่แห่งนี้ หรือว่าเจ้าสามคนนี้จะฉวยวิกฤตนี้เพื่อท้าประลองกันตนด้วย?
“ข้านามว่าเนลสัน” ชายเผ่าพันธุ์มนุษย์คนนั้นเอ่ยปากพูด ในเวลาเดียวกันก็แนะนำอีกสองคน “คนนี้คือเจ้าคนจากเผ่าปีศาจร้ายนามว่า อีฟส์ ส่วนนี่มาจากเผ่ามนุษย์อสูรนามว่า เทเบอร์”
“พวกเราเพิ่งขึ้นมาจากชั้นที่หนึ่ง ได้ยินมาว่าเจ้าจัดการเด็ดหัวไอ้พวกสารเลวไร้ยางอายอย่างดาซีกับลูนไปแล้ว” เนลสันพูดพร้อมรอยยิ้ม
หลัวซิวเคยได้ยินชื่อของทั้งสามคนนี้ เหมือนว่าคนจากค่ายสว่างมาท้าประลองที่ชั้นที่หนึ่งของตำหนักเทวมืด ก็เพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนได้ออกจากชั้นที่หนึ่ง และขึ้นมาชั้นที่สองแล้ว
เห็นได้ชัดว่า ทั้งสามคนนี้พลังแข็งแกร่งมาก ทำให้คนจากค่ายสว่างเกิดความเกรงกลัวได้ รอจนพวกเขาออกไปแล้ว ถึงได้กล้าเข้ามาท้าประลองอย่างไร้ความกังวล
เพียงแต่คนจากค่ายสว่างคาดไม่ถึงว่าอยู่ดี ๆ จะมียอร์คปรากฏตัวขึ้นมา ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้พวกเขาขายหน้าอีกทั้งยังกำจัดอัจฉริยะแนวหน้าทั้งสองคนในตอนนั้น ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก
“เพราะว่าเจ้าฆ่าดาซีกับลูน ครั้งนี้คนจากค่ายสว่างมาที่ชั้นสองของหอคอยเทว นั้นก็เพื่อมาจัดการกับเจ้าโดยเฉพาะ ทางที่ดีตอนนี้เจ้าไปหาห้องลับสักห้องเพื่อฝึกตนปิดขัง อย่าได้เผยตัวออกมาเด็ดขาด” เนลสันเอ่ย
“ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าพลังของเจ้าจะดีมากก็ตาม แต่ว่าผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรของค่ายสว่างมีจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่ได้ขาดความเก่งกาจแม้แต่น้อย หากด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้ไปต่อกร เรื่องราวนั้นจะแย่มากกว่าดี” เผ่าปีศาจร้าย อีฟส์ ก็พูดเช่นเดียวกัน
“เพียงแค่เจ้าหลบซ่อนให้ดี ไม่เผยตัว พวกค่ายสว่างที่โอหังไร้ยางอายก็ไม่สามารถทำอย่างไรกับเจ้าได้” เทเบอร์ด้านบนมีหัวสิงโตอยู่ พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ตอนนี้เจ้าน่าจะมีแต้มห้วงกระบี่ราวพันกว่าแล้วใช่หรือไม่ ชั้นสองของหอคอยเทวมีห้องลับฝึกตนพิเศษอยู่ เจ้าสามารถเลือกเอาแต้มห้วงกระบี่ไปแลกเวลาฝึกตน แต่ก็สามารถไปที่ห้องลับฝึกตนธรรมดาได้ เพียงแค่เจ้าหลบวิกฤตครั้งนี้ได้ก็พอแล้ว” เนลสันพูดต่อ
เห็นได้ชัดว่า ทั้งสามคนที่เพิ่งจะขึ้นมาถึงชั้นสองของหอคอยเทวได้ไม่นาน มาเพื่อเตือนหลัวซิวด้วยความหวังดี
คนเช่นนี้ที่ค่ายมืดมีไม่มากนัก ส่วนมากมักจะเฉยชากับเรื่องเช่นนี้ หรือถึงขั้นว่ามีจิตใจที่กำลังมองเรื่องสนุกอยู่
“ค่ายสว่างครั้งนี้ คนที่มามีพลังใดบ้าง?” หลัวซิวเอ่ยปากถาม
“เจ้าคงไม่ได้คิดที่จะไปประลองกับพวกเขาหรอกใช่หรือไม่?” เนลสันเลิกคิ้ว รู้สึกว่าเจ้าหนุ่มที่ชื่อยอร์คนี้ ราวกับจะบ้างคลั่งยิ่งกว่าตน อีฟส์ และ เทเบอร์เสียอีก
“พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อโน้มน้าวไม่ให้เจ้าไปเผชิญหน้ากับคนจากค่ายสว่าง” เนลสันได้พูดสถานการณ์ที่ค่ายสว่างมาหาถึงที่นี่เพื่อถ้าท้าทายเขาออกมาคร่าว ๆ แล้ว
ครั้งนี้ค่ายสว่างมากันสิบคน มีหกคนเป็นเจ้ายุทธจักรช่วงต้น สามคนคือเจ้ายุทธจักรช่วงกลาง และอีกคนคือเจ้ายุทธจักรช่วงปลาย
พวกเนลสันทั้งสามคนเดินจากไปอย่างรวดเร็ว พวกเขามาที่นี่แค่เพียงเพื่อต้องการเตือนหลัวซิว แต่ถ้าหากเขายังตั้งมั่นไม่ฟังคำโน้มน้าว เช่นนั้นหากตายขึ้นมาก็อย่าโทษอื่นแล้วกัน
……
ชั้นที่สองของตำหนักเทวมืด มีแท่นประลองอยู่ท่านหนึ่ง รอบ ๆ แท่นประลองมีร่องรอยพื้นผิวของค่ายกล ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพียงใด สำแดงวิชายิ่งเลิศมากมายเพียงใด ผลพวงของการต่อสู้ก็จะถูกควบคุมให้อยู่ภายในขอบเขตของแท่นประลองเท่านั้น