มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 864
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 864
เวลานี้ ที่บนแท่นประลองชั้นที่สองของตำหนักเทวมืด ผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรสองคนกลายร่างเป็นเงาลวง ปะทะกันอย่างดุเดือดบนแท่นประลอง
การต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรโดยทั่วไปแล้วเป็นเพียงการสำแดงฤทธิ์เดชเท่านั้น น้อยครั้งมากที่จะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด
แต่ในครั้งนี้ เจ้ายุทธจักรทั้งสองที่อยู่บนแท่นประลอง กลับดูเหมือนว่าจะเป็นการปลดปลายไฟแค้นในใจ ไม่ว่ากลยุทธ์ใดที่งัดออกมานั้นต่างก็ไร้ซึ่งความปราณี อีกทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแม้แต่น้อย
“เฮอะ เจ้าพวกโอหังค่ายสว่าง จะสั่งสอนมันให้สาสม!”
ผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรโดยทั่วไปแล้วต่างก็หยิ่งในสถานะของตนอย่างมาก แต่เมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรี ไม่มีใครที่สามารถทนนิ่งเฉยอยู่ได้
“พวกเจ้าค่ายมืดไม่โอหังหรือ? ฆ่าดาซีกับลูนอีกด้วย? เขาขึ้นมาชั้นที่สองแล้วไม่ใช่หรือ?”
“กล้าฆ่าคน แต่ไม่มีความกล้าเผยตัวออกมาหรือ? เห็นได้ชัดว่ามีพลังระดับเจ้ายุทธจักรแต่กลับไปรังแกผู้น้อย ในค่ายมืดมีแต่คนพรรค์นี้หรือ”
ต่อให้จะมีคนจำนวนไม่มาก แต่ท่าทีของคนจากค่ายสว่างต่างก็รุนแรงและผยองมาก
ในโลกเชิ่งถิง สว่างและมืดทั้งสองเป็นปฏิปักษ์และต่อสู้กัน ทางฝั่งค่ายสว่าง ต่างก็ได้เปรียบอยู่ตลอดเวลา
“สารเลวชั้นต่ำ ยอร์คใช้ผลการฝึกตนมหายุทธ์ขั้นห้าข้ามแดนท้าประลองและฆ่าขยะไร้ประโยชน์ไปสองคน พวกเจ้ากลับใช้ผลการฝึกตนเจ้ายุทธจักรมาท้าทายเขา ยังจะกล้าบอกอีกหรือว่าคนอื่นรังแกผู้น้อย?” มีผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรจากเผ่ามนุษย์อสูรตะโกนคำรามด้วยความโกรธ น้ำเสียงนั้นราวกับเสียงฟ้าคำราม
“เลิกพูดไร้สาระ ไปเรียกไอ้เดียรัจฉานที่ชื่อยอร์คออกมา!” ถึงแม้สติและปัญญาจะด้อยไป แต่คนจากค่ายสว่างก็ยังคงมีทีท่าแข็งกระด้างเช่นเดิม
“แม่งเอ้ย พวกค่ายสว่างจอมเสแสร้ง ไม่ต้องรักษาหน้าตาไว้แล้วหรือ?” ทางฝั่งค่ายมืดหัวเราะเย้ยหยัน
“พวกเจ้าค่ายมืดถือคติบูชาความแข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะเป็นนิรันดร์ไม่ใช่รึ? พวกเจ้ายังจะเอาเกียรติ?” คนจากค่ายสว่างปากดี
ในขณะที่ทั้งสองค่ายกำลังทะเลาะเสียงดังกันอยู่นั้น การต่อสู้บนแท่นประลองกำลังเข้าใกล้ช่วงสุดท้าย เจ้ายุทธจักรทั้งสองต่างก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ผลการฝึกตนตกต่ำลงไปอย่างน่าเป็นกังวล
ในท้ายที่สุด การต่อสู้นี้ก็ไม่ได้ถูกตัดสินแพ้ชนะ เพราะหากฝืนต่อสู้กันต่อไป มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่
เพราะว่าเมื่อก้าวมาถึงแดนแห่งนี้แล้ว นอกจากว่าความสามารถจะเก่งกาจเกินคู่ต่อสู้อย่างมาก ไม่เช่นนั้นต่อให้สามารถเข่นฆ่าอีกฝ่ายได้ แต่ตนก็ยังจะได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจจะบาดเจ็บถึงรากฐาน ไม่สามารถก้าวหน้าได้อีกต่อไป
ดังนั้นจอมยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนยิ่งสูง ก็ยิ่งจะไม่ยอมลงมือต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายง่าย ๆ
“นั่นยอร์ค! ไอ้หนูนั่นมาแล้ว!”
ทันใดนั้น ผู้คนรอบ ๆ แท่นประลองต่างก็ปะทุความโกรธขึ้นมา สายตาหลายคู่ต้องก็จ้องมองมาทางชายหนุ่มผมทองคนนี้
“ยอร์ค เจ้าเป็นนักยุทธ์ของเชิ่งถิง แต่กลับเข้าร่วมค่ายมืด อีกทั้งยังฆ่าฟันอัจฉริยะสองคนของค่ายสว่างอีก วันนี้ข้าจะเป็นตัวแทนแห่งเทวสว่างตัดสินเจ้าเอง!”
วินาทีที่หลัวซิวปรากฏตัว เจ้ายุทธจักรคนหนึ่งจากค่ายสว่างก็กระโดดขึ้นไปบนแท่นประลอง บนร่างสวมชุดนักรบสีขาวหิมะ
“ตัดสินบ้านพ่อแกสิ!” หลัวซิวรับไม่ได้ที่สุดก็คือคำนี้
“ฮะ ฮ่า พูดได้ดี พวกสวะค่ายสว่าง เอะอะก็ตัดสินนั่นตัดสินนี่ พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ก็เป็นแค่เพียงสวะเท่านั้น!” ทางฝั่งค่ายมืดหัวเราะร่า
“ขึ้นมารับความตายซะ!” ชายวัยกลางคนบนแทนประลองมีสีหน้าเกรี้ยวกราด พลิกมือหยิบดาบรบเล่มหนึ่งออกมา
“โอริ ตามผลการฝึกตนแล้ว การรังแกเด็กไม่ถือเป็นความสามารถ มาเล่นกับข้านี่!” เผ่าพันธุ์มนุษย์เจ้ายุทธจักรคนหนึ่งจากค่ายมืดลุกขึ้นมา
“เหลยหนิงเจ้ารีบร้อนอันใด? หากเจ้าจะสู้ อีกเดี๋ยวข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง!” ชายชราผมขาวคนหนึ่งจากค่ายสว่างพูดพร้อมเสียงหัวเราะ
ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรช่วงปลาย