มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 973
ตอนที่เทพสงครามเอกภพยังมีชีวิตอยู่เขาสู้ชนะศัตรูแปดร้อยพิภพไปทั่วทุกสารทิศโดดเดี่ยวอยู่ยงคงกระพัน หลังจากที่ฝึกตนจนกำลังรบถึงระดับที่สูงที่สุด ทำให้ระดับค่ายกลก็สูงมากขึ้นไปด้วย
ระดับที่สูงกว่าระดับปรมาจารย์มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9 ก็คืออาจารย์ค่ายเทพนอกจากค่ายกลระดับเทพจะพอสามารถสร้างภูตแห่งค่ายได้แล้ว ค่ายกลปกติทั่วไป จะไม่สามารถสร้างภูตแห่งค่ายได้
พื้นที่ทางเข้าที่ซ่อนอยู่ถูกค่ายกลปิดบังอำพรางไว้ ค่ายกลนี้อยู่ระดับชั้นที่สูงมาก ถึงระดับเทพ
“เทพสงครามเอกภพตายไปเป็นหมื่นปีแล้ว ค่ายกลที่อำพรางไว้ ทำลายได้ไม่ยาก”
เทพมารอสูรเผ่ามังกรส่องกระจกทองเหลืองไปตำแหน่งที่ค่ายกลอำพรางอยู่ บวกกับการช่วยกันลงมือของบรรดาเทพมารที่อยู่ในที่นี้ ไม่นานค่ายกลที่อำพรางอยู่ก็สั่นสะเทือน ส่องแสงระยิบระยับ
ค่ายกลนี้เป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้าสร้างขึ้นไว้ก่อนตาย การที่เหล่าบรรดาเทพมารพยายามที่จะทำลายมันในทันทีเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
“ปัง !”
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม มีเสียงคำรามดังขึ้น มีการปะทุขึ้นของแสง ค่ายกลอำพรางถูกทำลายลงแล้ว
บรรดาเทพมารต่างมีสีหน้าดีใจ แต่ในตอนนี้เอง กลับมีลำแสงสีทองโผล่ออกมาจากเศษค่ายกลที่แตก ส่งเสียงดังเปาะ แล้วเจาะทะลุกลางหน้าผากของเทพมารตนหนึ่ง
ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็วได้อย่างไร ? ทำให้เทพมารตนนั้นไม่ทันได้รับมือ ทำให้ได้เห็นว่าระดับความเร็วการจู่โจมของแสงสีทองน่ากลัวเพียงใด อย่างน้อยหลัวซิวถามตัวเองว่าหากตนถูกแสงสีทองจู่โจม เขาไม่มีทางหลบหลีกไปได้อย่างแน่นอน
เทพมารที่แสงสีทองทะลุเข้าไปกลางหน้าผากมีสายตาเฉื่อยชา ต่อมากะโหลกศรีษะแตกเป็นผุยผง หมอกเลือดปลิวกระจาย
“ซวยแล้ว !”
ร่างกายที่ไร้หัวมีหัวที่เติบโตขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว เทพมารตนนี้โกรธจัดมาก ด่าออกไปไม่หยุด “โชคดีที่ช่องจิตของข้าไม่ได้ซ่อนอยู่ในตัวหยั่งรู้ เช่นนั้นเมื่อครู่คงต้องตายไปแล้ว”
ช่องจิต คือผลผลิตผลของวิญญาณดั้งเดิมที่รวมตัวกันและเปลี่ยนสภาพ มีเพียงผู้ที่อยู่ในระดับแดนเทพมารตัวสำนึกวิญญาณหลอมรวมพลังแห่งผังกฎดั้งเดิม ถึงจะสามารถกลายเป็นช่องจิต
เช่นหลัวซิวได้รับช่องจิตปลอม ที่มีคำว่า”ปลอม” ก็เนื่องจากไม่มีพลังแห่งผังกฎดั้งเดิม
นอกจากนี้แล้ว การที่ฝึกตนถึงระดับแดนเทพมาร พลังจิตแท้ก็จะหลอมรวมและเปลี่ยนสภาพกับพลังแห่งผังกฎดั้งเดิมกลายเป็นพลังเทพ
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตวิญญาณขอแค่ไปถึงระดับแดนเทพมารก็จะเป็นขั้นตอนในการยกระดับชีวิต
“ผู้อาวุโส ช่องจิตไม่ต้องอยู่ในตัวหยั่งรู้ได้ด้วยหรือ ?” หลัวซิวค่อนข้างสงสัย ก็เลยเอ่ยถามเทวทูตจื่อเยียน
ช่องจิตก็คือการรวมตัวกันของวิญญาณและตัวสำนึกตัวหยั่งรู้ก็คือที่อยู่ของวิญญาณ ตามหลักแล้วช่องจิตควรจะอยู่ในตัวหยั่งรู้ถึงจะถูก
“เจ้ายังไม่ถึงระดับเขตแดนนี้แน่นอนว่าเจ้าจึงยังไม่รู้ หลังจากที่วิญญาณรวมตัวกันจนเป็นช่องจิตแล้ว ก็จะไม่อยู่ในขอบเขตวงจำกัดของตัวหยั่งรู้อีกแล้ว และช่องจิตก็คือวิญญาณดั้งเดิมของเทพมาร ขอแค่ช่องจิตไม่โดนทำลาย ก็จะสามารถสร้างร่างกายขึ้นได้ใหม่ ดังนั้นการที่จะจู่โจมฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับเทพมาร จำเป็นต้องทำลายช่องจิตให้ได้”
ถ้าเป็นคนอื่นทั่วไป เทวทูตจื่อเยียนขี้เกียจจะมาอธิบายอะไรเยอะแยะแน่นอน แต่นางรู้สึกว่าหลัวซิวคือคนที่ถูกกำหนดให้กลายเป็นเทพมาร การที่เขาได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเทพมารก่อนล่วงหน้า มันเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเทวทูตจื่อเยียนแล้ว หลัวซิวพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ถึงตอนนี้เพิ่งจะเข้าใจว่า ตนเองค่อนข้างดูถูกผู้แข็งแกร่งเทพมารเหล่านั้นเกินไป ถ้าช่องจิตไม่โดนทำลาย ก็จะไม่มีวันตาย นี่คือเหตุผลที่ระดับเทพมารได้ชื่อว่าชั่วนิรันดร์