ยอดคุณหมอสกุลเฉิน - ตอนที่216 เขาไม่ได้ขาดแคลนอะไร
ตอนที่216 เขาไม่ได้ขาดแคลนอะไร
“คุณไม่เข้าใจความรัก”
ฉีเล่ยหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าผมรักคุณ ต่อให้ข้างหน้าจะเป็นทะเลเพลิงหรือภูเขาดาบ ผมก็จะจับมือคุณไว้และฝ่าฟันมันไปด้วยกัน ถ้ารักกันแล้วอะไรก็ไม่ใช่ปัญหา แล้วยังจะต้องมาพูดคุยเรื่องข้อตกลงอะไรอีกล่ะ?”
“แต่ประเด็นคือผมไม่ได้รักคุณ และยังไม่รู้สึกรักด้วย แต่ในเมื่อคุณยื่นข้อเสนอแบบนี้ ผมก็ต้องคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก และจากข้อมูลที่คุณบอกมา ดูเหมือนคู่แข่งของผมจะแข็งแกร่งไม่น้อยเลย อีกอย่าง ผมเองก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันน่าเบื่อ… ประกอบกับข้อจำกัดอีกมากมาย ไม่แปลกไม่ใช่เหรอที่ผมจะยอมแพ้ และถอดใจไม่รับข้อเสนอของคุณ”
ฉีเล่ยดูเหมือนจะช่ำชองในการปลอกเปลือกแอปเปิ้ลมาก ขณะที่พูดนั้น ใบมีดสว่างวูบวาบในมือของเขาก็ขยับไปมาอย่างนุ่มนวล นิ้วมือเรียวยาวทรงพลังหมุนไปเบาๆ เปลือกแอปเปิ้ลยาวเชื่อต่อกันที่กองอยู่ในมือดูราวกับกลีบดอกไม้
“แล้วคุณไม่นึกถึงอาชีพการงานของตัวเองบ้างเลยเหรอ? คุณก็รู้ว่าถ้าฉันยื่นมือเข้าไปช่วย คุณจะสามารถทำในสิ่งที่ตนเองต้องการได้สำเร็จง่ายขึ้น” ชูซินซูยังคงโน้มน้าวต่อ
“ถ้ามีใครอยากจะร่วมงานกับผม ผมย่อมต้องยินดีต้อนรับอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาความรักมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ผมกลับรู้สึกว่ากำลังถูกดูหมิ่นถึงสองเรื่อง ทั้งเรื่องความรักและอาชีพแพทย์แผนจีนของตนเอง ผมไม่รีบร้อน ผมยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ถ้าผมสามารถทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จด้วยความพยายามของตัวเอง ชีวิตของผมก็จะเต็มไปด้วยความหมาย” ฉีเล่ยเอ่ยตอบยิ้มๆ
ชูซินซูพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของฉีเล่ย เธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของเขา และยิ่งไม่ต้องการที่จะเข้าไปยื้อแย่งในธุรกิจที่เขากำลังดำเนินการอยู่
แต่ผู้หญิงก็แบบนี้ล่ะ บางทีก็เห็นแก่ตัว ลำพังฉีเล่ยจะสามารถผลักดันการแพทย์แผนจีนให้โด่งดังไปทั่วโลกนั้น.. คงจะต้องใช้เวลานานทีเดียว
“นี่หมายความว่า ฉันในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่จะสามารถดึงดูดคุณได้แม้แต่น้อยเลยเหรอ?”
ชูซินซูเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่มีท่าทีหลบเลี่ยง ไม่มีท่าทีเขินอาย มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เธอเป็นหญิงสาวที่ภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก คิดอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ไม่จำเป็นต้องปิดบังหรือปฏิเสธ
ฉีเล่ยจ้องมองชูซินซูด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ปากก็พูดออกไปว่า “บอกตามตรงนะครับ ผมยอมรับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยมากเท่าที่ผมเคยพบเห็นมา”
“ในเมื่อพูดแบบนี้ สิ่งที่คุณเลือกก็ยิ่งทำให้ฉันแปลกใจ” ชูซินซูพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“รอบตัวผมมีสาวๆรายล้อมอยู่ตั้งเยอะตั้งแยะ ถึงแม้จะไม่สวยเท่าคุณ แต่พวกเธอก็ดูมีชีวิตชีวาดีนะ แต่ละคนก็มีบุคลิกอารมณ์แตกต่างกันไป ทำให้เลือดลมสูบฉีดได้ดีเหมือนกัน”
“ที่สำคัญ ผมสามารถเข้ากับพวกเธอได้ดี ไม่เหมือนกับคุณ นี่ล่ะเป็นจุดอ่อนของคุณรู้มั๊ย.. คุณสูงส่งเกินไป เข้าถึงได้ยาก!”
“คุณเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเกินไป ร่ำรวยมหาศาล แถมยังฉลาดเป็นกรด.. บอกตามตรงนะ ผมค่อนข้างกลัวคุณเหมือนกัน ทุกครั้งที่ผมอยู่กับคุณ ผมรู้สึกเหมือนถูกจับตามอง แล้วก็ไม่สามารถปิดบังอะไรคุณได้เลย”
ระหว่างที่พูดนั้น ฉีเล่ยก็ได้ส่งแอปเปิ้ลที่ปลอกแล้วให้กับชูซินซู จากนั้นจึงเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดคมมีด พร้อมกับพูดต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ต่อให้ผมไม่ปฏิเสธข้อเสนอและเจตนาดีของปู่คุณ แล้วได้แต่งงานกับคุณภายใต้การจัดเตรียมของอาวุโส ผมเองก็คงจะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน คุณลองคิดดูว่า เวลาที่ผมโอบกอดคุณอยู่ ผมจะรู้สึกเหมือนกับกำลังโอบกอดมนุษย์คอมพิวเตอร์ไอคิวสูงอยู่ คุณพอจะเข้าใจความรู้สึกของผมบ้างไหม?”
“นี่เป็นเหตุผลที่คุณปฏิเสธปู่ของฉันน่ะเหรอ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าฉันมีรูปร่างหน้าตายังไง?” ชูซินซูเอ่ยถามกลับไปยิ้มๆ
“นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง!”
ฉีเล่ยตอบกลับไปทันที “อีกอย่าง ผมเองก็เพิ่งมาถึงปักกิ่ง ไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูหรือมีปัญหาขัดแย้งกับตระกูลใหญ่ๆในปักกิ่ง”
ฉีเล่ยยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “อีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่ชอบคุณก็คือ คุณฉลาดเกินไป!”
“ฉันเองก็ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นเหมือนกัน” ชูซินซูถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วจึงพูดต่อว่า
“เฮ้อ.. แต่ฉันไม่มีทางเลือก”
ในสมัยที่ชูซินซูยังเด็กนั้น เธอต้องทนกับความเย่อหยิ่งและคำพูดหยาบคายของลุงเธอมามากพอแล้ว ครั้งนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจว่า เมื่อโตมาเธอจะต้องเป็นหญิงสาวที่ฉลาดและแข็งแกร่งมากพอ เพื่อที่ว่าใครก็จะไม่สามารถรังแกเธอได้อีก
พ่อของเธอก็หลงใหลอยู่กับศิลปะ ในขณะที่พี่ชายก็เออออกับคนได้ทั้งโลก เธอจึงไม่สามารถหวังพึ่งใครให้มาปกป้องเธอได้เลย ดังนั้น เธอจึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางให้ตนเองฉลาดและแข็งแกร่งขึ้น
เมื่อใดที่คุณอยู่ในที่สูงและยิ่งใหญ่ โลกทั้งโลกจะหันมองมาทางคุณ!
แต่ถ้าคุณทำผิดพลาดไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โลกทั้งโลกก็พร้อมที่จะโจมตีเข้าใส่คุณเช่นกัน คุณจะถูกบดขยี้จากทั้งคนที่อยู่ในที่แจ้งและที่มืดจนหายใจไม่ออกทีเดียว
เธอเองก็อยากจะหยุดทุกอย่างไว้เพียงเท่านั้น อยากจะวางทุกสิ่งทุกอย่างที่แบกไว้ลง เพื่อจะได้พักผ่อน
แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้!
ในตระกูลใหญ่เช่นนี้ การเดินไปข้างหน้าเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น และจะต้องเดินตลอดทั้งวันทั้งคืนไม่มีหยุดพัก!
นั่นเพราะตราบใดที่เธอยังคงเดินไปข้างหน้า เธอก็จะไม่ถูกฉุดกระชากจากที่สูงให้ร่วงลงสู่ผืนดิน และถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
“เอาล่ะ เป็นอันว่าผมไม่ดีลด้วย! โชคดี!”
ฉีเล่ยเอ่ยตอบยิ้มๆ
จังหวะที่เขาเปิดประตูห้องออกไปนั้น ภาพตรงหน้ากลับเป็นเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วทุกอย่าง เฉิงเจียซินยืนนิ่งอยู่หน้าประตูพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เรียกได้ว่า ขอเพียงเจ้านายเอ่ยปากเรียกเท่านั้น เธอก็พร้อมที่จะวิ่งเข้าไปหาในทันที
เฉิงเจียซินเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ความรู้สึกของตนเองเล็กน้อย จากนั้น จึงได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที
“ท่านประธานคะ เขาตกลงไหมคะ?”
ในฐานะที่เป็นเลขาของประธานสาวที่เฉลียวฉลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจ เธอก็จะสอบถามเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลให้เพียงพอ สำหรับไว้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครั้งต่อไป
“เขาปฏิเสธ!”
ชูซินซูเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องมองแอปเปิ้ลในมือ ราวกับว่ากำลังชื่นชมงานศิลปะชั้นเลิศ
“ปฏิเสธเหรอคะ? ทำไม?” เฉิงเจียซินร้องอุทานออกมาด้วยควากตกใจ และได้แต่คิดในใจว่า ผู้ชายคนนี้หัวสมองมีปัญหาอะไรรึเปล่า?
ด้วยรูปลักษณ์ของประธานสาวของเธอ เพียงแค่ดีดนิ้ว ผู้ชายทั้งโลกก็พร้อมที่จะยอมสิโรราบ ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่ยากจะหาผู้หญิงที่ไหนเทียบได้แล้ว ประธานสาวเจ้านายของเธอยังมีข้อได้เปรียบในด้านอื่นๆที่ใครก็ยากที่จะปฏิเสธได้อีก
เธอเองเคยครุ่นคิดอยู่บ่อยๆว่า ผู้ชายแบบไหนกันที่จะคู่ควรกับเจ้านายของเธอ?
และหลังจากใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดก็เห็นจะมีเพียงแค่ฉินฟางที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากที่สุด
แต่ประธานสาวของเธอไม่เพียงจะปฏิเสธชายหนุ่มคนนี้ มิหนำซ้ำยังพยายามที่จะหาผู้ชายสักคนมารับบทบาทเป็นสามีของเธออีก!
“ทำไมเขาถึงได้ปฏิเสธน่ะเหรอ?”
ชูซินซูทวนคำถามของเลขาสาวก่อนจะตอบกลับไปว่า “ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่ เขาเคยปฏิเสธฉันมาครั้งหนึ่งแล้ว การที่เขาจะปฏิเสธอีกครั้งก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรไม่ใช่เหรอ?”
“ท่านประธานไม่ได้บอกเขาเหรอคะว่า ข้อเสนอของเราน่าสนใจมากแค่ไหน?” เฉิงเจียซินร้องถามกลับไปทันที
“ก็เขาไม่ได้ขาดอะไรนี่ เงินเหรอ? เขาสามารถหาเองได้ง่ายๆ ผู้หญิงเหรอ? ภรรยาของเขาก็สวยไม่ใช่น้อย แล้วดูสาวๆรอบตัวเขาตอนนี้สิ หลี่ถงซีเอย เหอจื่อเอย หลินชูวโม่อีก ยังมีนางแบบคนนั้นด้วย…”