ยอดคุณหมอสกุลเฉิน - ตอนที่218 พนักงานดีเด่น
ตอนที่218 พนักงานดีเด่น
“ฉันก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน! โอ๊ย!”
หลินชูวโม่ยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศรีษะสะบัดไปมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึมมากยิ่งขึ้น
“นี่สองคนคุยอะไรกัน? ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจเลย?” ถงเซียวเซียวร้องถามด้วยสีหน้างุนงง
“ก็น้องชายสุดหล่อที่เธอชื่นชอบ แล้วก็มีภรรยาแล้วคนนี้น่ะสิ มีผู้หญิงมาชอบ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คือยัยคุณหนูมหาเศรษฐีที่ทั้งสวย รวย เก่ง คนที่นั่งโรลรอยซ์มาพร้อมบอดีการ์ดน่ะสิ ฐานะแบบเธอ เราสองคนทำมาหากินกันทั้งชีวิต ยังไม่มีทางขึ้นไปอยู่ในจุดที่เธออยู่ได้เลย..” หลินชูวโม่สรุปเรื่องราวให้อีกฝ่ายฟังได้ง่ายๆ
ถงเซียวเซียวถึงกับใจสั่นแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา “ก็ดีนี่! ต่อไปเวลาที่พวกเราไปกินอะไร ก็จะได้ให้ฉีเล่ยเป็นคนจ่ายให้หมด”
“ผมปฏิเสธไปแล้ว!” ฉีเล่ยอธิบายทันที
“เชอะ! ปฏิเสธแล้วยังไง?”
หลินชูวโม่เบะปากพร้อมกับพูดต่อทันที “ฉันจะบอกอะไรให้ ดูจากไอคิวของผู้หญิงคนนั้นแล้ว ฉันรับรองได้ว่านายไม่มีทางหนีเงื้อมมือเธอพ้นแน่!”
“…”
ผู้หญิงคนนี้ปากเน่าจริงๆ!
ฉีเล่ยคร้านที่จะอยู่ฟังต่อจึงได้พูดออกไปว่า “ยังมีเรื่องอะไรอีกมั๊ยครับ? ถ้าไม่มีแล้วผมจะได้ขอตัวกลับก่อน!”
“อะไรกัน? จะรีบกลับไปหาหลี่ถงซีหรือไง?”
“…”
“ต่อให้นายไม่อยากไปก็ต้องไป! เดี๋ยวบ่ายนี้นายต้องไปกองถ่ายพร้อมเซียวเซียวกับฉัน เซียวเซียวมีถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์ของเรา นายในฐานะเจ้าของสินค้าต้องไปเพื่อให้คำแนะนำด้วย!” หลินชูวโม่ตอบกลับทันที
ฉีเล่ยครุ่นคิดดูแล้วเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จึงได้ตัดสินใจที่จะไปกับสองสาวเพื่อจัดการเรื่องเกี่ยวกับการตลาดให้จบๆไป
“นี่ลุกขึ้นก่อนจะได้มั๊ย?”
ฉีเล่ยเงยหน้าขึ้นมองหลินชูวโม่พร้อมกับร้องเตือน
“ทำไมล่ะ?! ฉันน้ำหนักมากจนนายเมื่อยหรือยังไง?”
หลินชูวโม่ที่ทำเนียนไปนั่งอยู่บนตักของฉีเล่ย ถึงกับหัวเราะออกมาคิกคัก
“เปล่า.. แต่มันหลุดจากเต้าแล้ว!”
ฉีเล่ยเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปที่เนินเนื้อก้อนโตที่โผล่ออกมา
สีหน้าของหลินชูวโม่เปลี่ยนเป็นตกอกตกใจในครั้งแรก แต่หลังจากนั้น เธอก็แอ่นเนินอกอ่อนนุ่มนั้นเข้าใส่ฉีเล่ย พร้อมกับร้องบอกชายหนุ่มโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อย
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ต่อไปฉันก็ต้องเป็นเมียน้อยนายอยู่แล้ว คิดซะว่าเป็นการลงทุนเบื้องต้นก็แล้วกัน”
……….
ทันทีที่ชูซินซูกลับไปถึงห้องทำงานของตนเอง เฉิงเจียซินก็เข้ามารายงานว่า
“ท่านประธานคะ คุณฉินฟางมาขอพบค่ะ!”
เฉิงเจียซินรายงานให้ประธานสาวทราบด้วยสีกระวนกระวายใจ เธอรู้ดีว่าฉินฟางมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร?
“อืมม ให้เขาเข้ามาได้” ชูซินซูเอ่ยตอบเสียงเบา สีหน้าของเธอยังคงไร้อารมณ์ความรู้สึก
“ท่านประธานคะ ทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะคะ?” เฉิงเจียซินร้องถามด้วยความเป็นห่วง
“ปฏิเสธ? ทำไมต้องปฏิเสธด้วยล่ะ?”
ขณะที่เอ่ยถามชูซินซูก็เล่นมีดปอกผลไม้ในมือไปด้วย ในเมื่อเขาอยากจะให้ฉันไปร่วมงานครบแปดสิบปีของผู้เฒ่าฉิน ฉันก็จะไป”
“ท่านประธานคะ จะยอมตกลงไปจริงๆน่ะเหรอคะ?”
เฉิงเจียซินร้องถามด้วยความตกใจ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่ช้าสกุลชูคงต้องถูกสกุลฉินครอบงำอย่างแน่นอน
“ฉันก็แค่จะไปร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นนอกเหนือจากนี้ ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย”
หลังจากตอบเลขาสาวไปแล้ว ชูซินซูก็ได้ร้องสั่งว่า “เอาล่ะ ไปเชิญเขาเข้ามาได้แล้ว”
“ค่ะ ท่านประธาน!”
เฉิงเจียซินหันหลังเดินกลับออกไปจากห้องด้วยสีหน้างุนงงสับสน และได้แต่แอบคิดในใจว่า ความคิดของเจ้านายเธอนั้น ยากที่คนธรรมดาทั่วไปจะคาดเดาได้
ฉินฟางเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องเพียงลำพัง เขาสวมเสื้อสูทเรียบๆ แต่กลับดูไม่ธรรมดา เพียงแค่มองจากไกลๆ ก็ดูออกแล้วว่าจะต้องเป็นคุณชายจากตระกูลร่ำรวย และคงไม่มีใครคาดคิดว่าชายหนุ่มที่ดูสุภาพอ่อนโยนคนนี้ก็คือฉินฟาง ชายหนุ่มผู้โด่งดังมีชื่อเสียง
“นี่ซินซู จะทำงานอาทิตย์ละเจ็ดวันเลยเหรอครับ คุณน่ะทำงานหนักเกินไปแล้วนะ”
ฉินฟางถอดแว่นตาออกเผยให้เห็นแววตาอ่อนโยนลุ่มลึก ที่กำลังจ้องมองชูซินซูด้วยความรักใคร่
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องทำ ฉันคงอยู่นิ่งๆสบายๆไม่ได้!”
ชูซินซูไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืนต้อนรับ เพียงแค่ยกมือขึ้นชี้ไปที่โซฟาตรงข้ามส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายนั่งลง แต่ชายหนุ่มกลับไม่ไปนั่งที่โซฟา เขาดึงเก้าอี้ข้างๆไปตั้งหน้าโต๊ะทำงานของอีกฝ่ายแล้วนั่งลงแทน
จากท่าทีการแสดงออกของชายหนุ่ม เพียงแค่นี้ก็เห็นชัดแล้วว่า เขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะยอมทำตามคำสั่งใคร หรือยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของใครง่ายๆ
มือทั้งสองข้างของฉินฟางยกขึ้นวางบนโต๊ะทำงานสะอาดสะอ้านของชูซินซู มือทั้งสองประสานกันไว้ ในขณะที่สายตาทั้งคู่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของหญิงสาวด้วยความจริงใจ ทำให้ผู้ที่ถูกมองสามารถรับรู้ได้ถึงคุณค่าในความรู้สึกของอีกฝ่าย
“มีลูกน้องตั้งมากมาย คงต้องมีคนเก่งๆที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของคุณได้บ้างล่ะ” ฉินฟางร้องบอกอีกฝ่าย
ชูซินซูจ้องมองฉินฟางด้วยสายตาเย็นชา “คุณชายฉิน อย่าพูดอะไรโง่ๆดีกว่านะคะ!”
ฉินฟางดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน และไม่รู้สึกโกรธกับคำพูดตรงไปตรงมาของชูซินซู รอยยิ้มอบอุ่นยังคงฉาบอยู่บนใบหน้าของเขาเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ซินซู คุณอย่าได้เข้าใจผมผิดไป ผมเพียงแค่รู้สึกไม่ดีที่เห็นคุณต้องทำงานหนักแบบนี้ ผมไม่อยากให้คุณต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ถ้าเลือกได้ ผมอยากให้คุณเป็นแจกันที่น่าทะนุถนอมมากกว่า”
“ขอบคุณ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ แล้วก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครด้วย และฉันก็จะเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง!”
จากนั้น ชูซินซูก็เอ่ยถามฉินฟางต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไม่ทราบว่าคุณชายฉินมาให้ฉันวันนี้มีธุระอะไรเหรอคะ?”
ฉินฟางรู้ว่าหญิงสาวต้องการที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด เขาจึงไม่ได้รนรานอะไร เพียงแค่หัวเราะน้อยๆ และตอบกลับไปว่า
“เสี่ยวหังยังไม่ได้บอกคุณเหรอครับ? อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันครบรอบแปดสิบปีของคุณปู่ผมแล้ว ผมก็เลยอยากจะมาเชิญคุณไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้ด้วย คุณเองก็น่าจะรู้ว่า ในบรรดาทายาทรุ่นหลานของสกุลต่างๆ คุณปู่ชื่นชอบคุณที่สุด ถ้าคุณไปร่วมงานครั้งนี้ได้ ปู่คงจะมีความสุขมากทีเดียว”
“ยังไงฉันก็ต้องไปอวยพรให้คุณปู่ฉินอยู่แล้ว”
ชูซินซูเอ่ยตอบในขณะที่มือยังคงเล่นมีดปอกผลไม้ไปด้วย ใบหน้ายังคงแข็งประหนึ่งรูปปั้นหิน แววตาทั้งสองไม่เพียงไร้ร่องรอยของความอ่อนโยน แต่ยังมีรังสีสังหารปรากฏออกมาด้วย
“นี่หมายความว่าคุณตอบตกลงแล้วใช่ไหมครับ?”
ฉินเฟิงร้องออกมาด้วยสีหน้าท่าทางประหลาดใจระคนยินดี แต่ภายในใจลึกๆกลับรู้สึกระแวงสงสัย
จากสามัญสำนึกและการคาดเดาของเขา มันดูเป็นการตอบรับที่ง่ายจนเกินไป!
หลังจากที่ถูกหญิงสาวปฏิเสธมานานหลายปี จู่ๆเธอจะมาตกหลุมรักเขาง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าดื้อรั้นหัวแข็ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน
ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น!
“คุณปู่ฉินเอ็นดูหลานๆอย่างเรา คงจะไร้มารยาทมาก ถ้าฉันไม่ไปอวยพรครบรอบแปดสิบปีของท่าน!” ชูซินซูอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง
“คุณปู่ต้องดีใจมากๆแน่ถ้าได้พบคุณที่งาน แล้วผมจะขับรถมารับคุณเอง!” ฉินเฟิงเอ่ยตอบยิ้มๆ
“ไม่จำเป็น วันนั้นคุณเองก็คงจะต้องยุ่งมาก ฉันคงไม่รบกวน ฉันจะไปพร้อมกับเพื่อนของฉัน” ชูซินซูปฏิเสธทันที
“เพื่อนเหรอ? ผมพอจะรู้จักเพื่อนคนนี้ของคุณไหมครับ? ผมควรจะต้องส่งบัตรเชิญไปให้เพื่อนคนนี้ของคุณไหมครับ?”
นิ้วมือของฉินฟางยังคงเคาะเป็นจังหวะอยู่บนโต๊ะของหญิงสาว แต่ดูเหมือนจังหวะจะเร็วขึ้นกว่าเดิม
“ไม่จำเป็นค่ะ! เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจที่ฉันจะพาคนนอกไปร่วมงานด้วย!”
“ซินซู ไม่ต้องเกรงใจผมเลย พวกเราสองคนเป็นเพื่อนกันมากว่าสามปีแล้วนะ อย่าลืมสิ!”
ฉินฟางเอ่ยตอบยิ้มๆก่อนจะพูดต่อว่า “เอาล่ะ ผมไม่รบกวนคุณต่อแล้ว เชิญทำงานของคุณต่อ อ่อ.. แล้วก็อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนล่ะ ผมไปล่ะ!”