ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 297 บุกโจมตีสถานที่ประชุม
ตอนที่ 297 บุกโจมตีสถานที่ประชุม
บางทีการคาดเดาของเย่เชียนนั้นอาจจะไม่ผิดเพราะอย่างที่หม่าป่าผีไป๋ฮวยเคยพูดเอาไว้ว่าคนที่รู้จักตัวตนเขาดีที่สุดในโลกก็คือเย่เชียนนั่นเอง เพราะเย่เชียนที่เคยเป็นทั้งสหายและเคยเป็นทั้งพี่น้องและบัดนี้ก็กลายมาเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็ตั้งตารอมาจนถึงทุกวันนี้!
ในขณะที่การจัดประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลกกำลังดำเนินการอยู่นั้น จู่ๆ หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้บุกโจมตีสถานที่ประชุมพร้อมกับกองทัพไร้จิตวิญญาณของเขา ซึ่งคนเหล่านี้นั้นไม่มีความรู้สึกและไม่มีความนึกคิดและไร้จิตสำนึกและไม่มีแม้กระทั่งความเจ็บปวดซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างก็เน้นไปที่ประสิทธิภาพการต่อสู้อันทรงพลังของพวกเขาเพียงเท่านั้น
องค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดที่มาประชุมร่วมในครั้งนี้นั้นต่างก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การประชุมครั้งนี้อยู่เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงจัดกำลังคนจำนวนมากอยู่คุ้มกันภายนอกเพื่อป้องกันการบุกรุกหรือรุกรานใดๆ อย่างไรก็ตามภายใต้การนำของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเหล่าทหารรับจ้างทั้งหมดต่างก็เป็นเหมือนกับไม้ไผ่ที่แตกหักและพ่ายแพ้ไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นไม่นานกองทัพของหมาป่าผีไป๋ฮวยก็มาถึงที่ห้องประชุมแล้ว
“นั่นใคร?” ชูร่าก็สัมผัสได้ถึงศัตรูอย่างกะทันหันและตะโกนอย่างเคร่งขรึม อย่างไรก็ตามทันทีที่ชูร่าพูดจบเขาก็ยิงสวนออกไปเพราะที่แห่งนี้ห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาที่นี่โดยพลการและไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นศัตรูหรือเป็นมิตรก็ตาม ซึ่งชูร่าเองก็จะไม่ลังเลและไม่เพิกเฉยใดๆ
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ชูร่าต้องประหลาดใจและตกตะลึงอย่างมากก็คือเขาได้ยิงออกไปทะลุขั้วหัวใจของอีกฝ่ายย่างชัดเจนด้วยปืนของเขา แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งชูร่าเองก็ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ อีกต่อไปแล้วเขาจึงดึงมีดออกมาและแทงเข้าไปที่ลำคอของฝ่ายตรงข้ามและในที่สุดอีกฝ่ายก็แน่นิ่งไปและล้มลงอย่างช้าๆ ซึ่งฉากนี้ทำให้ชูร่าถึงกับประหลาดใจอย่างมากเพราะมันราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นไร้ซึ่งความเจ็บปวดไปอย่างสมบูรณ์
“หัวหน้า! ..มีศัตรูบุกเข้ามา!” ชูร่าตะโกนอย่างกระตือรือร้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นและเหล่าผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดต่างก็แตกตื่นกัน “จู้จือ! ..นี่คือแผนการทรยศของคุณงั้นเหรอ? ..คุณต้องการฆ่าพวกเราทั้งหมดพร้อมๆ กันอย่างงั้นใช่มั้ย?” อาซูกะนากาจิมะตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
จู้จือก็ยังคงพูดอย่างเฉยเมยว่า “นี่คุณแกล้งโง่อยู่หรือไงเนี่ย..ทำไมคุณถึงบอกว่าฉันเป็นคนบงการเรื่องพวกนี้กันล่ะ..คุณดูสถานการณ์ไม่ออกหรือยังไง..และอีกอย่างถ้าฉันจะฆ่าพวกคุณละก็ทำไมฉันถึงต้องเตือนพวกคุณล่วงหน้ากันด้วยล่ะ?”
อาซูกะนากาจิมะก็รู้ดีว่าสิ่งที่จู้จือพูดมานั้นมันก็คือความจริงแต่ทว่าตอนนี้เธอก็แค่กำลังประหม่าเล็กน้อยในสถานการณ์เช่นนี้ จากนั้นอาซูกะนากาจิมะก็หันไปพูดกับลูกน้องทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังของเธอว่า “เราไปกันเถอะ!” หลังจากที่เธอพูดแล้วเธอก็เดินลงไปที่ชั้นล่างพร้อมกับลูกน้องของเธอ
ซึ่งเหล่าผู้นำขององค์กรรับจ้างคนอื่นๆ ต่างก็เริ่มถอนตัวออกจากสถานที่การประชุมกันแล้วภายใต้การคุ้มกันของฝ่ายตนเอง ซึ่งไอซอลเดแฮมป์ตันเองก็ถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกันเพราะในตอนนี้ที่นี่มันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป และไม่ว่าใครหรือฝ่ายไหนจะบุกเข้ามาจากข้างนอกก็ตามถึงยังไงเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงเอาไว้ก่อนและยิ่งไปกว่านั้นไอซอลเดแฮมป์ตันเองก็ต้องการที่จะติดต่อไปหาเย่เชียนโดยเร็วที่สุดเพื่อถามเย่เชียนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เสียงปืนที่ด้านนอกนั้นก็ดังสนั่นไปทั่วพื้นที่และเหล่าผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างต่างก็ล่าถอยกันออกไปอย่างช้าๆ ภายใต้การคุ้มกันของฝ่ายของตนเอง “หัวหน้าครับ..เราเองก็ต้องถอนตัวด้วย..ศัตรูกำลังจะมาแล้ว” ชูร่าเดินขึ้นมาและพูดกับจู้จือ
จู้จือก็พยักหน้าเบาๆ และยืนขึ้นจากนั้นก็เดินออกไปอย่างช้าๆ “นายรู้มั้ยว่าพวกมันเป็นใคร” จู้จือถามขึ้นขณะที่เขาเดิน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..แต่ผมคิดว่าผู้บงการเบื้องหลังนั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมา..แต่ที่น่าแปลกก็คือคนพวกนั้นมันดูเหมือนว่าจะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ เลย” ชูร่าตอบ
จู้จือก็ขมวดคิ้วแน่นและพึมพำว่า “หมาป่าผีไป๋ฮวยเอ๋ย..แกนี่ฉลาดกว่าน้องชายของแกมากเลยนะ”
เมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยเดินมาถึงที่ห้องประชุมแล้วคิ้วของเขาก็ขมวดเล็กน้อยและการเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาและเขาก็พึมพำว่า “ตาแก่จู้จือ..สะบัดหางหนีไวจริงๆ”
ในขณะนี้ทางด้านของเย่เชียนเองเขาก็ได้ระดมพลเขี้ยวหมาป่าแล้ว “บอสค..บอสบอกว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะโจมตีการประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างในครั้งนี้อย่างงั้นหรือ?” เล้งยี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น
“ผมแค่คาดเดาเอา..ผมยังไม่ค่อยแน่ใจ” เย่เชียนพูด
“บอสไม่ต้องกังวลไป..เพราะถึงแม้ว่าเป้าหมายของหมาป่าผีไป๋ฮวยจะคือการประชุมร่วมของเหล่าองค์ทหารรับจ้างก็ตาม..ถึงยังไงทุกอย่างมันก็ต้องเรียบร้อย..เพราะกำลังคนที่จัดเฝ้าการประชุมน่ะไม่ได้มีจำนวนน้อยๆ เลย..ถึงแม้จะเป็นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เถอะ..ยังไงพวกเขาเหล่านั้นก็ฝ่ากองกำลังของพวกเรามาไม่ได้อยู่ดี” เล้งยี่พูด
เย่เชียนยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “พี่เล้งอี้..พี่ควรจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มเติมจากพี่ซิงเฉินนะ..พี่ซิงเฉินเขาจากพวกเราไปแล้ว..เพราะงั้นหลังจากนี้พี่เองก็ต้องรับผิดชอบที่นี่ต่อจากเขานับจากนี้เป็นต้นไป..พี่เองก็ยังไม่เข้าใจและยังไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของหมาป่าผีไป๋ฮวยเลย..ซึ่งมันไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่เขาไม่กล้าทำ..เพราะงั้นผมเลยคิดว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยคงจะไม่หวั่นเกรงผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย”
เล้งยี่ก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดจากนั้นก็พูดว่า “บอส..แล้วบอสจะจัดการกับหมาป่าเพชฌฆาตยังไง?”
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเย่เชียนก็พูดว่า “ผมก็รู้สึกลำบากใจอยู่เหมือนกัน..เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของเรา..ถึงยังไงเขาก็มีเลือดของหมาป่าเหมือนกับพวกเรา..อาจารย์ของผมบอกเอาไว้ว่าเราต้องหัดลืมและให้อภัยบ้าง”
เล้งยี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะแท้ที่จริงแล้วนั้นไม่ว่าจู้จือจะทำผิดพลาดอะไรไปมากเพียงใดถึงยังไงมันก็ไม่มีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเขี้ยวหมาป่าเลย และท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดก็ยอมตายเพื่อเขี้ยวหมาป่าของเรา
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันและไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงสถานที่จัดงานประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว และเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างของรถก็พบเหล่าซากศพที่กระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งเช่นนี้แล้วเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปจากนั้นก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าเราจะมาช้าไปเสียแล้ว” ทันทีที่รถหยุดก็มีการยิงสวนเข้ามาทันที เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนและเล้งยี่ก็ก้มหัวลงเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีโดยไม่ลังเลใดๆ จากนั้นพวกเขาก็ชักปืนไรเฟิลจู่โจมยิงตอบโต้ในทันที
นี่คืออาณาเขตและดินแดนของเขี้ยวหมาป่าที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลกลางของอียิปต์ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่านั้นจึงทำให้สมาชิกเขี้ยวหมาป่าจำนวนหนึ่งโหลหรือมากกว่านั้นที่เย่เชียนระดมพลมาด้วยพวกเขาต่างก็เข้าสู่สนามรบอย่างและประจำที่พร้อมการตอบโต้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเย่เชียนนั้นก็ไม่ได้เข้าร่วมการตอบโต้กับกองทัพไร้วิญญาณของหมาป่าผีไป๋ฮวยแต่อย่างใด เพราะเขารีบวิ่งไปที่อาคารที่จัดการประชุมโดยมีเล้งยี่คอยคุ้มกันและสนับสนุนไปตลอดทาง
ที่ชั้นบนของอาคารนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็มองเห็นเย่เชียนกำลังเดินขึ้นมาที่ชั้นบน ซึ่งเมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยเห็นเช่นเขาก็ฉีกยิ้มขึ้นมาทันทีและพึมพำว่า “หึ่ม..เย่เชียน! ..มันยังไม่ถึงเวลาที่เราสองคนจะเผชิญหน้ากัน..ฉันต้องจัดการตาแก่จู้จือก่อน” หลังจากที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดจบเขาก็เหลือบมองไปที่ลูกน้องคนที่อยู่ข้างๆ เขาแล้วพูดว่า “ไปสกัดและปิดกั้นคนพวกนั้นเดี๋ยวนี้..แต่จำเอาไว้ว่าพวกแกห้ามทำอะไรกับหัวหน้าของพวกมัน..เพราะมันคือเป้าหมายของฉันเอง!”
“รับทราบ!” ลูกน้องของหมาป่าผีไป๋ฮวยตอบและรีบเดินลงไปที่ชั้นล่างทันที
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและหันหน้าไปทางอื่น เขานั้นไม่ได้สั่งให้ลูกน้องมาคอยติดตามและสนับสนุนเขาใดๆ ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่จู้จือล่าถอยออกไป ส่วนทางด้านของจู้จือนั้นเขาก็มีเพียงแค่ชูร่าเท่านั้นที่ไปกับเขา ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวจู้จือเลยและเมื่อนึกถึงจู้จือแล้วดวงตาของหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ระเบิดออกมาด้วยร่องรอยของเจตนาฆ่าและจิตสังหารทันที
ทันทีที่หมาป่าผีไป๋ฮวยจากไปเย่เชียนและเล้งยี่ก็เดินขึ้นมาและเข้าไปดูที่ห้องประชุมแต่ก็ไม่พบผู้คนเลยซึ่งมีเพียงห้องประชุมที่ว่างเปล่า จึงทำให้คิ้วของเย่เชียนขมวดขึ้นอีกครั้งแต่ในใจของเขาก็แอบโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยๆ ก็ไม่มีศพใดๆ อยู่ที่นี่ซึ่งมันก็หมายความว่าเหล่าผู้นำขององค์กรรับจ้างได้ถอนตัวออกไปอย่างปลอดภัย
เล้งยี่ก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และมองไปที่ถ้วยกาแฟที่ยังร้อนและมีไอร้อนอยู่จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “บอส! ..ดูเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งจะไปได้ไม่นาน”
เย่เชียนก็หันกลับไปและพูดว่า “พี่เล้งยี่สแตนด์บายอยู่ที่นี่และคอยสั่งการพวกเราข้างล่างด้วย..เดี๋ยวผมจะตามพวกเขาไปเอง”
“บอส! ..ให้ฉันไปกับบอสเถอะ..พี่น้องของเราข้างล่างนั่นก็เก่งๆ กันทั้งนั้น” เล้งยี่พูด
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ และตบไหล่ของเล้งยี่อย่างแน่วแน่และพูดว่า “นี่เป็นเรื่องระหว่างไป๋ฮวยกับผม..ให้ผมแก้ไขมันด้วยตัวเองเถอะ”
เมื่อเห็นดวงตาที่มุ่งมั่นของเย่เชียนเช่นนี้แล้วเล้งยี่ก็พยักหน้า ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้เล็งยี่จากนั้นเขาก็รีบไล่ตามไป
ไอซอลเดแฮมป์ตันนั้นไม่ได้ถอนตัวออกไปตามลำพังเพราะเขานั้นไล่ตามหลังจู้จือไป เพราะหลังจากที่เขาถอนตัวออกมาจากการประชุมนั้นเขาก็มัวแต่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของเย่เชียนอย่างมากและเขาก็อยากให้จู้จือบอกเขาอย่างละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ซึ่งไอซอลเดแฮมป์ตันนั้นก็ไม่ได้มีมิตรแท้และสหายมากนักซึ่งเย่เชียนก็เป็นหนึ่งในนั้น
ครั้งหนึ่งไอซอลเดแฮมป์ตันได้รับมอบหมายภารกิจจากรัฐบาลแอฟริกาใต้ให้ไปให้ช่วยเหลือรัฐบาลแคนาดาในการกวาดล้างกองโจรในท้องถิ่น ซึ่งแต่เดิมนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง เพราะองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่นั้นมีกำลังคนมากมายมหาศาลและเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องจริงที่เขานั้นนั่งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่มาตลอดทั้งปีและเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่เฉยๆ และยิ่งไปกว่านั้นเหล่าผู้ว่าจ้างของเขาหรือภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายให้นั้นก็ล้วนแล้วเป็นแค่การล่ารายชื่อแค่รายหัวเพียงเท่านั้นและไม่ได้มีภารกิจเชิงสงครามหรือการปะทะกันใดๆ เลย
ดังนั้นไอซอลเดแฮมป์ตันจึงรับภารกิจโดยไม่คำนึงถึงความขัดแย้งภายในขององค์กรของเขาเองแต่อย่างใดและสั่งระดมพลไปยังประเทศแคนาดาอย่างฮึกเหิม แต่ทว่าไม่มีใครคาดคิดได้เลยว่าอาจจะเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมของประเทศนั้นแตกต่างกันอย่างมากหรือไม่เพราะจากแอฟริกาใต้อันร้อนระอุสู่แคนาดาอันหนาวเหน็บนั้นจึงทำให้ไอซอลเดแฮมป์ตันและเหล่าสมาชิกนีโอมิลิทารี่ของเขาต่างก็อาเจียนและท้องร่วงจนทำให้หมดแรงและประสิทธิภาพในการต่อสู้และออกรบก็ลดลงอย่างมากตามธรรมชาติ ซึ่งต่อมานั้นเขาก็ได้วางแผนกวาดล้างศัตรูแต่กลับถูกศัตรูล้อมรอบเอาไว้และถ้าหากว่าครั้งนั้นไม่ใช่เพราะเย่เชียนและเหล่าเขี้ยวหมาป่าที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่พื้นที่ใกล้ๆ ล่ะก็ไอซอลเดแฮมป์ตันและเหล่าสมาชิกนีโอมิลิทารี่คงจมอยู่ใต้น้ำแข็งและหิมะไปแล้วอย่างแน่นอน
ตั้งแต่นั้นมาไอซอลเดแฮมป์ตันจึงรู้สึกขอบคุณเย่เชียนมาโดยตลอดและต่อมาเขาก็ได้ช่วยเย่เชียนสร้างเหมืองเพชรถึงสองแห่งในแอฟริกาใต้ แต่ถึงยังไงแล้วเขาก็ยังคงรู้สึกว่าเขานั้นยังไม่สามารถตอบแทนหนี้ชีวิตและบุญคุณของเย่เชียนได้เลย จากนั้นทั้งสองค่อยๆ ก็เป็นพี่น้องและมิตรสหายที่ดีต่อกันและทำให้กองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ากับองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่กลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันที่สุด
จู้จือนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรมากนักเขาเพียงมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักงานใหญ่ของเขี้ยวหมาป่าอย่างช้าๆ เพราะที่แห่งนี้มันเป็นพื้นที่ทะเลทรายและเนื่องจากยานพาหนะทั้งหมดในอาคารที่จัดประชุมถูกหมาป่าผีไป๋ฮวยทำลายไปจนหมดจึงทำให้จู้จือและชูร่าต้องเดินเท้าไปยังสำนักงานใหญ่เขี้ยวหมาป่า
“หัวหน้า..ผมลองติดต่อไปหาคนอื่นๆ ในหน่วยหมาป่าเพชฌฆาตแล้ว..แต่ผมติดต่อใครไม่ได้เลย..หัวหน้า! ..มันมีอะไรผิดปกติที่สำนักงานใหญ่หรือเปล่า? ..หรือหมาป่าผีไป๋ฮวยจะยึดฐานของพวกเราไปหมดแล้ว?” ชูร่าพูดอย่างประหม่า
จู้จือก็หัวเราะและพูดว่า “เหอะๆ ..มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่หมาป่าผีไป๋ฮวยจะสู้กับสำนักงานใหญ่ของเรา..ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะราชาหมาป่าของพวกเราที่กลับมาแล้วน่ะ..ไอ้หนูนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
ชูร่าถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัวและพูดว่า “หัวหน้า! ..คุณกำลังจะบอกว่าพี่น้องหน่วยย่อยของเราถูกคุมตัวโดยราชาหมาป่างั้นหรือ..ดูเหมือนว่าเราจะกลับไปไม่ได้แล้วสินะ”
จู้จือยิ้มและพูดว่า “ทำไมเราจะกลับไปไม่ได้ล่ะ..เราต้องกลับไปได้อยู่แล้ว..เพราะถึงแม้ว่าเขาจะลงโทษพวกเราก็จริง..แล้วยังไงล่ะ..อย่างน้อยๆ เขาก็คงจะให้ฉันไปทำภารกิจอะไรสักอย่างนี่แหละ”
.
.
.
.
.
.
.