ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 298 พลังแห่งความเกลียดชัง
ตอนที่ 298 พลังแห่งความเกลียดชัง
ถึงแม้ว่าจู้จือจะฝ่าฝืนกฎและลับหลังเขี้ยวหมาป่าเช่นนี้แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้เขี้ยวหมาป่าต้องเผชิญกับปัญหาใดๆ และถึงแม้ว่าจู้จือจะถือวิสาสะไปเข้าร่วมการประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างระดับโลกโดยไม่ได้รับการยินยอมจากสมาชิกคนอื่นก็ตาม ถึงยังไงเย่เชียนก็ไม่สามารถกล่าวหาว่าจู้จือคิดก่อกบฏได้และยิ่งไปกว่านั้นในฐานะหัวหน้าของหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตแล้วจู้จือก็มีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลกเช่นนี้ และนอกจากนี้จู้จือเองก็ยังสามารถพูดได้อย่างโอ่อ่าว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ของเขี้ยวหมาป่าเอง
อย่างไรก็ตามความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นเพราะทุกๆ การกระทำของจู้จือนั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของเขี้ยวหมาป่าอย่างแท้จริง ซึ่งเรื่องนี้เย่เชียนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรใดๆ อยู่แล้ว
“หยุดก่อนคุณจู้!” ในขณะที่จู้จือกับชูร่ากำลังพูดคุยกันอยู่นั้นไอซอลเดแฮมป์ตันก็ตามหลังมาพร้อมกับลูกน้องของเขาและตะโกนมาจากระยะไกล
จู้จือก็หยุดเดินและกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างช้าๆ และก็ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “โอ้..ท่านนายพลไอซอลเดมีอะไรหรือ” จากนั้นเขาก็หันไปมองหน้าชูร่าและทั้งสองก็เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและระวังตัวกันอย่างมาก
“หืม..คุณก็รู้หนิว่าฉันจะถามอะไร..เย่เชียนอยู่ไหน!” ไอซอลเดแฮมป์ตันถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
“ท่านนายพลไอซอลเด..ดูเหมือนว่าคุณจะสนใจเรื่องของเรามากเลยนะ..ทำไมคุณถึงต้องมาแทรกแซงการจัดการภายในของเขี้ยวหมาป่าของเราด้วยล่ะ?” จู้จือยังคงพูดด้วยสีหน้าที่ดูเฉยเมยและดูเหมือนว่าเขาจะไม่แยแสเลย ซึ่งทำให้ไอซอลเดแฮมป์ตันและลูกน้องของเขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“ฉันไม่ได้สนใจและไม่ได้คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของเขี้ยวหมาป่าเลย..เย่เชียนน่ะเป็นเหมือนพี่น้องของฉัน..ฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเขา!” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดอย่างหนักแน่น “คุณจู้ช่วยตอบฉันด้วยความสัตย์จริงที..เย่เชียนตายไปแล้วหรือเขายังมีชีวิตอยู่กันแน่?”
จู้จือก็หัวเราะอย่างสบายใจเฉิบจากนั้นก็พูดว่า “ฮ่าฮ่า..ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของคุณ..ถ้าคุณอยากรู้ก็ไปถามเย่เชียนด้วยตัวเองสิ..โทษทีนะท่านนายพลไอซอลเด..ฉันไม่มีเวลาแล้ว..คุณไปเถอะ” หลังจากพูดจบจู้จือก็หันกลับไปและกำลังจะเดินออกไป
“หยุด!” ไอซอลเดแฮมป์ตันตะโกนและลูกน้องทั้งสองคนของเขาก็ชักปืนออกมาทันทีและเล็งไปที่จู้จือกับชูร่า ซึ่งชูร่าเองก็ชักปืนออกมาและเล็งไปที่ไอซอลเดแฮมป์ตันเช่นกัน การเผชิญหน้ากันด้วยระยะประชิดแบบนี้นั้นไม่มีฝ่ายใดที่กล้าเปิดฉากยิงก่อนอย่างแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นทั้งสองฝ่ายก็จะพบกับจุดจบเช่นเดียวกัน
จู้จือก็ค่อยๆ หันกลับมาและพูดว่า “โอ้..คุณจะฆ่าฉันงั้นเหรอ..ก็นะ..มันขึ้นอยู่กับว่าพวกคุณมีความสามารถพอหรือเปล่า” เมื่อเสียงพูดของจู้จือจบลงจู่ๆ ดวงตาของเขาก็ระเบิดออกมาด้วยเจตนาฆ่าและจิตสังหารที่พลั่งพลูอยู่และในทันใดนั้นจู้จือก็พุ่งออกไปและกระแทกร่างของไอซอลเดแฮมป์ตันอย่างแรงแต่ทว่าลูกน้องของไอซอลเดแฮมป์ตันก็สกัดกั้นเอาไว้แต่เขาก็ต้องถอยไปสองสามก้าวอย่างช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีใครกล้าที่จะยิงเพราะเมื่อยิงออกไปแล้วล่ะก็ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะเปลี่ยนไป และเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถยุติความบาดหมางนี้ได้เลยและตอนจบของเรื่องนี้นั้นก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย
ไอซอลเดแฮมป์ตันก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปชั่วขณะเพราะเขาไม่คาดคิดว่าจู้จือจะมีทักษะการต่อสู้ที่ดีและรวดเร็วเช่นนี้ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่จู้จือด้วยความแน่วแน่และความคาดหวัง “ฉันแค่อยากให้คุณบอกฉันสักคำก็ยังดีว่าเย่เชียนยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วกันแน่” ไอซอลเดแฮมป์ตันก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่กลัวตายและพูด
จู้จือก็พูดอย่างเย็นชาว่า “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ?”
ไอซอลเดแฮมป์ตันถึงกับผงะไปและจ้องมองไปที่จู้จือด้วยความงุนงงว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือจะหมายความว่าเย่เชียนตายไปแล้วอย่างงั้นหรือ?
จู่ๆ ทันใดนั้นร่างๆ หนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากระยะไกลพร้อมกับลูกดอกที่พุ่งออกเข้าไปเจาะที่ข้อมือของชูร่าอย่างแม่นยำ และร่างๆ นั้นก็หยุดอยู่ตรงหน้าของจู้จือซึ่งเขาคือหมาป่าผีไป๋ฮวยที่ไล่ตามมานั่นเอง
“หมาป่าผีไป๋ฮวย?” ไอซอลเดแฮมป์ตันก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและลูกน้องทั้งสองคนก็คอยคุ้มกันไอซอลเดแฮมป์ตันในทันทีและคอยจับตามองหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างใจจดใจจ่อ
การแสดงออกของจู้จือนั้นก็ยังคงไม่แยแสราวกับว่าเขาคาดเดาได้อยู่แล้วว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะไล่ตามเขามา ส่วนชูร่าเองก็ประคบข้อมือของเขาด้วยมืออีกข้างและยังคงจ้องมองหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างระมัดระวัง ซึ่งในฐานะสมาชิกหน่วยย่อยของหมาป่าเพชฌฆาตนั้นชูร่าก็รู้จักตัวตนหมาป่าผีไป๋ฮวยอยู่แล้ว แต่ชูร่านั้นก็ไม่เคยคุยกับไป๋ฮวยมาก่อนเลย ซึ่งเขาก็คิดมาเสมอว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยที่ถูกเรียกกันว่าหมาป่าอันดับหนึ่งแห่งเขี้ยวหมาป่านั้นคงเป็นแค่เรื่องไร้สาระแต่ทว่าในตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยทำแล้วหัวใจของชูร่าก็เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะและหนาวสั่นราวกับความตายจากเบื้องลึกของนรกอย่างไงอย่างงั้น
“ท่านนายพลไอซอลเดไม่ต้องกังวลไป..เย่เชียนน่ะยังไม่ตายหรอก..ฉันเพิ่งจะเห็นเขาเมื่อกี้นี้เอง..แต่ก็นะ..มันก็ขึ้นอยู่กับเวลา” หมาป่าผีไป๋ฮวยเหลือบมองไปที่ไอซอลเดแฮมป์ตันและพูด
ไอซอลเดแฮมป์ตันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะถึงแม้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะเป็นศัตรูของเขาก็ตามแต่ถึงยังไงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เพื่อหลอกเขาเลย นอกจากนี้ไอซอลเดแฮมป์ตันเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าคนอย่างเย่เชียนนั้นจะถูกจู้จือฆ่าตายได้อย่างไร
“แล้วตอนนี้เย่เชียนอยู่ที่ไหน?” ไอซอลเดแฮมป์ตันถามต่อ
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็..เดี๋ยวเขาคงจะมาที่นี่แล้วแหละ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดต่อ “ท่านนายพลไอซอลเด..ถ้าคุณจะรอเขาอยู่ที่นี่ก็อยู่ห่างๆ จู้จือซะ..เพราะฉันต้องสะสางเรื่องกับเขา!”
ไอซอลเดแฮมป์ตันถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและจ้องมองไปที่ดวงตาของหมาป่าผีไป๋ฮวยซึ่งมันเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าและจิตสังหารอย่างรุนแรง และถึงแม้ว่าเหล่าองค์กรทหารรับจ้างต่างๆ จะบรรลุข้อตกลงในการกำจัดหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วก็ตามแต่ ทว่าไอซอลเดแฮมป์ตันกลับรู้สึกได้ว่าจู้จือจะต้องกลายเป็นศัตรูของเย่เชียนในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นทำไมเขาถึงไม่ปล่อยให้หมาป่าผีไป๋ฮวยฆ่าจู้จือไปเลยเสียล่ะ? เพราะนี่ก็ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาให้กับเย่เชียนอีกด้วย สำหรับข้อตกลงดังกล่าวของเหล่าผู้นำองค์กรทหารรับจ้างนั้นในความเป็นจริงแล้วทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามันไม่มีความจริงใจมากนักในการร่วมมือและอาจจะมีใครบางคนที่ยอมร่วมมือกับหมาป่าผีไป๋ฮวยในอนาคตก็เป็นได้และแอบกำจัดหมาป่าผีไป๋ฮวยไปอย่างเงียบๆ และนำสมบัติประจำชาติเหล่านั้นไปเป็นของตัวเอง
ไอซอลเดแฮมป์ตันนั้นมีความชัดเจนอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องระหว่างองค์กรทหารรับจ้างต่างๆ นั้นเพราะถึงแม้ว่าครั้งนี้จะดูเหมือนรวมกันเป็นหนึ่งเดียวก็ตาม แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นพวกเขาทั้งหมดต่างก็คอยสู้กันอย่างลับๆ มาโดยตลอดและคิดที่จะบุกรุกและแย่งชิงดินแดนของกันและกันมาเสมอและนำผลประโยชน์และอำนาจที่ทรงพลังกว่าเดิมมาสู่ตัวเองและแม้แต่ประเทศของพวกเขาเองก็เช่นกัน ซึ่งไอซอลเดแฮมป์ตันนั้นเป็นเพียงผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเพียงคนเดียวที่มีมิตรภาพที่แท้จริงกับเขี้ยวหมาป่า และเขาก็แอบคิดอย่างลับๆ ว่าทำไมไม่ปล่อยให้หมาป่าผีไป๋ฮวยกำจัดจู้จื้อไปเสียก่อนแล้วค่อยหาวิธีกำจัดหมาป่าผีไป๋ฮวยหลังจากนี้ ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในสองโลกเลยไม่ใช่หรือ?
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ไอซอลเดแฮมป์ตันก็ก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ และกวักมือเรียกลูกน้องของเขาไปและพวกเขาทั้งหมดก็ถอยไปพร้อมกับไอซอลเดแฮมป์ตัน
จู้จือก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “โอ้..ที่แกทำตั้งหลายสิ่งหลายอย่างก็เพื่อที่จะมาฆ่าฉันเนี่ยนะ?”
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า “นี่มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น..เพราะหลังจากที่ฉันฆ่าแกไปแล้ว..มันก็จะถึงวาระของเหล่าหมาป่าทั้งหมด..และฉันก็จะทำลายเขี้ยวหมาป่าด้วยมือของฉันเอง”
“หืม..แกจะทำได้งั้นเหรอ..แกมีความสามารถพอรึเปล่า..โถ่ๆ ..พี่ชายแท้ๆ ของแกยังฉลาดกว่าแกอีก” จู้จือพูดอย่างเย้ยหยัน
ร่างกายของหมาป่าผีไป๋ฮวยถึงกับสั่นโดยควบคุมไม่ได้และเจตนาฆ่าที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาก็รุนแรงขึ้นอย่างมากและเขาก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ที่พี่ชายของฉันมีจุดจบแบบนั้นมันก็เป็นเพราะว่าเขาเชื่อในตัวของแก! ..และฉันเองก็ต้องฆ่าพี่ชายแท้ๆ ของฉันด้วยมือของฉันเอง! ..เป็นแกเองใช่มั้ยที่ส่งพี่ชายของฉันเข้าไปแทรกซึมเสือดาวหิมะน่ะ!”
“ใช่! ..เพราะในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกหน่วยย่อยของหมาป่าเพชฌฆาตแล้วล่ะก็..ทุกอย่างฉันเป็นคนมอบให้เขาเอง..และแม้แต่ชีวิตของเขาก็ด้วย!” จู้จือพูดต่อ “ฉันส่งพี่ชายแท้ๆ ของแกไปที่องค์กรทหารรับจ้างเสือดาวหิมะในฐานะสายลับเพื่อที่ฉันจะได้กวาดล้างเสือดาวหิมะด้วยตัวเองยังไงล่ะ! ..แต่ทว่าเย่เชียนดันระดมพลไปโจมตีเสือดาวหิมะก่อนฉัน..เพราะงั้นฉันจึงสั่งให้เขาไปฆ่าเย่เชียนซะ..แต่เขากลับฝ่าฝืนคำสั่งของฉันและปล่อยให้ตัวเองถูกแกฆ่าตายด้วยน้ำมือของแกเองโดยไม่ขัดขืนยังไงล่ะ!”
มุมปากของหมาป่าผีไป๋ฮวยกระตุกสองสามครั้งและเขาก็พูดอย่างเดือดดาลว่า “แก! ..แกเป็นคนฆ่าพี่ชายของฉัน..พวกเขี้ยวหมาป่าก็ฆ่าพี่ชายของฉัน..แก..แกตายซ่ะ!” ทันทีที่พูดจบหมาป่าผีไป๋ฮวยก็กระโจนเข้าใส่จู้จือในทันที
ชูร่าก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดที่ข้อมือของเขาเอาไว้และพุ่งเข้าไปหาหมาป่าผีไป๋ฮวยทันที อย่างไรก็ตามเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าผีไป๋ฮวยเลยแม้แต่ตอนที่เขายังแข็งแรงสมบูรณ์อยู่ซึ่งตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยในเมื่อเขาสามารถใช้การได้เพียงแค่แขนเดียว เจตนาฆ่าและจิตสังหารของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นก็กำลังปะทุขึ้นอย่างเดือดดาลและตอนนี้เขาก็ไร้ซึ่งความปรานีใดๆ และเขาก็ระเบิดความโกรธเกรี้ยวและความเกลียดชังที่สะสมมาจากการตายของไป๋ยู่ผู้เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขา และเมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยเห็นหมัดของชูร่านั้นเขาก็ไม่ได้คิดที่จะหลบแต่สวนกลับด้วยหมัดของเขาเอง
หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นที่เป็นลูกศิษย์ของหลินจินไท่มานานหลายปีและเขาก็ถูกหลินจินไท่เรียกว่าอัจฉริยะในการใช้พลังงานด้านมืดจากโทสะและความโกรธเกรี้ยว ซึ่งเมื่อหมัดของทั้งสองกำลังจะปะทะกันหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เพิ่มพลังด้านมืดของเขาขึ้นสูงสุดและหลังจากนั้นก็มีเสียงของกระดูกแตกหักและกระดูกแขนของชูร่าก็ทะลุออกมาจากไหล่ของเขาโดยตรงทันที
ความเกลียดชังและโทสะความโกรธเกรี้ยวนั้นสามารถเพิ่มพละกำลังให้มนุษย์ได้ ซึ่งชูร่าก็กรีดร้องออกมาและแขนของเขาก็แตกหักและมีเลือดพุ่งออกมาอย่างน่าสยดสยอง ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็ไม่ยอมไว้ชีวิตเขาใดๆ ทั้งสิ้นและในทันใดนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ปล่อยหมัดไปที่หัวของชูร่าอย่างรุนแรงโดยตรง ซึ่งทันใดนั้นเลือดสดๆ ก็กระเซ็นไปทั่วและร่างของชูร่าก็ค่อยๆ ล้มลงกับพื้น
เมื่อไอซอลเดแฮมป์ตันกับลูกน้องอีกสองคนเห็นฉากนี้แล้วพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นในใจพลางคิดว่าคนคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? มันผิดปกติมากเกินไปเพราะชูร่าที่เป็นที่รู้จักกันในฐานะนักฆ่าอันดับหนึ่งของหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตเช่นนี้แต่กลับไม่สามารถโต้กลับได้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวของหมาป่าผีไป๋ฮวยกลับสามารถทำให้กระดูกของมนุษย์ทะลุเนื้อหนังออกมาได้อย่างรุนแรงเช่นนี้
เหล่าเขี้ยวหมาป่าน่ากลัวเกินไป นี่คือความคิดที่แท้จริงที่สุดของไอซอลเดแฮมป์ตันในตอนนี้
จู้จือเองก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะและเขาก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าทักษะของหมาป่าผีไป๋ฮวยจะทรงพลังถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามจู้จือผู้ซึ่งผ่านความตายมาแล้วหลายครั้งก็ไม่เกรงกลัวหมาป่าผีไป๋ฮวยเลยแม้แต่น้อย และจู้จือที่เป็นถึงอดีตผู้บัญชาการของหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกของประเทศรัสเซียอันแข็งแกร่งนั้นเขาก็มีประสบการณ์มามากมายหลายปีในการสังหารผู้คน ซึ่งครั้งหนึ่งในสนามรบนั้นเขาเคยฆ่าหมีขั้วโลกตัวใหญ่เพียงลำพังด้วยมือเปล่ามาแล้วนับประสาอะไรกับมนุษย์ ซึ่งในสายตาของจู้จือนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เป็นเพียงแค่มนุษย์และไม่ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะทรงพลังหรือแข็งแกร่งสักแค่ไหนถึงยังไงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี
หลายปีที่ผ่านมาในฐานะผู้นำของหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตนั้นส่วนใหญ่แล้วเขาก็มีส่วนร่วมในการลอบสังหารหรือการลงทัณฑ์ต่างๆ ด้วยตัวเองนั้นมันก็ทำให้ความสามารถและทักษะในการต่อสู้ของจู้จือเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ
จู้จือก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดว่า “ท่านนายพลไอซอลเด..สิ่งที่คุณทำในวันนี้น่ะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงของพวกเราอย่างชัดเจนเลยนะ..และคุณไม่กลัวเลยเหรอว่าเหล่าองค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดจะจับมือกันเพื่อโค่นล้มคุณน่ะ”
.
.
.
.
.
.
.