ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 467 การแย่งชิงระหว่างองค์กร
ตอนที่ 467 การแย่งชิงระหว่างองค์กร
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะจัดการอาณาจักรธุรกิจของตัวเองซึ่งในความเป็นจริงบุคลากรภายในมีความชัดเจนว่าครอบครัวอเล็กซานเดอร์ต่างก็เป็นญาติของเขา ส่วนเซอร์เก้วิชพุชกินเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเขาและโปดันโนว่าก็คือนายหญิงของเขา ซึ่งเขาไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้แต่ในใจของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นเขาก็ยังคงโปรดปรานเซอร์เก้วิชพุชกินเป็นพิเศษเพราะเขารู้ดีว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจริงใจกับเขาแต่อีกสองฝ่ายนั้นมีความคิดอื่นๆ และความเห็นต่างไม่มากก็น้อย
ที่สำคัญกว่านั้นอาณาจักรธุรกิจของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเปรียบเสมือนประเทศหนึ่งและอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเป็นจักรพรรดิ ดังนั้นเขาต้องสร้างสมดุลให้กับอำนาจของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าอาณาจักรธุรกิจของเขาจะมีความมั่นคงและปลอดภัยต้องการก่อกบฏ อย่างมาก เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะรู้ว่ากลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสามของเขาจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกันก็ตามแต่เขาก็ยังคงไม่เต็มใจที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้
อาณาจักรธุรกิจของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่ใช่คนที่ใครๆ ก็สามารถหลอกได้และไม่ว่าจะเป็นความเฉียบคมทางธุรกิจหรือความกล้าได้กล้าเสียและความเฉลียวฉลาดนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟคือที่หนึ่งมาเสมอ
ครั้งนี้ที่เซอร์เก้วิชพุชกินทำผิดพลาดครั้งใหญ่ซึ่งทำให้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟทุกข์ใจและเสียหน้าอย่างมา ดังนั้นถ้าหากเขาไม่จัดการคงามร้าวฉานนี้ล่ะก็มันจะไปกระตุ้นความไม่พอใจของผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าจัดการด้วยความเหี้ยมโหดมากเกินไปล่ะก็ดุลอำนาจนี้ก็จะเสียไปโดยสิ้นเชิงและจะเป็นอันตรายต่อตนเองและอาณาจักรธุรกิจของตนเอง ดังนั้นหลังจากได้ยินว่าเซอร์เก้วิชพุชกินได้ผูกมิตรกับราชาหมาป่าเย่เชียนและพาราชาหมาป่าเย่เชียนมายังประเทศรัสเซีย ณ เมืองมอสโกเช่นนี้เพื่อเจรจาเกี่ยวกับความร่วมมือกับตน ดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจึงได้ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลเพื่อให้เซอร์เก้วิชพุชกินพิสูจน์สิ่งต่างๆ และปิดปากของคนอื่นไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตามอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟยังคงตระหนักดีถึงผลกำไรมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการร่วมมือกับเย่เชียนในครั้งนี้ ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวแต่อย่างใดเพราะพลังและอำนาจของเขี้ยวหมาป่ารวมไปถึงความสัมพันธไมตรีที่มากมายในทวีปตะวันออกกลางก็เป็นที่ประจักษ์สำหรับทุกคน ดังนั้นหากอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟสามารถบรรลุความร่วมมือกับเขี้ยวหมาป่าได้ล่ะก็มันจะผลักดันอาณาจักรธุรกิจของเขาไปอีกขั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ปิโตรเลียมและนำมันนั้นเป็นทรัพยากรที่สำคัญมากเพราะไม่ว่าจะเป็นทุนสำรองทางยุทธศาสตร์หรือเงินสำรองในการดำรงชีวิตของประชาชนต่างก็มีความสำคัญมากและเหตุผลที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟกลายเป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซียนั้นนอกจากทักษะและความกล้าได้กล้าเสียที่ยอดเยี่ยมของเขาแล้วก็ยังขึ้นอยู่กับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาลประเทศรัสเซียอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าตามเงื่อนไขนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะต้องมีส่วนร่วมในการกักตุนสำรองน้ำมันของประเทศรัสเซียด้วย ถ้าหากเขาสามารถจัดซื้อจัดหาน้ำมันของผู้ประกอบการปิโตรเลียมมันในทวีปตะวันออกกลางได้ล่ะก็สิ่งนี้ถือได้ว่าสิ่งสำคัญมากสำหรับรัฐบาลรัสเซียและประเทศชาติ
ดังนั้นเย่เชียนจะไม่เข้าใจโปดันโนว่าได้อย่างไร? เพราะเย่เชียนนั้นเพียงแค่จงใจแสร้งทำเป็นสับสนและจุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้โปดันโนว่าพูดเงื่อนไขของเธอออกมาก่อน อย่างไรก็ตามโปดันโนว่าเองก็ไม่ใช่คนโง่และเธอไม่ก็สามารถเปิดเผยเรื่องสำคัญเช่นนี้ได้และจะต้องใส่ใจกับความสมดุลของอำนาจและเธอก็เป็นถึงนายหญิงของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ ดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็จะไม่ยอมให้ใครทรยศเขาและถ้าหากเขารู้ล่ะก็เขาก็จะจัดการกับเธอโดยไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าจะบอกว่าอำนาจในปัจจุบันของโปดันโนว่านั้นไม่น้อยก็ตามแต่ทว่าเมื่อเทียบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วเธอก็ต่ำต้อยกว่ามากและยิ่งไปกว่านั้นโปดันโนว่าก็ติดตามเขามาหลายปีและเธอก็ยังคงชัดเจนเกี่ยวกับนิสัยและการปฏิบัติของเขาและเธอก็ต้องระมัดระวังอย่างมากถึงมากที่สุด
ที่สำคัญเรื่องแบบนี้ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืนเพราะถ้าหากต้องการจัดการกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟล่ะก็เราต้องกำจัดผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาไปทีละคนก่อนและนี่ก็เป็นเหมือนจักรพรรดิที่ไม่มีองครักษ์ที่ซื่อสัตย์และเป็นนายพลที่ดีและไม่ว่าเขาจะมีอำนาจมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ทว่าโปดันโนว่านั้นไม่ต้องการให้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟตายไปเพราะถ้าหากอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอตายเพราะเธอต้องการกลืนกินอาณาจักรธุรกิจทั้งหมดของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟซึ่งต้องค่อยๆ กัดกร่อนไปทีละน้อย
เป้าหมายแรกคือการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับตระกูลอเล็กซานเดอร์เพื่อกำจัดอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟและเซอร์เก้วิชพุชกินที่ภักดีที่สุดจากนั้นก็ล้มล้างตระกูลอเล็กซานเดอร์ให้หมดไป และเมื่อใดที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟไม่มีคนคอยสนับสนุนล่ะก็เขาจะลำบากอย่างมากแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นโปดันโนว่าก็จะค่อยๆ ขยายอิทธิพลของเธอและรอโอกาสที่เหมาะสมจากนั้นเธอก็สามารถแทนที่ทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะรู้ดีว่ามีประโยชน์มหาศาลในการร่วมมือกับโปดันโนว่าแต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องรอจนกว่าเขาจะได้พบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟและเย่เชียนก็ต้องรู้สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับประเทศรัสเซียก่อน ซึ่งคนแบบไหนที่สามารถครอบครองอุตสาหกรรมน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดได้ซึ่งคนแบบนี้จะต้องมีศักยภาพที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเหตุนี้เย่เชียนจึงมั่นใจได้ว่าผลประโยชน์ในการร่วมมือกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่น้อยเลย
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วโปดันโนว่าก็ไม่แปลกใจหรือกังวลหรือไม่สบายใจใดๆ เพราะหากเธอไม่สามารถบอกได้ว่าเย่เชียนกำลังแสร้งทำเป็นสับสนเธอก็คงเป็นได้แค่คนโง่เท่านั้น เมื่อเห็นเช่นนั้นโปดันโนว่าก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันมีแผนอยู่..คุณลองฟังแล้วคิดดูหน่อยว่ามันเป็นไปได้ไหม..ถ้าได้เราก็มาคุยกันต่อ..คุณคิดว่าไง? ”
“ไหนลองว่ามา!” เย่เชียน
“มิสเตอร์เย่ไม่ต้องเร่งรีบที่จะตัดสินใจก็ได้ว่าจะร่วมมือกับฉันหรือเซอร์เก้วิชพุชกิน..เพราะแน่นอนว่าคราวนี้ที่มิสเตอร์เย่มาที่ประเทศรัสเซียก็เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับหัวหน้าของเรา..เพราะงั้นหลังจากที่มิสเตอร์เย่ได้รู้เกี่ยวกับตัวฉันและเซอร์เก้วิชพุชกินแล้ว..คุณก็ลองตัดสินใจว่าคุณจะร่วมมือกับใคร” โปดันโนว่าพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มิสโปดันโนว่าไม่กลัวว่าผมจะไปบอกมิสเตอร์พุชกินเรื่องของวันนี้หรอ?”
“แล้วมิสเตอร์ต้องการบอกเขาไหม?” โปดันโนว่าไม่ตอบคำถามแต่กลับถามแทน
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และถอนหายใจเพราะการรับมือกับผู้หญิงคนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่เพียงแค่เธอมีแผนการต่างๆ มากเท่านั้นแต่ยังฉลาดมากอีกด้วย เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนนี้แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่สามารถเทียบเธอได้เลย อย่างไรก็ตามยังมีคนของตระกูลอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอีกด้วยและเย่เชียนก็สงสัยว่าพวกเขาเป็นอย่างไร? และยิ่งไปกว่านั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟที่เป็นถึงผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนแบบไหน
สิ่งที่เย่เชียนไม่คาดคิดก็คือเขาต้องการพูดคุยกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเกี่ยวกับความร่วมมือ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ซึ่งไม่ควรเป็นของเขาเลยเพราะในการต่อสู้ของทั้งสามกลุ่มนี้เย่เชียนต้องเลือกข้างโดยทัศนคติที่คลุมเครือและเขาก็ไม่สามารถเดิมพันอย่างหมดหวังได้โดยการตรึงความหวังไว้กับคนๆ หนึ่ง ไม่เช่นนั้นหากคนๆ นั้นพ่ายแพ้ไปล่ะก็เขาจะมาเยือนประเทศรัสเซียไปทำไม
“ปากของผมน่ะไวและผมก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผมจะพูดมันออกไปไหม” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามโปดันโนว่าก็ไม่กลัวราวกับว่าเธอไม่สนใจเลยโดยเธอพูดว่า “ฉันเชื่อว่ามิสเตอร์เย่เป็นคนฉลาดและคนฉลาดก็ควรรู้ว่าจะเลือกอะไร..มิสเตอร์เย่เห็นผู้ชายเมื่อครู่นี้ไหมเขาคือคูลอฟส์อังเดร..แล้วมิสเตอร์เย่รู้ไหมว่าเขาคือใคร?”
เย่เชียนก็ส่ายหัวเบาๆ และตอบว่า “ผมไม่รู้..แต่เขาสามารถควบคุมการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินได้นั้นเขาต้องไม่ใช่ธรรมดาๆ ใช่ไหม? ” ในความเป็นจริงหลินเฟิงได้บอกตัวตนของคูลอฟส์อังเดรกับเขาแล้วจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่เย่เชียนจะไม่รู้แต่เขาต้องการฟังสิ่งที่โปดันโนว่าต้องการจะพูด
“จริงๆ แล้วคูลอฟส์อังเดรเป็นทายาทของตระกูลคูลอฟส์ซึ่งเป็นองค์กรมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย..เพราะงั้นถ้าเขี้ยวหมาป่าของมิสเตอร์เย่ที่มีอำนาจในทวีปตะวันออกกลางสามารถร่วมมือกับมาเฟียได้ล่ะก็..ทุกสิ่งทุกอย่างรวมไปถึงการพัฒนาสิ่งต่างๆ คงจะยอดเยี่ยมมาก” โปดันโนว่าพูด
เย่เชียนเองก็มีความชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันเพราะในทวีปตะวันออกกลางมีสงครามบ่อยครั้งและมาเฟียของประเทศรัสเซียก็ถูกประเมินว่าเป็นองค์กรใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะแม้แต่หัวรบนิวเคลียร์ก็สามารถหาได้ ซึ่งกำไรจากการขายอาวุธนั้นก็มหาศาลมาก อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามบ่อยครั้งในทวีปตะวันออกกลางเพราะท้ายที่สุดมันก็เป็นเหมือนบ้านเกิดของเย่เชียนอีกแห่งหนึ่ง แต่ทว่าหากเขาสามารถร่วมมือกับเหล่ามาเฟียของประเทศรัสเซียได้ล่ะก็ผลประโยชน์ต่างๆ จะมหาศาลอย่างแน่นอน
“มิสโปดูโนว่าหมายความว่าถ้าผมร่วมมือกับคุณผมก็จะได้รับประโยชน์มากมายใช่ไหม” ดวงตาของเย่เชียนก็หรี่ลงและพูดว่า “เท่าที่ผมรู้มามิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟหัวหน้าของคุณน่ะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่ามาเฟียรัสเซีย..แต่ทั้งหมดพวกคุณก็เป็นเพียงแค่ผู้รับผิดชอบด้านธุรกิจระหว่างพวกเขาแค่นั้น..แล้วถ้าผมร่วมมือกับหัวหน้าของคุณแล้วผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะสามารถร่วมมือกับเหล่ามาเฟียได้?”
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะแสร้งทำเป็นสับสนมาตั้งแต่ต้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เชียนจะปล่อยให้โปดันโนว่าหลอกล่อเขาได้ เพราะเมื่อใดที่จำเป็นเย่เชียนก็ไม่รังเกียจที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาเพื่อทำให้ผู้หญิงอย่างโปดันโนว่ารู้ว่าราชาหมาป่าเย่เชียนไม่ใช่ตัวตนที่เธอสามารถรับมือได้อย่างสบายๆ ไม่เช่นนั้นถึงแม้ว่าในอนาคตจะได้รับความร่วมมือก็ตามแต่เย่เชียนก็กลัวว่าเธอจะหยิ่งผยองเกินไป
เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเย่เชียนดูแปลกไปโปดันโนว่าก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อยและพูดด้วยความรีบร้อนว่า “ฉันคิดว่ามิสเตอร์เย่คงจะเข้าใจผิดในสิ่งที่ฉันพูด..ถึงแม้ว่ามิสเตอร์เย่จะไม่ร่วมมือกับฉันก็เถอะ..ถึงยังไงฉันก็ยินดีช่วยให้มิสเตอร์เย่ได้พบกับหัวหน้าของฉัน..มิสเตอร์เย่ไม่ต้องกังวลไป..ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
.
.
.
.
.
.
.