ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 517 เธอคือใคร
ตอนที่ 517 เธอคือใคร?
โรงแรมนั้นใหม่มากและดูเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จและล็อบบี้ที่ชั้น 1 ก็ยังคงกองด้วยวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก เมื่อรถมาจอดที่ประตูเย่เชียนก็แน่นิ่งไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลี่จื้อเทียนได้จัดสถานที่แห่งนี้ให้กับเขาจนเขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
“นี่เหรอ? ..ทำไมคุณถึงพาพวกเรามาที่นี่” ชิงเฟิงตะโกน “ดูสิมันยังมีวัสดุก่อสร้างกองอยู่เลย..มันยังไม่เปิดให้บริการอีกเหรอ? ”
“ฉันขอโทษคุณเย่..คุณชิงเฟิง..ประธานบอกมาแบบนี้เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” เหอปิงพูด “อย่างไรก็ตามนี่เป็นโรงแรมในเครือของเราเอง..ซึ่งเดิมทีมันถูกใช้เป็นคาสิโนแต่เมื่อเอกสารของรัฐบาลกลางออกมาอย่างเป็นทางการเราจึงต้องเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นโรงแรม..แต่ล็อบบี้ที่ชั้น 1 ก็ยังคงต้องได้รับการปรับปรุงและถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการก็ตามแต่ก็มันก็สามารถพักได้..เราจึงลดค่าเช่าและค่าบริการให้กับนักท่องเที่ยวและอุปกรณ์กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็พร้อมให้บริการ…ส่วนพนักงานนั้นเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย”
“ไม่เป็นไร..ที่นี่เงียบดี” เย่เชียนพูด
เหอปิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “ถ้างั้นผมจะพาคุณขึ้นไป” เมื่อหลี่จื้อเทียนขอให้เหอปิงจัดที่พักให้เย่เชียนก่อนหน้านี้นั้นเหอปิงก็ถึงกับผงะและคิดไม่ออก อย่างไรก็ตามเนื่องจากหลีจื้อเทียนสั่งเขาเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ดังนั้นเขาจึงต้องทำตามที่มอบหมายเอาไว้และการที่เย่เชียนไม่ได้ตำหนิมันก็ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากส่งเย่เชียนเข้าไปในห้องแล้วเหอปิงก็อธิบายกับพนักงานแล้วก็จากไป แต่เมื่อเขาจากไปเขาให้กุญแจรถแก่เย่เชียนโดยบอกว่าเป็นรถสำหรับใช้ไปไหนมาไหนและหากต้องการอะไรก็โทรหาเขาได้ทุกเมื่อ ซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงพยักหน้าและหยิบกุญแจรถไป
“ประธานหลี่คนนี้ใจร้ายเกินไป..เขารวยแล้วทำไมเขาถึงได้ขี้เหนียวขนาดนี้ล่ะ..เขาให้เราพักอยู่ที่นี่เนี่ยนะ” หลังจากมองเหอปิงออกไปชิงเฟิงก็พูดอย่างหดหู่
“นี่มันดีมาก..นายรู้ไหมว่ามันเคยถูกใช้เป็นคาสิโนด้วย..ห้องด้านบนทุกห้องมีไว้สำหรับนักพนันระดับโลกที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา..ฉันไม่คิดว่ามันจะมีอะไรดีไปกว่าที่นี่แล้ว” เย่เชียนพูด
ชิงเฟิงก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อยและพูดว่า “นั่นก็จริงที่ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างดีแต่มันก็บางอย่างที่ขาดหายไปเพราะมันจะดีกว่านี้ถ้ามีผู้หญิงสองคนที่สามารถช่วยแก้เหงาได้ตอนนี้”
“ทำไมล่ะ..นายไม่กลัวนากาจิมะชินนะของนายบิดหูนายหรอ..ถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับเธอ?”
“บอสไม่พูดหรอก” ชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะถ้าบอสพูดล่ะก็เมื่อไหร่ที่บอสมีอะไรกับผู้หญิงผมจะตามไปรบกวนบอสทุกวันและบอสก็ต้องรำคาญผมจนรู้สึกอยากตายเลยล่ะ”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะเขารู้นิสัยของชิงเฟิงเป็นอย่างดี ซึ่งชิงเฟิงไม่ใช่คนโรแมนติกเพราะเขาเป็นคนประเภทที่ต้องการสนุกและทนทุกข์ไปกับสิ่งต่างๆ ในขณะที่ทั้งสองคุยกันจู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นและเมื่อมองดูก็พบว่าเป็นหลี่จื้อเทียนที่โทรมาและเย่เชียนก็ยิ้มพลางกดรับสาย
เสียงของหลี่จื้อเทียนก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “เย่เชียน! ..ฉันขอโทษ..ฉันจัดให้อยู่นั่นเพราะเห็นว่ามันเงียบและจะได้ทำสิ่งต่างๆ อย่างสะดวก..นี่จึงเป็นเหตุให้จัดแบบนี้ถ้าไม่พอใจฉันจะให้เหอปิงหาให้ใหม่” หลี่จื้อเทียนพูด
“ไม่เป็นไร..ที่นี่มันยอดเยี่ยมมาก” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่แผนพร้อมหรือยัง..ผมต้องการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด”
“น้องเย่เป็นคนที่ใจร้อนเสียจริง..พึ่งจะเดินทางมาถึงมณฑลเหอหนานแท้ๆ แต่กลับไม่พักหายใจเลยด้วยซ้ำ” หลี่จื้อเทียนพูด “แต่อาจต้องรอสักสองสามวันนะ..แต่ถ้าน้องเย่รีบฉันจะรีบออกไปให้พบโดยเร็วที่สุด”
“ไม่จำเป็น..ผมก็แค่ถามเฉยๆ ..เพราะร่างกายของคุณนั้นสำคัญกว่าเพราะถ้าคุณเหนื่อยจากการหักโหมมากเกินไปผมจะหาหุ้นส่วนที่ไหนกันล่ะ..คุณคิดแผนของคุณไปเถอะ..ผมจะไปเที่ยวรอบๆ นี้สักหน่อย” เย่เชียนพูด
“ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อน้องเย่พูดแบบนี้..เอาล่ะฉันจะไม่รบกวนเวลาพักผ่อนน้องเย่แล้ว..เดี๋ยวฉันเชิญน้องเย่ไปทานมื้อเย็นกันวันหลัง” หลี่จื้อเทียนพูด
“ตกลงตามนั้น” เย่เชียนพูด หลังจากทักทายกันไม่กี่คำเย่เชียนก็วางสายโทรศัพท์ไปและเดินที่โซฟาแล้วนั่งลง หลังจากมองไปที่ชิงเฟิงแล้วเย่เชียนก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง..นายตรวจสอบข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นหรือยัง? ”
เมื่อทานอาหารเสร็จชิงเฟิงก็ออกไปหาข้อมูลของพนักงานสาวเสิร์ฟ เพราะชิงเฟิงนั้นเก่งที่สุดในการทำสิ่งเหล่านี้โดยการให้เงินเล็กน้อยกับบุคลากรภายในภัตตาคารและถามทุกอย่างที่พวกเขาอยากรู้ได้ทันที “ตามที่พนักงานเสิร์ฟคนอื่นๆ บอกมาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเก็บตัวมากและความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนร่วมงานก็ไม่ค่อยดีนัก..เธอชื่อเย่เหวินและอาศัยอยู่กับแม่สองคน..แต่แม่ของเธอนอนป่วยติดเตียงมาตลอดทั้งปี..ซึ่งเธอก็ออกไปหางานทำหลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม” ชิงเฟิงพูดต่อ “ผมต้องการหาที่อยู่บ้านของเธอจากผู้จัดการแต่ทว่าพวกเขาอยู่ภายใต้ฮัวซงเจี๋ยเพราะงั้นผมก็กลัวว่ามันจะน่าสงสัยเกินไปที่จะถาม”
เย่เชียนก็แน่นิ่งไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งและค่อยๆ หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งซองจากกระเป๋าเสื้อของเขาและหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนแล้วจุดไฟ
“ว่าแต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงนามสกุลเหมือนบอสล่ะ?” ชิงเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจ
“ใช่! ..น่าแปลกเหมือนกัน..ฉันสงสัยอยู่ว่าเธอจะเป็นน้องสาวของฉันหรือเปล่า..เพราะพ่อกับแม่ของฉันตายไปนานแล้วและฉันก็เป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก” เย่เชียนพูด อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพูดคำเหล่านี้เย่เชียนก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่เพราะในความทรงจำของเขานั้นเรื่องพ่อแม่ของเขาเลือนรางมากและเย่เชียนก็จำอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่เด็ก
ชิงเฟิงยักไหล่เบาๆ และพูดว่า “อืม..ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
เมื่อนอนอยู่บนเตียงในตอนกลางคืนเย่เชียนก็ตกอยู่ในความคิดต่างๆ นาๆ เพราะในความเป็นจริงเด็กกำพร้าทุกคนล้วนอยากรู้ประสบการณ์ชีวิตของเขาในวัยเด็กกันทั้งนั้นซึ่งม่อหลงและเย่เชียนก็เป็นเหมือนกัน ซึ่งภาพความจำก็เบลอไปหมดและเขาจำได้แค่ว่าเขาเคยเดินเตร่อยู่บนถนนและถูกผู้คนรังเกียจและกินแม้แต่อาหารสุนัขข้างทางเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขามารับและดูแลตัวเองในฐานะลูกชายบุญธรรมของเขาล่ะก็เย่เชียนก็ไม่รู้เลยว่าเขาชีวิตของเขาจะเป็นแบบไหน ซึ่งบางทีเขาอาจจะอดตายข้างถนนไปแล้วใช่มั้ย?
ดังนั้นในใจของเย่เชียนพ่อของเขาคือญาติที่สำคัญที่สุดของเขา อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เชียนไม่ได้ต้องการรู้ประสบการณ์ชีวิตของเขาเพราะสำหรับเด็กกำพร้าญาติของพวกเขามักจะเป็นหนามยอกอกในใจของเขาเสมอ
เป็นอย่างที่ชิงเฟิงพูดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นน้องสาวของเย่เชียนหรือเปล่า? ซุ่งเย่เชียนก็คิดอย่างลับๆ และหลังจากส่ายหัวสลัดความคิดออกไปและพึมพำว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไง..เรื่องแบบนี้มันก็มีเฉพาะในรายการทีวีเหล่านั้นเท่านั้นแหละ”
หลังจากปล่อยความคิดที่วุ่นวายออกไปเย่เชียนก็หลับลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั่งบนเครื่องบินจากใต้สู่เหนือและเหนือจรดใต้อีกครั้งจึงทำให้สภาพร่างกายของเขาไม่ได้ปรับตัวและเหนื่อยล้าเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็ตื่นขึ้นด้วยความงุนงงและหลังจกาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวแล้วเขาก็เดินออกจากห้องนอนไปแต่ทว่าชิงเฟิงนั้นยังคงหลับอยู่และหลังจากที่เย่เชียนเปิดประตูห้องของชิงเฟิงไปเขาก็เตะชิงเฟิงและตะโกนว่า “ไอ้บ้านี่ตื่นเดี๋ยวนี้!”
“โถ่บอส..อย่าฟุ้งซ่านสิมันไม่มีอะไรผิดปกติก็ให้ผมนอนต่อเถอะ” ชิงเฟิงพูดด้วยความงุนงง
“เสียงดังขนาดนี้นายยังนอนหลับได้อีกเหรอ..รีบๆ ตื่นได้แล้ว..ไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยไปชมทิวทัศน์รอบๆเมือง” เย่เชียนพูด
“ทิวทัศน์อะไรของบอส..ปล่อยให้ผมนอนหลับอย่างสบายเถอะ” ชิงเฟิงพูดอย่างเกียจคร้าน
“ลุกขึ้นเร็ว..เราจะไปคาสิโนของฮัวซงเจี๋ยกันที่นั่นมีสาวสวยมากมาย..มันก็ขึ้นอยู่กับนายว่าจะไปหรือเปล่า” หลังจากที่เย่เชียนพูดแล้วเขาก็หันหลังและเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนบอส! ..ผมตื่นแล้วๆ ” ชิงเฟิงตะโกนและรีบลุกขึ้นจากเตียงและไปอาบน้ำสวมด้วยความร้อนรนจนเย่เชียนฉีกยิ้มเพราะเย่เชียนนั้นรู้นิสัยของชิงเฟิงเป็นอย่างดีหลังจากอยู่กับชิงเฟิงมานานถ้าเขาไม่รู้จุดอ่อนของชิงเฟิงล่ะก็มันก็เป็นเรื่องที่แปลกอย่างมาก
หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันกันเสร็จทั้งสองคนก็เดินลงมาชั้นล่างและเห็นคนกลุ่มหนึ่งตะโกนใส่กันและหนึ่งในนั้นมีคนที่ลักษณะน่าสมเพชและหยิ่งผยองมาก
“บอส! ..เขามีปัญหาอะไรกันตอนเช้าแบบนี้..มันเสียงดังน่ารำคาญมาก” ชิงเฟิงพูด
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง..ฉันก็เพิ่งจะตื่นเหมือนกับนายนั่นแหละ” เย่เชียนยักไหล่และพูดอย่างเฉื่อยชา
“ที่นี่เป็นโรงแรมของหลี่จื้อเทียนไม่ใช่หรอ..เพราะงั้นถ้ามีคนสร้างปัญหาที่นี่มันก็เหมือนเป็นการดูหมิ่นพวกเราน่ะสิ” ชิงเฟิง
“ไอ้บ้านี่ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่..อย่าเพิ่งสร้างปัญหาเลยเราไปกันเถอะ..ชายตัวเตี้ยคนนั้นดูน่ารำคาญมาก” เย่เชียนพูด
ท่ามกลางฝูงชนชายร่างเตี้ยก็ตะโกนว่า “ผมไม่สนใจหรอกว่าโครงการของคุณกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้..แต่ผมพูดสั้นๆ ว่าถ้าคุณไม่ใช้วัสดุก่อสร้างจากบริษัทของเราล่ะก็..ตารางงานก็จะไม่ดำเนินต่อไป”
“ประธานหลัวตามสัญญากับบริษัทของคุณว่าด้วยการต่อเติมและตกแต่งโรงแรมของเราหมดสัญญาไปแล้วไม่ใช่หรือ..แล้วก็บริษัทตกแต่งไม่ได้เป็นคนเลือกสักหน่อยว่าเราจะใช้วัสดุก่อสร้างแบบไหน” ผู้จัดการโรงแรมพูดอย่างมีหลักการ
เย่เชียนและชิงเฟิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ซึ่งผู้จัดการโรงแรมคนนี้จริงจังมากเกินไปใช่ไหม? อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาว่าโรงแรมแห่งนี้ทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายและไม่จำเป็นที่จะต้องหลบซ่อนจากกฎหมายใดๆ เลย
.
.
.
.
.
.
.