ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 537 การช่วยเหลือที่หลอกลวง
ตอนที่ 537 การช่วยเหลือที่หลอกลวง
จากอีกมุมหนึ่งเมื่อพวกเขาเดินออกมาไกลจากเย่เชียนแล้วเซียวหวันก็พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เขาต้องไปหาหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างแน่นอน..มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะแล้วทำไมผู้อำนวยการถึงได้เชื่อเขาถึงขนาดนี้?
“จริงๆ แล้วเขาก็พูดถูกนะเพราะถ้าไม่ใช่เขาเข้ามาขัดจังหวะเราล่ะก็วันนี้พวกเราอาจจะตายจริงๆ ก็ได้..เธอน่ะยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจเรื่องของผู้ชายมากนักหรอก..เธอรู้ไหมว่าผู้อำนวยการน่ะไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งกับหมาป่าผีไป๋ฮวยเลย” จื้อจุนพูด “ฉันไม่เคยเห็นเธอปฏิบัติกับใครเหมือนเย่เชียนเลย..ฉันไม่คิดว่าเธอเกลียดเขาหรอกนะเพราะเธอน่ะชอบเขาใช่ไหมล่ะ? ”
เซียวหวันก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะแล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “จะบ้าเหรอ! ..ฉันเนี่ยนะชอบเขา..หืม..ฉันจะชอบเขาก็ต่อเมื่อผู้ชายทั้งหมดในโลกใบนี้ตายกันไปหมดแล้วเท่านั้น”
จื้อจุนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “เอาล่ะไปกันเถอะปล่อยให้เขาจัดการเรื่องของหมาป่าผีไป๋ฮวยไป..เพราะครั้งนี้เป้าหมายของเราคือเหล่ยเจียง..อีกอย่างเรื่องนั้นน่ะมันเกินความสามารถของเราไปมาก”
ตามรหัสลับที่หมาป่าผีไป๋ฮวยทิ้งเอาไว้หลังจากที่เขาหายเข้าไปท่ามกลางเงาโดยเดินต่อไปอีกสองสามตรอกเย่เชียนก็เห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยยืนหันหลังให้เขาจากระยะไกลภายใต้แสงสะท้อนของแสงจันทร์จนทำให้เงาของเขานั้นถูกแสงสะท้อนออกมาเป็นร่างที่ยาวยืดอย่างน่ากลัว
“มาแล้วเหรอ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดและหันกลับมาอย่างช้าๆ
“ใช่! ” เย่เชียนตอบกลับไปว่า “ผมไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันที่นี่..เป็นยังไงบ้างไม่ได้เจอกันนานเลยพี่เป็นยังไงบ้าง? ”
“นายกลายเป็นคนเสแสร้งแกล้งอารมณ์อ่อนไหวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ “คนอย่างฉันจะไปมีอะไรดีล่ะชีวิตของฉันก็เหมือนเดิมเสมอ..ว่าแต่พวกองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ถูกทำลายไปแล้วถ้างั้นเขี้ยวหมาป่าก็จะไปได้ไกลกว่านี้ภายใต้การปกครองของนาย”
“ถ้าตอนนี้พี่อยู่ตั้งแต่เริ่มบางทีพี่อาจจะเป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่าไปแล้วเพราะพี่สามารถพัฒนาเขี้ยวหมาป่าให้แข็งแกร่งมากกว่าผมได้อย่างแน่นอน” เย่เชียนพูด
“หึ..ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ต่อแต่ฉันก็ไม่สามารถเป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่าได้หรอกเพราะฉันน่ะรู้เรื่องนี้ดีว่าสมาชิกแต่ละคนน่ะไม่ต้อนรับฉันเลย” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูด “นอกจากนี้ถึงแม้ว่าฉันจะรับตำแหน่งผู้นำเขี้ยวหมาป่าก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าฉันจะทำได้ดีกว่านาย..เย่เชียนฉันน่ะชื่นชมนายมาก”
เย่เชียนนั้นรู้ดีถึงคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยเพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยค่อนข้างเก็บตัวและมีเพื่อนอยู่เพียงไม่กี่คนในเขี้ยวหมาป่าและถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นมานานแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่สามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำของเขี้ยวหมาป่าได้เลย ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่พูดอะไรใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็ถามว่า “พี่ไป๋ฮวยพี่มาที่นี่เพื่อฆ่าฮัวซงเจี๋ยเหรอ?”
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ว่าก็ว่าเถอะนายเนี่ยรู้จักฉันดีที่สุดเลย..ใช่! ..เป้าหมายของฉันในครั้งนี้คือฮัวซงเจี๋ยจริงๆ”
“เหล่ยเจียงเป็นผู้ว่าจ้างใช่หรือเปล่า?” เย่เชียนถาม
“อะไรนะดูเหมือนนายไม่อยากให้ฉันฆ่าฮัวซงเจี๋ยเลย” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดอย่างเย็นชาแล้วพูดต่อ “นายเองก็เป็นทหารรับจ้างเช่นกันเพราะงั้นนายก็ควรจะรู้กฎของเราว่าเราต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ว่าจ้าง..ว่าแต่ฉันอยากรู้ว่านายกำลังขัดแย้งกับพวกแก๊งยากูซ่ายามากุจิอยู่ไม่ใช่เหรอแล้วทำไมนายถึงเลือกที่จะร่วมมือกับฮัวซงเจี๋ยล่ะ? ”
“ห๊ะแก๊งยามากุจิ?” เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและถามด้วยความประหลาดใจว่า “พี่หมายถึงฮัวซงเจี๋ยกับพวกยามากุจิกำลังติดต่อกันอยู่เหรอ?”
หมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็รู้สึกตกใจกับคำพูดของเย่เชียนเขาจึงถามว่า “นี่ไม่ใช่นิสัยของนายเลยนะ..นายเลือกที่จะร่วมมือกับใครก่อนที่จะหารายละเอียดของอีกฝ่ายแบบนี้”
“ไม่ๆ ..ผมไม่ได้มีแผนจะร่วมมือกับฮัวซงเจี๋ยแต่ตอนนี้มณฑลเหอหนานมีเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันเพราะถ้าหากฮัวซงเจี๋ยตายไปทั้งมณฑลเหอหนานก็จะเป็นโลกของเหล่ยเจียง..ดังนั้นเมื่อพวกปลาต่อสู้กันในตาข่ายก็มีเพียงแค่ชาวประมงเท่านั้นเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์แบบนี้ได้” เย่เชียนพูด
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฮัวซงเจี๋ยจะสู้กับเหล่ยเจียง..นายก็สามารถเห็นได้จากตอนที่นายสั่งให้ชิงเฟิงไปข่มขู่เหล่ยเจียงและโยนความผิดให้ฮัวซงเจี๋ย..ซึ่งเหล่ยเจียงก็รู้ดีว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ฮัวซงเจี๋ยพูด..เพราะงั้นวันนี้ฉันก็เลยมาตรวจสอบและเห็นนายกับเขาอยู่ด้วยกันเพราะเขาต้องการที่จะกระตุ้นคงามขัดแย้งระหว่างนายกับฮัวซงเจี๋ยจนพวกนายเริ่มทำสงครามกันเอง” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดอย่างช้าๆ
เมื่อได้ยินสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “วันนี้พี่มาที่นี่เพื่อมาหาผมโดยเฉพาะไม่ใช่เพื่อมาฆ่าฮัวซงเจี๋ยเหรอ? ”
“มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันมาทำไม” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูด “การต่อสู้ระหว่างฮัวซงเจี๋ยกับเหล่ยเจียงน่ะในไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเพราะพวกเขาต่างก็อยู่เบื้องหลังเครือข่ายของแก๊งยากูซ่ายามากุจิและอีกฝ่ายก็มีแก๊งมาเฟียอเมริกันอีกดังนั้นทั้งหมดมันจะเป็นการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์..เพราะงั้นถ้าฉันป็นนายฉันก็จะไม่ทำอะไรเลยและรอให้เรื่องจบลงอย่างเงียบๆ เพราะไม่ว่านายจะจัดการกับใครถึงยังไงมันก็จะทำให้เกิดปัญหาที่เลวร้ายตามมาอีกมากมาย”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเพราะจากการสนทนานี้จะเห็นได้ชัดว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเหมือนกำลังช่วยตนอยู่ “ทำไมพี่ถึงบอกข้อมูลกับผมมากขนาดนี้..พี่ไม่ได้ต้องการทำลายเขี้ยวหมาป่าหรอกเหรอเพราะนี่น่าจะเป็นโอกาสที่หายากใช่ไหม? ” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ
“การทำลายล้างเขี้ยวหมาป่ามันเป็นหน้าที่ของฉันและจะไม่มีใครสามารถทำได้นอกจากฉัน! ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดต่อ “อย่าคิดว่าฉันกำลังช่วยนายอยู่ล่ะเพราะการต่อสู้ระหว่างเราจะไม่มีวันสิ้นสุด! ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ถึงยังไงผมก็ต้องขอบคุณพี่อยู่ดี” ในหมู่พี่น้องเขี้ยวหมาป่านั้นเย่เชียนรู้จักหมาป่าผีไป๋ฮวยดีที่สุดและถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาพูดตอนนี้จะดูไร้ความรู้สึกก็ตามแต่เย่เชียนก็รับรู้ได้ถึงความหวังดีนั้นๆ ซึ่งสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเมื่อครู่นี้ก็เพื่อหาข้ออ้างอื่นและปฏิเสธทางอ้อมนั่นเอง
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่านายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกมาเฟียรัสเซียเหรอ..ฮ่าๆ เป็นพันธมิตรที่ไม่ธรรมดาเลยนี่..เอาเถอะฉันได้พูดทุกอย่างที่ควรพูดแล้ว..ฉันไปก่อนล่ะ!”
หลังจากพูดจบหมาป่าผีไป๋ฮวยก็หันกลับไปและจากไปโดยไม่ลังเลใดๆ ซึ่งเมื่อเห็นด้านหลังของหมาป่าผีไป๋ฮวยเย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ เพราะเขาเข้าใจความหมายของประโยคสุดท้ายของหมาป่าผีไป๋ฮวยซึ่งกำลังบอกให้เย่เชียนร่วมมือกับพวกเฟียรัสเซียเพื่อจัดการกับฮัวซงเจี๋ยและเหล่ยเจียงนั่นเอง
อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยบอกล่ะก็เย่เชียนนั้นก็ไม่เคยคิดเลยว่าฮัวซงเจี๋ยจะได้รับการสนับสนุนจากแก๊งยามากุจิจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนเหล่ยเจียงก็ได้ติดต่อกับพวกมาเฟียอเมริกันและดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่จริงๆ และยิ่งไปกว่านั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าฮัวซงเจี๋ยในครั้งนี้ซึ่งหมายความว่าเหล่ยเจียงไม่ได้ต้องการฆ่าฮัวซงเจี๋ยและยังแสดงให้เห็นว่าเหล่ยเจียงนั้นต้องการให้ตนกับฮัวซงเจี๋ยขัดแย้งกันจริงๆ
โชคดีที่เย่เชียนนั้นไม่ได้โง่ไม่งั้นเขาคงจะไม่เข้าหาหวงฟู่ชิงเตี๋ยนตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าหากเป็นสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติล่ะก็พวกเขาก็สามารถกับเหล่ยเจียงและฮัวซงเจี๋ยได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามทั้งสองก็ไม่ใช่คนที่สามารถรับมือได้ง่านนักเพราะพวกเขาแต่ละคนต่างก็เป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาด โดยเฉพาะฮัวซงเจี๋ยที่คิดจะกำจัดเย่เชียนในตอนแรกแต่เขากลับเลือกที่จะสารภาพก่อนจนเย่เชียนไม่สามารถทำอะไรได้
ดูเหมือนว่าเย่เชียนนั้นจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคูลอฟส์อังเดรจริงๆ เพราะตอนนี้เย่เชียนกับคูลอฟส์อังเดรก็กำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน ดังนั้นถ้าหากเย่เชียนไม่ใช้สถานการณ์นี้เพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ล่ะก็เขาจะต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อนึกถึงสิ่งนี้เย่เชียนก็โทรไปหาคูลอฟส์อังเดรทันที
หลังจากได้ยินสิ่งที่เย่เชียนพูดแล้วคูลอฟส์อังเดรก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “มิสเตอร์เย่! ..เราไม่ได้เจอกันนานเลย..คุณจะมาที่มอสโกเมื่อไหร่..ผมต้องการฉลองกับคุณ”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “บางสิ่งบางอย่างมันไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในวันหรือสองวันน่ะสิ..แล้วสถานการณ์ที่นั่นในตอนนี้ล่ะเป็นยังไงบ้าง..ตระกูลของคุณมีทัศนคติต่อคุณยังไงบ้าง? ”
“ตอนนี้อาสเชฟถูกผมนำและเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย..ทั้งหมดนี้เป็นความดีความชอบของมิสเตอร์เย่..เขี้ยวหมาป่าก็คือเขี้ยวหมาป่าวันยังค่ำ..เพราะพี่น้องเขี้ยวหมาป่าที่คุณเย่สั่งให้มาช่วยผมน่ะคนธรรมดาๆ เทียบไม่ได้กับพวกเขาเลยทั้งด้านความสามารถและความกล้าหาญ!” คูลอฟส์อังเดรพูด “ว่าแต่มิสเตอร์เย่มีเรื่องสำคัญอะไรถึงได้โทรมาหาผมกลางดึกกลางดื่นขนาดนี้? ”
“มันก็มีบางอย่างที่ต้องปรึกษาคุณ” เย่เชียนพูด “การแข่งขันฟุตบอลโลกกำลังจะเริ่มขึ้นและผมก็สงสัยว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรสนใจเรื่องการพนันหรือเปล่า?”
“อันที่จริงแล้วตระกูลและแก๊งมาเฟียของเราก็มีส่วนร่วมในการพนันนี้มาโดยตลอด..พูดตามตรงก็คือแก๊งมาเฟียคูลอฟส์ของเราเป็นโต๊ะพนันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย..แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้ได้รับการจัดการโดยอาสเชฟมาโดยตลอด” คูลอฟส์อังเดรพูดต่อ “แล้วมิสเตอร์เย่มีความคิดอะไรดีๆ บ้างไหม?”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่! ..ผมมีความคิดบางอย่างอยู่แต่ผมไม่รู้ว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรจะสนใจหรือเปล่า”
“ถ้ามิสเตอร์เย่มีแผนอะไรคุณก็บอกผมมาได้เลยครับเพราะในเมื่อมิสเตอร์เย่พูดว่าดีมันก็ต้องดีอย่างแน่นอน” คูลอฟส์อังเดรพูด “มันเกี่ยวข้องกับการพนันใต้ดินหรือเปล่า?”
“ใช่! ..เจ้าพ่อคาสิโนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ชื่อฮัวซงเจี๋ย..ซึ่งเขาควบคุมการพนันบอลมาโดยตลอดและผู้สนับสนุนเบื้องหลังของเขาก็คือพวกแก๊งยามากุจิของญี่ปุ่น..ตอนนี้ก็ยังมีการสนับสนุนจากมาเฟียอเมริกันโดยคนที่ชื่อเหล่ยเจียงอีก..แต่ทั้งสองดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทเดียวกันจึงทำให้ระหว่างทั้งสองจึงมีไฟและน้ำมันดังนั้นสงครามก็อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อและถ้าหากเราสามารถใช้โอกาสนี้ในการเข้าครอบครองธุรกิจการพนันในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ล่ะก็มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคุณและผม” เย่เชียนพูด “คุณคิดว่าถ้าหากคุณสามารถพัฒนาอำนาจและอิทธิพลของแก๊งของคุณไปยังทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้นะผมว่าเหล่าผู้นำในตระกูลของคุณจะต้องเชื่อใจและไว้ใจคุณมากอย่างแน่นอนและหลังจากนั้นอาสเชฟก็จะไม่มีอำนาจในการแข่งขันกับคุณอีกต่อไป”
คูลอฟส์อังเดรก็ถูกดึงดูดโดยผลประโยชน์อันมหาศาลของเย่เชียนทันที ซึ่งที่จริงแล้วตระกูลแก๊งมาเฟียคูลอฟส์ก็ต้องการขยายอำนาจและอิทธิพลของแก๊งไปยังภูมิภาคอื่นๆ มาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ก็ไม่เคยราบรื่นเลยสักครั้งแต่ทว่าถ้าหากคราวนี้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการควบคุมการพนันใต้ดินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยมือของเขาเองล่ะก็นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการพัฒนาอำนาจของตระกูลคูลอฟส์ไปยังทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างสมบูรณ์แบบ
.
.
.
.
.
.
.