ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 557 ของขวัญจากหมาป่าผี ตอนที่ 2
ตอนที่ 557 ของขวัญจากหมาป่าผี ตอนที่ 2
ทันใดนั้นเองจู่ๆ ก็มีแสงสว่างวาบเข้ามาในใจของเย่เชียนและความคิดต่างๆนาๆก็เข้ามาในหัวของเขา ซึ่งเป็นไปได้ไหมที่คนๆ นี้จะเป็นสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ? เย่เชียนคิดอย่างลับๆ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคุณรู้จักตัวตนของผมถ้างั้นคุณก็ควรจะรู้วิธีการของผมสินะ..เพราะงั้นมันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้เพราะถึงยังไงเดี๋ยวอีกไม่นานผมก็ต้องรู้อยู่ดี..คุณคงจะเข้าใจใช่ไหมว่าผมหมายถึงอะไร? ”
ชายคนนั้นเหลือบมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นจากนั้นก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะให้คนอื่นตามสืบค้นอยู่และถ้าผมไม่บอกอะไรกับคุณไปถึงยังไงคุณก็ต้องรู้อยู่ดี..เพราะงั้นถ้าผมปิดปากเงียบมันก็ไร้ประโยชน์สินะ”
“คุณค่อนข้างฉลาด..พูดตามตรงผมล่ะชื่นชมคุณจริงๆ ” เย่เชียนพูด “เนื่องจากคุณเป็นคนฉลาดเพราะงั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเยอะ..บอกผมเกี่ยวกับทุกอย่างที่คุณรู้มาและผมสัญญาว่าคุณจะหลับอย่างสบาย”
มือปืนเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเขาก็เข้าใจว่ามันไม่สำคัญว่าจะต้องบอกความจริงในตอนนี้หรือไม่เพราะถึงยังไงเย่เชียนก็กำลังตามสืบค้นข้อมูลอยู่และอีกไม่นานคนของเขาก็จะพบความจริง อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญมากสำหรับตัวเขาเองก็คือถ้าหากเขาพูดมันออกไปเขาก็สามารถที่จะตายไปอย่างไม่ทุกข์ทรมานแต่ถ้าหากเขาไม่พูดเย่เชียนก็จะทรมานเขาจนเหมือนตายทั้งเป็นและมันแย่ยิ่งกว่าความตายเป็นหลายเท่า
ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะจะไม่มีอยู่แล้วก็ตามแต่เจตจำนงของจิ้งจอกหิมะก็ยังคงมีอยู่ในใจของพวกเขา จากการที่เขาอยู่ในธุรกิจรับจ้างมานานเขาก็ผ่านความตายมามากมายจนพวกเขาไม่กลัวตายแต่ไม่ใช่กับการถูกทรมาน ซึ่งเมื่อนึกถึงการถูกทรมานและการถูกเย้ยหยันโดยคนอื่นเขาก็รู้สึกรับไม่ได้เพราะสำหรับชายชาติทหารอย่างเขาความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดแต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเสื่อมเสียเกียรติ
สำหรับเย่เชียนนั้นเขาไม่ได้เกลียดองค์กรทหารรับจ้างมากนักแต่เนื่องจากองค์กรจิ้งจอกหิมะมาคุกคามเขาดังนั้นเขาจึงต้องโต้กลับ การกำจัดจิ้งจอกอาร์กติกด้วยเขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการขัดแย้งกันด้านผลประโยชน์และไม่มีใครถูกหรือผิดทั้งนั้น
ในตอนแรกสมาชิกที่ประจำการอยู่ขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะที่รอดจากคืนนั้นก็ได้ติดต่อไปยังสมาชิกทั้งหมดที่เหลืออยู่ที่กำลังออกปฏิบัติภารกิจอยู่ทั่วโลกและเมื่อพวกเขารับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาก็รีบกลับมายังเมืองมอสโกโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยและพวกเขาก็เริ่มทำการสังหารคูลอฟส์อาสเชฟแต่โชคไม่ดีที่การสังหารนั้นล้มเหลวและหลังจากนั้นพวกเขาก็หลบหนีไปเพราะในขณะที่พวกเขากำลังทำการลอบสังหารคูลอฟส์อาสเชฟพวกเขาก็ถูกสมาชิกเขี้ยวหมาป่าสกัดกั้นเอาไว้และการสังหารหมู่ก็เริ่มขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตื่อนล่วงหน้า ซึ่งโชคดีที่ชายคนนี้หนีรอดมาได้และหลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าคนทำสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คูลอฟส์อาสเชฟแต่เป็นคูลอฟส์อังเดรและหลังจากนั้นเขาก็ได้ติดต่อไปหาคูลอฟส์อาสเชฟและบอกว่าเขาจะลอบสังหารคูลอฟส์อังเดร ซึ่งเมื่อคูลอฟส์อาสเชฟได้ยินเช่นนั้นเขาก็มีความสุขมากโดยธรรมชาติดังนั้นคูลอฟส์อาสเชฟจึงคอยสนับสนุนและส่งชายคนนี้มายังประเทศจีนทันทีหลังจากที่คูลอฟส์อังเดรเดินทางมาที่ประเทศจีน
ดังนั้นเมื่อความจริงปรากฏเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ไม่มีผู้อยู่เบื้องหลังโดยตรง อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญสำหรับเย่เชียนเพราะเย่เชียนตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นไปตามแผนของเขาเพราะท้ายที่สุดแล้วคูลอฟส์อาสเชฟกับคูลอฟส์อังเดรก็เป็นลุงและหลานชายแล้วใครจะรู้ได้ว่าสักวันหนึ่งพวกเขาอาจจะกลับมาปรองดองจับมือกัน? ดังนั้นเพื่อเพิ่มความขัดแย้งระหว่างพวกเขาเย่เชียนจึงต้องการคว้าโอกาสนี้เอาไว้
หลังจากได้ยินสิ่งต่างๆ จากมือปืนแล้วเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ผมต้องขอโทษด้วย..ผมหวังว่าพวกเราจะไม่ต้องเจอกันอีกในชาติหน้า! ”
มือปืนก็ยิ้มอย่างน่าสังเวชและพูดว่า “มันช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ต้องตายด้วยเงื้อมมือของราชาหมาป่าเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่..มันดีกว่าการตายโดยใครก็ไม่รู้..เอาเถอะตั้งแต่วันที่ผมถือตนเป็นทหารรับจ้างผมก็ทิ้งชีวิตและความตายออกไปจากความคิดของผมแล้ว..ความตายมันไม่ได้น่ากลัวสำหรับผมเลย”
เย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ในฐานะลูกผู้ชายผมจะไม่ทำให้คุณต้องตายไปอย่างทรมาน” ทันทีที่เสียงของเย่เชียนจบลง เขาก็หันหน้าไปทางมือปืนอย่างรวดเร็วและคว้าต้นคอของมือปืนและใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าไปที่กระดูกสันหลังและมีเพียงเสียง “กรึก” ของกระดูกสันหลังที่หักและร่างของมือปืนก็ค่อยๆ ล้มลงไปที่พื้น
การกระทำทั้งหมดรวดเร็วและโหดร้ายและมันเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวและมือปืนก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย สำหรับเย่เชียนผู้ซึ่งได้รับการฝึกฝนทางทหารมาอย่างเข้มงวดและมีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดีมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปลิดชีพศัตรูได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
เมื่อมองไปที่ร่างไร้วิญญาณที่นอนอยู่บนพื้นเย่เชียนก็ถอนหายใจเล็กน้อยจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรออกไปยังเบอร์ของจางจิวเหว่ย “สวัสดีครับหัวหน้า! ” ทันทีที่มีการเชื่อมต่อสายเสียงของฝ่ายตรงข้ามดังเข้ามาด้วยความเคารพ
“อืม!” เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ตอบกลับไปว่า “เป็นยังไงบ้าง? ..พวกจิ้งจอกหิมะเคลื่อนไหวกันถึงไหนแล้ว..ส่วนการเด็ดหัวคูลอฟส์อาสเชฟสำเร็จหรือเปล่า? ”
“พวกจิ้งจอกหิมะล้มเหลวในการเด็ดหัวคูลอฟส์อาสเชฟ..ส่วนสมาชิกจิ้งจอกหิมะที่เหลืออยู่ก็ถูกพวกเราตามล่าและเด็ดหัวไปหมดแล้ว..แต่ว่าผมขอโทษครับบอส..คือสมาชิกจิ้งจอกหิมะหลบหนีไปได้คนนึงและเราก็ยังหาเขาไม่พบ” จางจิวเหว่ยพูด
“หืม! ” เย่เชียนตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณรู้ไหมว่าคุณทำพลาดครั้งใหญ่แค่ไหน..เพียงเพราะความประมาทของคุณคุณครั้งนี้มันเกือบจะทำให้เกิดหายนะเลย..คุณรู้ไหมว่าสมาชิกจิ้งจอกหิมะคนนั้นอยู่ที่นี่ในประเทศจีนแล้ว? ..ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมาลอบยิงคูลอฟส์อังเดรที่สนามบินและถ้าหากผมมาไม่ทันเวลาล่ะก็คูลอฟส์อังเดรคงจะโดนยิงตายไปแล้ว..คุณรู้ไหมว่าถ้าหากคูลอฟส์อังเดรตายในแผ่นดินจีนผลที่ตามมามันจะเป็นยังไง? ”
“ผมขอโทษครับบอส..มันเป็นความประมาทของผมเอง..บอสทำโทษผมได้เลย! ” จางจิวเหว่ยพูด
“เอาเถอะ..ถึงยังไงครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก..ตอนนี้คุณไปติดต่อเล้งยี่และบอกให้เขาปฏิบัติตามกฎเขี้ยวหมาป่าและทำโทษคุณตามกฎเหล็กของเรา” เย่เชียนพูด
“ครับบอส! ” จางจิวเหว่ยตอบ
“ตามนั้น..แต่หลังจากนี้ในประเทศรัสเซียคุณจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นและถ้ามีอะไรก็รายงานแจ็คได้โดยตรงและจำเอาไว้ว่าอย่าประมาท” เย่เชียนพูด “เพราะงั้นถ้ามีแบบนี้อีกคราวนี้คุณอย่าโทษที่ผมจะลงโทษคุณ..ผมทำเพื่อกฏระเบียบของเราและผมหวังว่าคุณจะไม่ตำหนิผม”
“ทุกสถานที่ต้องมีกฎเกณฑ์เสมอ..ถ้าผมทำผิดพลาดผมก็ควรจะถูกลงโทษ” จางจิวเหว่ยพูดอย่างหนักแน่น
“อืม! ” เย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็ตามนั้น..ไว้เจอกัน” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็วางสาย
หลังจากวางสายเย่เชียนก็จมอยู่ในห้วงแห่งความคิดและเขาก็อธิบายไม่ถูกกับการกระทำของหมาป่าผีไป๋ฮวยและเขาก็ไม่เข้าใจว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยถึงจับตัวมือปืนมาให้ ซึ่งถึงแม้ว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นจัดการกับเขี้ยวหมาป่าเพราะเขาจะจัดการกับเขี้ยวหมาป่าด้วยตัวเองก็ตาม แต่ถึงยังไงคราวนี้มือปืนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้คุกคามเขี้ยวหมาป่าดังนั้นทำไมหมาป่าผีไป๋ฮวยถึงได้ทำเช่นนี้
ตอนนี้เย่เชียนต้องการพบหมาป่าผีไป๋ฮวยจริงๆ และถามเขาอย่างละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่และเขาต้องการทำอะไร อย่างไรก็ตามหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ลึกลับมากและดูเหมือนว่าจะหาเขาเจอได้ยากสักหน่อย ซึ่งถึงแม้ว่าเย่เชียนจะรู้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยอยู่ในเมืองเจิ้งโจวก็ตามแต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะพบเขา
เย่เชียนก็ถอนหายใจเล็กน้อยและดูเหมือนว่าเขาจะต้องรอให้หมาป่าผีไป๋ฮวยมาหาเขาเท่านั้น แต่ความหวังนี้ดูริบหนี่ไปหน่อย เพราะตราบใดที่หมาป่าผีไป๋ฮวยไม่คิดที่จะมาพบเขานั่นก็หมายความว่าเขาไม่ต้องการให้ใครพบเขานั่นเอง เย่เชียนก็ส่ายหัวระงับอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงนี้ออกไปและหลังจากกำจัดศพของมือปืนแล้วเขาก็อาบน้ำล้างตัวและเดินกลับไปที่ห้องนอนแล้วเข้านอนทันที
เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็ตื่นแต่เช้าและหลังจากวอร์ทร่างกายตามปกติแล้วเขาก็ยังฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณอีกด้วยและหลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วเย่เชียนก็รู้สึกมีพลังมากขึ้นและร่างกายของเขาดูเหมือนจะมีพลังที่ทำให้เขาไม่รู้จักเหนื่อยปรากฏขึ้นมา
หลังจากอาบน้ำล้างตัวแล้วเย่เชียนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถไปยังโรงแรมที่คูลอฟส์อังเดรพักอยู่ ซึ่งที่ล็อบบี้ของโรงแรมเย่เชียนก็โทรไปหาคูลอฟส์อังเดรโดยบอกว่าตัวเองมาถึงโรงแรมแล้วและขอให้เขาลงมาทานอาหารเช้าด้วยกัน
หลังจากนั้นไม่นานคูลอฟส์อังเดรกับชิงเฟิงและลูกน้องทั้งสองคนก็ลงลิฟต์และเดินไปที่ร้านอาหาร ซึ่งจากระยะไกลพวกเขาเห็นเย่เชียนรออยู่ที่นั่นแล้ว ซึ่งบนโต๊ะนั้นก็เต็มไปด้วยของว่างมื้อเช้าและเมื่อเย่เชียนเห็นคูลอฟส์อังเดรเขาก็ยิ้มและบอกให้คูลอฟส์อังเดรนั่งลง
“มาลองอาหารเช้าของประเทศจีนสิ..ลองชิมดูว่าคุณจะชอบมันหรือเปล่า” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมชอบอาหารเช้าของประเทศจีนมาโดยตลอดเพราะตอนที่ผมอยู่ที่มอสโกผมก็มักจะไปร้านอาหารจีนเพื่อทานอาหารเช้า..พูดตามตรงเลยว่ามันดีกว่าขนมปังและแซนด์วิชของประเทศเรามาก” คูลอฟส์อังเดรพูดด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ลูกน้องของคูลอฟส์อังเดรทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างและคูลอฟส์อังเดรก็พูดว่า “คุณทั้งสองคนก็มานั่งกินด้วยกันสิ..ที่นี่ไม่มีคนนอกเพราะงั้นไม่ต้องเป็นทางการมากนักหรอก”
มาเฟียทั้งสองก็ตอบอย่างเคารพและยังคงนั่งลงอย่างระมัดระวังเพราะเมื่อได้ยินสิ่งที่คูลอฟส์อังเดร ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเพราะดูเหมือนว่าคูลอฟส์อังเดรคนนี้เก่งในการซื้อใจผู้คนได้มากเลยทีเดียว อันที่จริงคนส่วนมากมักจะใช้เงินเพื่อซื้อใจคนและจะไม่กดดันด้วยอารมณ์แต่ความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นบนฐานของเงินนั้นไม่น่าเชื่อถือและไม่ซื่อสัตย์และจะตกอยู่ในอันตรายจากการถูกหักหลังได้ทุกเมื่อแต่ความสัมพันธ์แบบนี้นั้นแตกต่างกันเพราะถึงแม้ว่าเขาจะลำบากเมื่อถึงเวลานั้นคนเหล่านี้ก็จะไม่มีวันทิ้งเขาไป
“วันนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่ายินดีที่ผมอยากจะบอกคุณ” เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่น่ายินดีนั้นคือคุณพบตัวมือปืนแล้วหรือเปล่า? ” คูลอฟส์อังเดรถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
.
.
.
.
.
.
.