ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 574 แชมป์คาราเต้
ตอนที่ 574 แชมป์คาราเต้
ซากาโมโต้เคนตะนั้นเป็นหุ้นส่วนของฮัวซงเจี๋ยและยังเป็นตัวแทนของแก๊งยามากุจิในประเทศญี่ปุ่นด้วยซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการพนันสาขาหนึ่งในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฮัวซงเจี๋ยได้ร่วมมือกับเขาและทุกครั้งเขาก็ทำเงินได้มากมายโดยพื้นฐานแล้วฮัวซงเจี๋ยจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนซากาโมโต้นั้นจะคอยช่วยฮัวซงเจี๋ยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสาขาต่างๆ และดูแลข้อมูลภายในเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพนันและผลการแข่งขัน
อันที่จริงแล้วการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้นอยู่ภายใต้การแทรกแซงขององค์กรใต้ดินเหล่านี้มาโดยตลอด ซึ่งอะไรที่ไม่น่าไว้ใจนั้นพวกเขาจะรู้ดีที่สุดในวงการนี้ ดังนั้นข้อมูลภายในของพวกเขามักจะแม่นยำมากดังนั้นในทุกๆ การแข่งขันพวกเขาจะสามารถสร้างผลกำไรอันมหาศาลได้เสมอ
ข่าวของฮัวซงเจี๋ยนั้นซากาโมโต้เคนตะได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากและหลังจากได้รู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อเร็วๆ นี้ควบคู่ไปกับการกวาดล้างธุรกิจของฮัวซงเจี๋ยดังนั้นฮัวซงเจี๋ยจึงต้องรีบเดินทางมาเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยตนเอง เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฮัวซงเจี๋ยล่ะก็ซากาโมโต้ก็ต้องจัดการสิ่งต่างๆ ให้ดำเนินต่อไปเพราะการแข่งขันฟุตบอลโลกกำลังใกล้เข้ามาแล้วและดังนั้นสิ่งต่างๆ ก็ยังคงทันเวลาสำหรับรถไฟขบวนสุดท้ายไม่เช่นนั้นโอกาสและผลกำไรอันมหาศาลจะถูกแย่งและสูญเสียกำไรอย่างมาก
แต่โชคดีที่ฮัวซงเจี๋ยสามารถออกมาจากสถานีตำรวจได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นซากาโมโต้จึงรู้สึกโล่งใจไม่เช่นนั้นมันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหาพันธมิตรใหม่หรือเข้าครอบครองอุตสาหกรรมของฮัวซงเจี๋ยในเวลานี้
เมื่อได้ยินคำถามของซากาโมโต้แล้วฮัวซงเจี๋ยก็พยักหน้าและพูดว่า “ผมรู้เรื่องนี้มานานแล้วและผมก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนทำเพราะงั้นคุณซากาโมโตะไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”
“อืม..แล้วคุณมีวิธีจัดการกับอีกฝ่ายหรือเปล่า..ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครเขามีจุดประสงค์อะไรที่ต้องทำแบบนี้” ซากาโมโต้พูด
“อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มชื่อเหล่ยเจียงเขาเรียนจบจากประเทศสหรัฐอเมริกา..เขาเป็นนักศึกษาที่มีความสำเร็จสูงและเขามีส่วนร่วมในการค้ายาเสพติดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา..ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เขายังมุ่งความสนใจไปกับผลกำไรของการพนันและอยากเข้ามาแทรกแซงการพนันบอลโลกอีกด้วย..ในตอนแรกเขาพยายามเข้าหาผมแต่ผมปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเขาดังนั้นเขาจึงมีความขุ่นเคืองใจมาตลอดและแล้วเขาก็พยายามกำจัดผมและพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงการพนันในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และครอบครองทั้งหมด” ฮัวซงเจี๋ยพูด “อันที่จริงผมประเมินเขาต่ำไปหน่อยเพราะก่อนหน้านี้เขาเลือกต่อรองราคากับผม..แต่ก็นะฮัวซงเจี๋ยคนนี้ไม่ได้จัดการง่ายแบบนั้นเพราะงั้นคุณซากาโมโต้มั่นใจได้เลยว่าการรับมือกับเหล่ยเจียงมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยและผมก็สามารถกำจัดเขาได้ทุกวินาที”
“จริงหรอ..ว่าแต่ตอนนี้เหล่ยเจียงยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า..ถ้าเขายังอยู่มันจะเป็นภัยคุกคามพวกเราและมีเพียงคนตายเท่านั้นที่ปลอดภัยที่สุด..ขอข้อมูลของเขาหน่อยเดี๋ยวผมจะช่วยคุณจัดการเองเพราะการแข่งขันฟุตบอลโลกกำลังจะเริ่มขึ้นเพราะงั้นผมไม่ต้องการให้มันเกิดปัญหาอะไรอีก” ซากาโมโต้เคนตะพูด
“เอ่อ..คุณซากาโมโต้อาจจะมาช้าไปหน่อยเพราะตอนที่ผมอยู่ที่สถานีตำรวจลูกน้องของผมส่งข้อความมาบอกว่าเหล่ยเจียงได้นำเงินจำนวนมากออกทะเลไป..ส่วนเหตุผลนั้นผมยังไม่ทราบแต่เขาก็ไม่น่าจะไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เช่นนั้นเขาก็สามารถนั่งเครื่องบินมันคงสะดวกกว่า” ฮัวซงเจี๋ยพูด “ยิ่งไปกว่านั้นบัญชีธนาคารของเหล่ยเจียงก็ถูกอายัดโดยรัฐบาลจีนและตอนนี้เขาก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้..เพราะงั้นในตอนนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากการที่เขาไม่อยู่เพื่อควบคุมสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเร็วที่สุดและเปลี่ยนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นบ่อเงินและบ่อทองของเราและถึงแม้ว่าเขาจะเข้ามาแทรกแซงแต่ผมเกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้นเขาคงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว..ส่วนคุณซากาโมโต้จะฆ่าเขาทิ้งหรือไม่นั้นก็แล้วแต่คุณ”
“อืม..ไม่เป็นไรเพราะหลังจากทำงานกับคุณฮัวมาหลายปีผมก็เชื่อมั่นในความสามารถของคุณเป็นอย่างยิ่ง..ในเมื่อคุณฮัวได้เตรียมการมาเป็นเวลานานและมีความมั่นใจมากแบบนี้ดูเหมือนว่าผมจะกังวลมากไปเอง” ซากาโมโต้เคนตะพยักหน้าและพูด
“คุณซากาโมโต้กังวลมากเกินไป..เพราะงั้นทั้งหมดนี้ผมต้องฝากคุณด้วย” ฮัวซงเจี๋ยยิ้มและพูดว่า “พูดถึงเรื่องนี้ผมมีเรื่องจะขอให้คุณซากาโมโต้ช่วยจริงๆ ..ไม่ทราบว่าคุณจะคิดยังไงบ้าง?”
“มีเรื่องอะไรหรอ? ” ซากาโมโต้เคนตะพูดอย่างงุนงง
“สาเหตุที่ทำให้ผมถูกจับเข้าคุกเป็นเพราะเหรินชุนไป่คนนั้นเขาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกรมตำรวจส่วนกลางประจำมณฑลเหอหนาน..ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ลูกชายของเขาถูกพวกนักเลงฆ่าตายดังนั้นเขาจึงผลักความเกลียดชังไปที่พวกนักเลงและองค์กรใต้ดินทุกคน..เพราะงั้นเขาจึงต้องการฆ่าผมและสั่งปิดสถานประกอบการของผมและทำให้ผมสูญเสียกำไรและที่สำคัญกว่านั้นคือหน้าตาของผมในสังคมถูกเขาทำลายไปจนย่อยยับผมอดไม่ได้ที่จะชำระความร้าวฉานนี้” ฮัวซงเจี๋ยพูด
“มันง่ายมากเพราผมรู้ว่าคุณต้องการทำอะไร..ซึ่งการที่ผมมาที่นี่ในครั้งนี้ผมคิดว่ามันจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่ผมจึงพาคนมาที่นี่” ซากาโมโต้พูดพร้อมชี้ไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาทันที “ชื่อของเขาคือโยชิดะเขาเป็นปรมาจารย์คาราเต้อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นของเรา..เขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นนินจาและเขาก็เก่งในการลอบสังหารด้วย..มันไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้! ”
จากนั้นซากาโมโต้ก็เหลือบมองไปที่ชายหนุ่มข้างๆ เขาและพูดว่า “โยชิดะ..นี่คุณฮัวเขาเป็นหุ้นส่วนของแก๊งยามากุจิและเป็นพันธมิตรที่ดีของเรา”
โยชิดะก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและโค้งคำนับแล้วพูดว่า “สวัสดีครับคุณฮัวโปรดชี้แนะ! ”
“คุณโยชิดะไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ครับ..ผมมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องรบกวนคุณในอนาคต” ฮัวซงเจี๋ยพูดอย่างรีบร้อนและยืนขึ้นเล็กน้อยในขณะที่พูดและรีบนั่งลงอีกครั้ง
“เอาล่ะกลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ..ตอนนี้คุณฮัวยังไม่ได้บอกเลยว่าจะจัดการกับเหรินชุนไป่คนนั้นยังไงดี” ซากาโมโต้เคนตะพูด
“แน่นอนว่าเขาต้องตายทั้งเขาและครอบครัวของเขาทั้งหมด! ” ดวงตาของฮัวซงเจี๋ยส่องประกายด้วยแสงที่มืดมนและความกระหายเลือดนั้นเกินคำบรรยาย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยและมีชีวิตที่สะดวกสบายในห้องคุมขังก็ตามแต่ถ้าเขาปล่อยให้เหรินชุนไป่ทำแบบนี้ฮัวซงเจี๋ยจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? หลังจากอยู่บนถนนสายนี้มาเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่เขามีคาสิโนในทวีปเอเชียเขาก็ไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้อีกเลย ดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดเขาก็จะไม่มีวันปล่อยเหรินชุนไป่ไป
“มันง่ายมาก” ซากาโมโต้ยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “คุณแค่ให้ข้อมูลของเหรินชุ่นไป่แก่โยชิดะแล้วเขาจะลงมือทำให้คุณเอง”
ฮัวซงเจี๋ยก็พยักหน้าและมองไปที่โยชิดะและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมต้องรบกวนคุณโยชิดะด้วย..ผมหวังว่าพรุ่งนี้เขาจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์อีก”
“ไม่มีปัญหา” โยชิดะพูดด้วยความมั่นใจ
นอกจากลีลาและสัญลักษณ์ของชาติแล้วคาราเต้ก็ยังมีจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งเดิมเป็นมวยสากลและมวยจีนซึ่งหลังจากที่ชาวญี่ปุ่นได้ผสมผสานรูปแบบแล้วมันก็กลายเป็นคาราเต้ของชาวญี่ปุ่นและดูเหมือนว่าพวกเขาจะขโมยศิลปะการต่อสู้ของประเทศอื่นๆ มาปรับใช้ในแบบของตน รวมทั้งศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงของจีนก็ยังด้อยกว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่นเล็กน้อย ซึ่งในแง่ของการแข่งขันคาราเต้นั้นคาราเต้มีท่าไม้ตายมากมายและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรจึงจะล้มคู่ต่อสู้ได้โดยเร็วที่สุดและทรงพลังที่สุด
เนื่องจากศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของจีนให้ความสำคัญกับการปลูกฝังศีลธรรมดังนั้นปรมาจารย์ที่มีความสามารถส่วนใหญ่จึงไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมและเผยแพร่สู่โลกเช่นเดียวกับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณที่เหลืออยู่ในประเทศจีนในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ไม่เต็มใจที่จะถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่อีก
ที่สำคัญกว่านั้นศิลปะการต่อสู้ที่ประเทศจีนเผยแพร่ออกไปนั้นรุนแรงเกินไปแต่เพื่อดึงดูดบุคคลภายนอกจึงได้มีการเพิ่มท่าทางและความยืดหยุ่นมากมายที่ไม่มีอานุภาพถึงชีวิตและเพิ่มความสวยงามเข้าไปแทนที่ ดังนั้นความสามารถที่แท้จริงจึงไม่ค่อยมีใครทราบเช่นเดียวกับเหล่าปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงในวัดเส้าหลินที่มักจะถูกมองว่าเป็นเหมือนตัวตลก
เมื่อเทียบกับเหล่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่ฝึกคาราเต้นั้นสำหรับนินจาจะมีอยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่เรียกว่านินจานั้นเป็นเพียงเครื่องมือในการสังหารผู้คนในช่วงแรกจากสงครามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ตระกูลใหญ่ๆ กำลังจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกันซึ่งนำไปสู่การเคลื่อนไหวของเหล่านินจา ซึ่งถ้าหากว่าคาราเต้ถือเป็นรูปแบบของมวยล่ะก็นินจาทั้งหมดก็คือการลอบสังหารและพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเท่านั้นและไม่สนวิธีการของพวกเขา ดังนั้นนินจาจะมีการดำรงอยู่เช่นเดียวกับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ของจีนในสมัยโบราณและพวกเขามีตัวตนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาจึงทำให้นินจาส่วนใหญ่ไม่สามารถออกมาโลกภายนอกได้และถึงแม้ว่าจะมีอยู่จริงแต่พวกเขาก็มีตัวตนอยู่ในตระกูลใหญ่ๆ เท่านั้น
โยชิดะนั้นได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันคาราเต้ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในความเป็นจริงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาฝึกฝนการลอบสังหารตำรานินจาในตระกูลอิงะมาโดยตลอดและเขาก็รับใช้สมาคมมังกรดำมาโดยตลอดและครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยสมาคมมังกรดำสังหารศัตรูมากมายและครั้งนี้โยชิดะมาที่ประเทศจีนเพราะเนื่องจากความผิดพลาดหลายครั้งที่เกิดขึ้นเขาจึงมาเพื่อพบกับแก๊งยามากุจิสาขาประเทศจีนเพราะสมาคมมังกรดำได้รับความสูญเสียอย่างหนักเพราะแม้แต่นากาจิมะอาซูกะที่เป็นถึงหัวหน้าองค์กรทหารรับจ้างเรดซันก็ถูกสังหารในประเทศจีน ดังนั้นทางสมาคมมังกรดำจึงส่งโยชิดะมาพร้อมกับซากาโมโต้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเหตุร้ายและคุ้มกันซากาโมโต้
ในเรื่องการลอบสังหารนั้นโยชิดะก็มั่นใจมากเช่นกันเพราะในสายตาของเขาเหรินชุนไป่ที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานกรมตำรวจประจำมณฑลเหอหนานก็เป็นได้แค่คนตัวเล็กๆ และเขาก็ไม่สมควรที่จะหวั่นเกรงเขาเลย หลังจากได้รับข้อมูลพื้นฐานและที่อยู่ของเหรินชุนไป่จากฮัวซงเจี๋ยแล้วโยชิดะก็หัวเราะเยาะและหลังจากบอกลาซากาโมโต้กับฮัวซงเจี๋ยแล้วโยชิดะก็ออกไปจากบ้านของฮัวซงเจี๋ยทันที
หลังจากไปที่บ้านของเหรินชุนไป่เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วโยชิดะก็แวะรับประทานอาหารที่มุมถนนสี่แยกและหลังจากเห็นว่าเกือบจะได้เวลาแล้วเขาก็กลับไปที่ละแวกหน้าบ้านของเหรินชุนไป่และรออีกครั้ง
ประมาณหกโมงเย็นเหรินชุนไป่ก็ขับรถกลับมาจากสถานีตำรวจ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นโยชิดะที่รอเขาอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ
เมื่อโยชิดะเห็นเหรินชุนไป่ออกมาจากรถโยชิดะก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะและเย้ยหยัน
.
.
.
.
.
.
.