ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 657 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 6
ตอนที่ 657 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 6
คนที่แฝงตัวอยู่ในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงมาเป็นเวลานานและยังสามารถไต่เต้าขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้นั้นเย่เชียนต้องบอกเลยว่าโย่วซวนนั้นมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาจริงๆแต่น่าเสียดายที่โย่วซวนไม่สามารถเป็นเพื่อนหรือมิตรสหายได้ ไม่เช่นนั้นเย่เชียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งโย่วซวนจะกลายเป็นผู้นำของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงได้และนั่นจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง
เกี่ยวกับการสงสัยและการตั้งคำถามของเหล่าผู้นำนั้นโย่วซวนก็ไม่ได้ประหม่าเลยและเห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเย่เชียนก็เชื่อว่าตั้งแต่โย่วซวนตัดสินใจที่จะโยนความผิดให้กับจ้าวไค่และกำจัดฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตนนั้นแน่นอนว่าโย่วซวนจะต้องเตรียมการมาก่อนแล้วเพราะคนฉลาดๆอย่างโย่วซวนนั้นจะไม่ต่อสู้กับความเสี่ยงโดยเด็ดขาด
“คุณซวนถ้าคุณไม่ชี้แจงให้ละเอียดกว่านี้ฉันเกรงว่าทุกคนคงจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน” เซี่ยตงไป่พูด
โย่วซวนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ผมในฐานะสมาชิกคนหนึ่งที่คอยสนับสนุนแก๊งฝูชิงของเรามาโดยตลอดเพราะงั้นผมก็เชื่อว่าทุกคนคงจะเห็นถึงความทุ่มเทและความภักดีของผมใช่ไหม?..ในประเด็นนี้คุณหนูเซี่ยคงไม่คัดค้านใช่หรือเปล่า?”
เซี่ยจือยี่พยักหน้าเบาๆโดยไม่พูดอะไรใดๆ ซึ่งเธอก็ยังคงเชื่อเพราะโย่วซวนได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงมาโดยตลอดและแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงคงจะไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากโย่วซวนคนนี้
“หลังจากที่ผมรู้เรื่องที่ท่าเรือแล้วผมก็เริ่มสอบสวนสมาชิกทุกคนที่รู้เรื่องนี้ในทันที..ซึ่งมีอยู่ไม่กี่คนรวมถึงหัวหน้าเซี่ยและคุณหนูเซี่ยและฉันที่รู้เรื่องนี้..ซึ่งหลังจากสอบสวนอย่างเคร่งครัดแล้วนอกจากผู้นำเขตจ้าวผมก็ไม่พบความผิดปกติจากสมาชิกคนอื่นๆเลย” โย่วซวนพูด “ยิ่งไปกว่านั้นผู้นำเขตจ้าวก็ได้ติดต่อกับแก๊งยามากุจิเมื่อเร็วๆนี้อย่างใกล้ชิด..ดังนั้นผู้นำเขตจ้าวก็ละเมิดกฎเหล็กแก๊งของ..ซึ่งไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆแก่เราแต่ยังเก็บซ่อนเรื่องนี้เอาไว้อีกด้วย..ผมได้ทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้นำเขตจ้าวเมื่อวันก่อนซึ่งมีประวัติรายรับประมาณหนึ่งล้านหยวน..ซึ่งเงินจำนวนนี้มาจากไหนก็ไม่ทราบและมันก็ตรวจสอบไม่ได้เพราะงั้นผมจึงคิดว่าผู้นำเขตจ้าวเป็นสายลับของสมาคมมังกรดำที่แฝงตัวเข้ามายังไงล่ะ”
“มันน่าตลกสิ้นดี..เรื่องแค่นี้คุณจะบอกว่าพ่อของผมเป็นสายอย่างงั้นหรอ?” จ้าวซินแสยะยิ้มอย่างเกรี้ยวกราดและพูดต่อ “ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของพ่อแต่ผมก็รู้ทุกอย่างที่เขาทำ..คุณจะบอกว่าพ่อของผมกับแก๊งยามากุจิใกล้ชิดกันอย่างงั้นหรอ..นั่นเป็นเพราะแก๊งยามากุจิพยายามหลอกล่อให้พ่อทำสิ่งต่างๆให้พวกเขาหลายครั้งแต่พ่อของผมก็ปฏิเสธ..ส่วนเหตุผลที่เขาไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้ออกมาพูดก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้มีปัญหา..เขาเคยบอกกับผมว่าเขาเป็นสมาชิกของแก๊งฝูชิงและชีวิตของเขาก็อุทิศให้กับแก๊งฝูชิงทั้งหมด..เขาไม่เคยร้องขออะไรเลยสักครั้งพวกคุณก็น่าจะรู้ดี..เพราะงั้นการที่คุณเห็นเขาอยู่กับคนของแก๊งยามากุจินั้นเขาต้องถูกมองว่าเป็นคนทรยศหรอ?..ถ้างั้นการที่คุณโย่วกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันนั้นผมเองก็มีสิทธิ์คิดได้ใช่ไหมว่าคุณโย่วเป็นสายลับที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมายังแก๊งฝูชิง?”
“หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผมคุณก็สามารถสอบสวนผมได้..ผมจะไม่ออกความคิดเห็นในประเด็นนี้” โย่วซวนพูด “เพราะงั้นผมจะยืนยันตามเดิมว่าผู้นำเขตจ้าวนั้นเป็นสาย..ผมจะพูดแบบนี้จนกว่าทุกคนจะเห็นข้อเท็จจริงอย่างช้าๆ..แต่ตอนนี้ผมคิดว่าคุณจ้าวซินกำลังพยายามกดดันผมเพราะงั้นผมขอถามหน่อยจะได้ไหมว่าเงินในบัญชีของผู้นำเขตจ้าวนั้นมาจากไหน?”
“ไร้สาระสิ้นดี!..เรื่องนี้มันก็เข้าใจได้ง่ายไม่ใช่หรอ..มันมีคนที่ต้องการใส่ร้ายป้ายสีพ่อของผมเพราะงั้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวพวกเขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของพ่อผมและจุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเพิ่มน้ำหนักในการชี้ตัวสายลับ..ทำไมคนฉลาดๆอย่างคุณโย่วถึงคิดไม่ออกกันล่ะ?” จ้าวซินพูดต่อ “ถ้าแบบนั้นเมื่อไหร่ที่เงินในบัญชีของคุณโย่วมีเงินล้านหยวนนั่นก็แสดงว่าคุณก็เป็นสายลับน่ะสิ?”
คำพูดของจ้าวซินนั้นรุนแรงและเดือดดาลอย่างมากจนโย่วซวนที่เตรียมตัวมาดียังรู้สึกประหลาดใจ ซึ่งการปรากฏตัวของจ้าวซินนั้นเป็นสิ่งที่โย่วซวนไม่คาดคิดมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นโย่วซวนเองก็ได้สั่งให้ลูกน้องของเขากำจัดจ้าวซินแล้วเช่นกันเพราะเขาต้องการถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นไป อย่างไรก็ตามเมื่อคนของเขาไปถึงมหาวิทยาลัยที่จ้าวซินกำลังศึกษาอยู่พวกเขาก็พบว่าจ้าวซินหลบหนีออกไปก่อนแล้ว
สิ่งนี้ทำให้โย่วซวนงุนงงอย่างมากเพราะเขาไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนบอกข่าวดังกล่าวให้แก่จ้าวซินเพราะถ้าตามความจริงล่ะก็จ้าวซินนั้นจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพ่อของเขาถูกฆ่าตายเร็วขนาดนี้แล้วรีบหลบหนีไปซ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
อันที่จริงเมื่อจ้าวซินโผล่เข้ามาในห้องประชุมเย่เชียนเองก็สงสัยเช่นกันเพราะถ้าเป็นเขาล่ะก็เขาจะฆ่าจ้าวซินด้วยอย่างแน่นอนและจะไม่ปล่อยให้จ้าวซินเข้ามาสร้างปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นโย่วซวนแล้วเขาก็ไม่โง่พอที่จะปล่อยจ้าวซินไปใช่ไหม ซึ่งการปรากฏตัวของจ้าวซินนั้นได้สร้างปัญหาให้กับโย่วซวนอย่างมากจนการเตรียมการก่อนหน้านี้ของโย่วซวนเริ่มยุ่งเหยิงไปหมด ดังนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าวผิดพลาดกับข้อเท็จจริงที่ว่าผู้นำเขตจ้าวเป็นสายลับของสมาคมมังกรดำแล้วล่ะก็โย่วซวนจะมุ่งความสนใจไปที่การกำจัดผู้นำต่างฝ่ายที่ไม่ลงรอยกันในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง แต่ทว่าในตอนนี้สถานการณ์มันกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เนื่องจากสถานะพิเศษของผู้นำเขตจ้าวที่มีต่อเซี่ยตงไป่นั้นโย่วซวนจึงไม่สามารถขับไล่จ้าวซินออกไปจากห้องประชุมแห่งนี้ได้เลยและเขาก็ไม่สามารถกดดันและข่มขู่จ้าวซินด้วยคำพูดได้ ยิ่งไปกว่านั้นหลักฐานทั้งหมดที่เขาพูดออกมานั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสิ่งที่โย่วซวนเนรมิตขึ้นมาเอง
อันที่จริงแล้วเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ก็คือการที่หมาป่าผีไป๋ฮวยเข้ามาแทรกแซงเพราะเขามักจะควบคุมหลายสิ่งอย่างก่อนที่ใครจะเคลื่อนไหวเสียอีก ซึ่งเมื่อโย่วซวนส่งคนไปจัดการกับจ้าวซินนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้พาตัวจ้าวซินหลบหนีออกมาจากมหาวิทยาลัยก่อนหน้านั้นแล้วและในวันนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็บอกให้จ้าวซินมาสร้างปัญหาในที่ประชุมและเขาก็ยังมอบบางสิ่งที่สำคัญมากให้กับจ้าวซินอีกด้วย
ในช่วงเช้าตรู่เมื่อเย่เชียนและหลินเฟิงออกจากโรงแรมนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่จ้าวซินหลบซ่อนอยู่และบอกจ้าวซินว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ดังนั้นเนื่องจากหมาป่าผีไป๋ฮวยวางแผนเอาไว้แล้วก็แน่นอนว่าเขาจะไม่ให้จ้าวซินเปิดเผยกลอุบายของโย่วซวนทันทีเพราะเขามีแผนบางอย่างซ่อนเอาไว้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะไม่ได้ปรากฏตัวออกมาก็ตามแต่เย่เชียนกับหลินเฟิงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยกำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพราะสำหรับหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วสมาชิกของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงจำนวนมากข้างนอกห้องประชุมนั้นก็เป็นเพียงหุ่นโชว์สำหรับการแสดง ดังนั้นการที่เขาจะเข้ามาโดยที่ไม่ทำให้คนเหล่านั้นรู้ตัวมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย
“คุณจ้าวค่อนข้างไร้เหตุผลไปหน่อย..ผมก็แค่จะชี้แจงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและไม่ได้จงใจที่จะมุ่งเป้าหรือโยนความผิดให้กับผู้นำเขตจ้าวเลย..ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ต้องการที่จะคิดว่าผู้นำเขตจ้าวเป็นสายลับหรอกแต่นี่มันเป็นความจริงเพราะงั้นถึงไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะโย่วซวนก็พูดว่า “เมื่อเรามองปัญหานั้นเราจะมองแค่แง่มุมเดียวไม่ได้เพราะเราต้องมองจากมุมที่แตกต่างและรวมสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันแล้วทุกอย่างก็จะชัดเจนขึ้นเอง”
“คุณโย่วสิ่งที่จ้าวซินพูดออกมานั้นก็สมเหตุสมผล..เพราะถ้าหากคุณไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้พวกเราก็ไม่เชื่อเหมือนกัน..คุณโย่วอย่าทำให้พวกเราสงสัยว่าคุณเป็นสายลับเสียเองสิเพราะการกระทำทั้งหมดของคุณเหมือนการพยายามปกปิดบางอย่างและพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงและมุ่งเป้าไปยังผู้นำเขตจ้าวอย่างเดียว..คุณเอาแต่โทษผู้นำเขตจ้าวอย่างเดียวโดยที่ไม่มีหลักฐานใดๆ” ชายร่างอ้วนพูด
คำพูดของชายร่างอ้วนนั้นก็ทำให้เหล่าผู้นำคนอื่นๆตกตะลึงและประหลาดใจอย่างมาก เพราะอันที่จริงแล้วเหล่าผู้นำต่างก็เห็นในสิ่งที่โย่วซวนทำเพื่อแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงมาโดยตลอดและมีความทะเยอทะยานอย่างมากดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยมองว่าโย่วซวนนั้นเป็นสายลับเลย
จ้าวซินก็เหลือบมองไปที่ชายร่างอ้วนด้วยความซาบซึ้งแล้วพูดว่า “ขอบคุณมากครับคุณลุงซานที่คุณยุติธรรมกับพ่อของผม..ผมน่ะได้พูดออกไปแล้วว่าผมไม่สนใจเรื่องภายในของแก๊งฝูชิงและผมก็ไม่อยากรู้ว่าใครเป็นสายลับตัวจริงเพราะผมแค่ต้องการทวงความยุติธรรมให้กับพ่อ..เพื่อให้พ่อของผมตายตาหลับสักที..ผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคนน่าจะรู้ดีกว่าใครๆว่าพ่อของผมนั้นเป็นยังไง..เอาล่ะคุณโย่วถ้าคุณสามารถแสดงหลักฐานที่ชี้วัดและยืนยันสิ่งต่างๆได้ผมก็จะขอบคุณเป็นอย่างมาก..โถ่พระเจ้าให้ตายเถอะ!..โปรดประทานความยุติธรรมแก่บิดาของข้าพเจ้าด้วยเถิด!”
“เอาล่ะๆ..จ้าวซินไม่ต้องกังวลไป..ทีนี้เรามาฟังคุณซวนกันต่อดีกว่า” เซี่ยตงไป่พูด ซึ่งเซี่ยตงไป่ค่อนข้างลำบากใจเพราะจ้าวซินนั้นเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณของเขาและชายคนนั้นก็เป็นพี่น้องที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาและเป็นดั่งมิตรสหายที่ไว้ใจได้อย่างมากที่สุดของเขาคนหนึ่ง เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วเซี่ยตงไป่ก็หันหน้าไปมองโย่วซวนแล้วพูดว่า “คุณได้ยินในสิ่งที่จ้าวซินและคุณซานพูดแล้วใช่ไหม..เนื่องจากทุกคนในที่นี้ต้องการดูหลักฐานที่ชี้วัดและสามารถยืนยันสิ่งต่างๆได้เพราะงั้นคุณก็ควรที่จะแสดงมันออกมาได้แล้ว..แต่ถ้าคุณไม่สามารถยืนยันได้ล่ะก็..เราก็ลืมเรื่องนี้ไปซะ!”
โย่วซวนก็พยักหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าผมมีหลักฐานและในเมื่อพวกคุณต้องการเห็นมันผมก็จะให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน..แต่เนื่องจากผู้นำเขตจ้าวได้ล่วงลับไปแล้วเพราะงั้นผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไรมาก..เพราะผมยังคงมีความรู้สึกเป็นพี่น้องและมิตรแท้กับผู้นำเขตจ้าว..อันที่จริงผมเองก็ตั้งใจที่จะดูแลจ้าวซินอย่างดีในอนาคต..แต่ทว่าในตอนนี้พวกคุณและจ้าวซินกลับยืนกรานว่าจะรู้ความจริงให้ได้เพราะงั้นผมคงต้องทำแบบนี้จริงๆสินะ”
เมื่อคำพูดของโย่วซวนดังออกมาจากปากของเขาแล้วเย่เชียนก็ตกตะลึงอย่างมากและเขาก็ต้องการดูว่าโย่วซวนนั้นจะมีหลักฐานประเภทใดและโย่วซวนจะใส่ร้ายป้ายสีจ้าวไค่อย่างไร
เมื่อคำพูดของโย่วซวนจบลงโย่วซวนก็หันหน้าไปมองสมาชิกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงคนหนึ่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบรับและเดินไปที่ห้องโถงด้านใน “กรุณารอสักครู่!” โย่วซวนพูด
ในขณะที่พวกเขาประชุมกันอยู่นั้นมันก็มีการต่อสู้อยู่ในห้องโถงแห่งนี้อย่างลับๆและมีบางอย่างเกิดขึ้นในห้องโถงแต่ทว่าก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยสักคน
ในห้องโถงด้านในนั้นสมาชิกของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงก็มองดูชายหนุ่มที่กำลังเต็มไปด้วยความโกรธบนใบหน้าของพวกเขา ซึ่งชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าขาดๆและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยรอยแผลสดๆและมุมปากของเขาก็มีเลือดออก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องเจ็บปวดทรมานจากการต่อสู้อันหนักหน่วงและนี่ก็คือนักฆ่าของโย่วซวนที่ซ่อนเอาไว้และเป็นนักฆ่าที่โย่วซวนจะไม่ใช้จนกว่าสิ่งต่างๆจะเป็นทางเลือกสุดท้ายและสถานการณ์ในตอนนี้ก็ถูกบังคับให้โย่วซวนต้องทำสิ่งนี้แล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.