ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 734 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 7
ตอนที่ 734 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 7
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายคนนั้นพูดแต่เขาก็รู้ดีว่านั่นต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรแต่มันก็ไม่สำคัญเพราะผมจะทรมานคุณอย่างช้าๆ”
เมื่อเย่เชียนพูดจบเขาก็ใช้คว้ามีดคลื่นโลหิตออกมาและแทงเข้าไปที่ต้นขาของอีกฝ่ายและเลือดก็พุ่งออกมาในทันที จากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่ชิงเฟิงแล้วพูดว่า “ชิงเฟิงห้ามเลือดให้มันซะ..ฉันยังไม่อยากให้มันตายในตอนนี้”
ชิงเฟิงก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ผมไม่มีผ้าพันแผลเลยบอส!..แต่ผมมีวิธีที่จะห้ามเลือดอยู่” หลังจากพูดจบชิงเฟิงก็หยิบท่อนไม้ขึ้นมาแล้วจุดไฟจากนั้นก็ยื่นให้เย่เชียน
หลังจากนั้นเย่เชียนก็รับมาและจ่อท่อนไม้เอาไว้ที่บาดแผลของชายคนนั้นในทันที ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง “จื่อ..จื่อ..” และมีกลิ่นของเนื้อไหม้ๆลอยขึ้นมา ซึ่งมันทำให้คนที่เห็นต่างก็รู้สึกทนไม่ไหวและคลื่นไส้อยู่ ส่วนชายหนุ่มนั้นก็ตะโกนด้วยความเจ็บปวดและร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้
จากนั้นเย่เชียนก็ใช้มีดแทงลงไปอีกครั้งและใช้ไม้ที่ติดไฟจี่ลงไปอีกครั้งเรื่อยๆเพื่อเปิดบาดแผลและห้ามเลือดอีกครั้ง ซึ่งหลังจากทำวนไป 20 ครั้งชายหนุ่มก็เสียเลือดจนอ่อนล้าและไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะแสดงความโกรธเกรี้ยว เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ค่อยๆยืดตัวและพูดว่า “ถอดเสื้อผ้าพวกมันออกและเทน้ำใส่พวกมันซะ..จากนั้นก็แขวนเอาไว้หน้ากรมตำรวจโตเกียว..ด้วยสภาพอากาศแบบนี้พวกมันจะต้องแข็งเป็นไอติมอย่างแน่นอน..เขาต้องได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ ใส่หลอดไม้ไผ่เข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ของเขา และปล่อยให้เลือดของเขาล้างบาปของเขา”
ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บนั้นการทรมานเช่นนี้ช่างเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งการเทน้ำใส่ร่างคนนั้นมันจะสามารถทำให้ร่างของคนๆนั้นแข็งตัวเป็นก้อนน้ำแข็งภายในเวลาไม่ถึงนาที เมื่อได้ยินคำสั่งของเย่เชียนเหล่าสมาชิกของหน่วยกรงเล็บหมาป่าก็รับทราบและนำร่างของผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ออกไป จากนั้นพวกเขาก็ใช้น้ำสาดใส่เหล่าผู้ก่อการร้ายและคนเหล่านี้ก็ทำได้เพียงแค่มองดูร่างกายของตัวเองค่อยๆแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง
ในห้องนั้นเหลือเพียงเย่เชียน,ชิงเฟิงและดีห์ราห์เท่านั้น ซึ่งเย่เชียนก็หันไปมองที่ดีห์ราห์และพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “นายรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้นายทำอะไรลงไป?..ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้นายทำตามคำสั่งของคุณนากาซาวะชินนะ..ทำไมนายถึงวิ่งออกไปก่อน?..นายรู้ไหมว่าการกระทำของนายจะนำไปสู่ความล้มเหลวของแผนการทั้งหมดและมันอาจจะทำให้พี่น้องของฉันเสี่ยงชีวิต..ไม่ว่านายจะมั่นใจในตัวเองมากแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญ..จงจำเอาไว้ว่าตอนนี้นายติดตามฉันแล้วเพราะงั้นนายต้องปฏิบัติตามกฎของเรา..ถึงแม้ว่าฉันจะชื่นชอบในตัวนายแต่ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อล่ะก็ฉันจะไม่สนใจนายอีกต่อไป..พี่น้องของฉันมากมายเสียสละไปเพื่อแผนการในครั้งนี้เพราะงั้นนายจะอยู่หรือจะไปก็ตัดสินใจเอาเอง”
ทัศนคติของเย่เชียนนั้นจริงจังมากและไม่มีที่ว่างให้ต่อรองเลยแม้แต่น้อย ซึ่งบางทีเย่เชียนอาจเป็นคนง่ายๆในเรื่องอื่นแต่สำหรับเรื่องชีวิตของพี่น้องแล้วเย่เชียนจะไม่มีวันเพิกเฉยเลยแม้แต่น้อย เย่เชียนนั้นไม่ต้องการให้การตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาที่รับคนไร้ประโยชน์มาทำให้พี่น้องคนอื่นๆเสี่ยง พูดง่ายๆคือวันนี้ไม่มีสมาชิกของหน่วยกรงเล็บหมาป่าเสียชีวิตแต่อย่างใดและมีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยไม่เช่นนั้นเย่เชียนคงไม่ปล่อยดีห์ราห์ไปอย่างแน่นอน
ดีห์ราห์ก็ถึงกับตกตะลึงและสับสนในใจเพราะเขากำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของเย่เชียนและคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวเอง เมื่อเห็นเย่เชียนและชิงเฟิงเดินออกไปด้านนอกโดยไม่หันกลับมามองดีห์ราห์ก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “ผมขอโทษ..สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นความผิดของผมเอง..เชิญคุณลงโทษผมตามกฎได้เลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็หยุดเดินและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจแล้วพูดว่า “มาเถอะ” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็เดินออกไป
ชิงเฟิงก็ฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและจงใจเดินอย่างช้าๆและเมื่อดีห์ราห์เดินมาถึงที่ด้านข้างของเขาชิงเฟิงก็โอบไหล่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายนี่โชคดีจริงๆ..ถ้าเป็นฉันล่ะก็บอสคงไม่ปล่อยไปแบบนี้อย่างแน่นอน..แต่ก็นะอย่าไปโทษบอสเลยเพราะทุกๆองค์กรหรือสถาบันไหนๆก็จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์และเราก็มีกฎเพียงข้อเดียวและนั่นคือการปฏิบัติตามกองบัญชาการเชิงทหาร”
ดีห์ราห์ก็พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรใดๆต่อ
เมื่อกรมตำรวจโตเกียวเปิดทำการพวกเขาก็เห็นร่างเปลือยที่แขวนอยู่หน้าประตูโดยร่างมนุษย์แต่ละร่างต่างก็เป็นก้อนน้ำแข็งหนาๆที่ก่อตัวขึ้นบนร่างกายของพวกเขาและมีเลือดเปื้อนอยู่บนพื้นอย่างน่าหวาดผวา ฉากนี้ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจโตเกียวต่างก็ตื่นตระหนกตกใจ อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตนเลยแม้แต่น้อยและไม่มีหลักฐานเหลือพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนทำ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่วุ่นวายสำหรับพวกเขาอย่างมาก
ตัดภาพมายังเย่เชียนเนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะออกจากประเทศญี่ปุ่นดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีเกี่ยวกับการจัดการชิบะโชโกะเพราะเธอเป็นลูกสาวของชิบะชิเงโอะรองหัวหน้าของสมาคมมังกรดำ ซึ่งเดิมทีเย่เชียนต้องการใช้เธอเป็นเครื่องต่อรองกับสมาคมมังกรดำแต่ตอนนี้ด้วยปัญหาความล่าช้าของแผนการทำให้สิ่งต่างๆต้องหยุดชะงัก ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ดี
การฆ่าเธอนั้นเป็นเรื่องง่ายอย่างมากแต่ก็ไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าไม่ฆ่าเธอและปล่อยเธอไปมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรนัก ซึ่งนี่จะทำให้สมาคมมังกรดำคิดว่าเย่เชียนกลัวพวกเขา อย่างไรก็ตามเนื่องจากเย่เชียนจะต้องออกจากประเทศญี่ปุ่นดังนั้นเขาจึงไม่สามารถนำตัวชิบะโชโกะออกไปด้วยได้และไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันจะไปดึงดูดความสนใจของสมาคมมังกรดำเลยเพราะการจะลักพาตัวคนกลับไปยังประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก
เมื่อเย่เชียนมาถึงสถานที่ที่ชิบะโชโกะถูกกักขังเอาไว้และทันทีที่เย่เชียนเดินเข้าไปเย่เชียนก็ต้องตกใจไปกับฉากตรงหน้าเขาเพราะเห็นหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินกำลังนั่งอยู่อย่างสบายๆโดยมีชิบะโชโกะนั่งอยู่ข้างๆและยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเฝ้ามองหลิวเทียนเฉินโดยไม่มีการต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
ตามความเข้าใจก่อนหน้านี้ของเย่เชียนเกี่ยวกับชิบะโชโกะนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอย่างชิบะโชโกะที่ได้รับการฝึกฝนเป็นนินจามาตั้งแต่เด็กจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เพราะความเย่อหยิ่งและควาทะนงตัวของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ยากจะเปลี่ยนแปลงได้
ไม่เพียงแค่ชิงเฟิงเท่านั้นเพราะแม้แต่ชิงเฟิงเองก็ถึงกับตกตะลึงเช่นกันและเขาก็มองไปที่เย่เชียนอย่างว่างเปล่าและพูดว่า “บอส!..พี่หลิวเทียนเฉินเขาทำให้ผู้หญิงคนนี้เชื่อฟังได้ยังไง?”
เย่เชียนก็ยักไหล่ด้วยความงุนงง
เมื่อเห็นเย่เชียนเข้ามาหลิวเทียนเฉินก็รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพทางทหาร “บอส!” ด้วยใบหน้าที่ขมขื่นและเมื่อเขามองไปที่ชิบะโชโกะที่ไม่ทำความเคารพเย่เชียนเขาจึงจ้องมองไปที่เธออย่างขุ่นเคือง เมื่อเห็นเช่นนั้นชิบะโชโกะก็รีบทำความเคารพตาม “สวัสดีค่ะบอส!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ยิ่งงุนงงมากกว่าเดิมและมองไปที่หลิวเทียนเฉินกับชิบะโชโกะด้วยความประหลาดใจและไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เป็นไปได้ไหมที่หลิวเทียนเฉินวางยาพิษผู้หญิงคนนี้และข่มขู่เธอ? “พี่เทียนเฉินมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”
การแสดงออกของหลิวเทียนเฉินก็เปลี่ยนไปและเขาก็พูดด้วยความประหม่าว่า “บอส..คือ..” จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “บอส!..เชิญบอสลงโทษฉันตามกฎได้เลย” เมื่อเห็นหลิวเทียนเฉินคุกเข่าลงเช่นนี้ชิบะโชโกะก็คุกเข่าตามซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจริงๆและทำให้เย่เชียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็รีบก้าวไปข้างหน้าและพยุงหลิวเทียนเฉินขึ้นมาแล้วพูดว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น..ทำไมผมต้องลงโทษคุณด้วย?”
หลิวเทียนเฉินก็สับสนอยู่ครู่หนึ่งเพราะเขานั้นเล่นกับพิษและสารเคมีมาตลอดชีวิตแต่เขากลับโดนแมลงพิษโจมตีซึ่งทำให้เขารู้สึกสูญเสียอย่างมาก ซึ่งเย่เชียนก็เห็นว่าหลิวเทียนเฉินนั้นไม่หวาดระแวงชิบะโชโกะเลยและยิ่งไปกว่านั้นเขากลับไม่จับเธอมัดเอาไว้แต่อย่างใด ดูเหมือนว่าหลิวเทียนเฉินจะมั่นใจอย่างมากว่าต่อให้เขาไม่จับเธอขังเอาไว้แต่ชิบะโชโกะก็ไม่คิดที่จะตลบหลังเขาอยู่ดี
ยกเว้นตอนที่หลิวเทียนเฉินเข้านอนเท่านั้นที่เขาจะขังเธอเอาไว้ตอนกลางคืน นอกจากนั้นเธอก็อยู่ด้วยกันกับเขาเกือบตลอดเวลาและแน่นอนว่าหลิวเทียนเฉินจะไม่ละทิ้งการค้นคว้าเกี่ยวกับพิษอย่างต่อเนื่องและเขาก็กำลังศึกษาพิษทุกชนิดที่นี่ทุกวันโดยมีชิบะโชโกะทดลองด้วยอยู่ใกล้ๆและดูเหมือนเธอจะสนใจทักษะการผสมสารเคมีและพิษของหลิวเทียนเฉินอย่างมากจนเธอเริ่มเปิดใจและใจอ่อน ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งเธอก็มักจะพูดคุยกับหลิวเทียนเฉินเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
แต่ทว่าหลิวเทียนเฉินนั้นไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะถูกแมลงพิษโจมตีตอนที่กำลังศึกษาพิษของมัน ซึ่งหลิวเทียนเฉินนั้นโดนพิษของมันโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะกำลังสกัดผิดออกจากมันเป็นผลทำให้เขาโดนพิษและทำให้หัวใจเต้นแรงและเลือดสูบฉีดไม่ปกติจนอดีนาลีนของเขาหลั่งออกมาอย่างไม่หยุดยั้งจนทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศพลุ่งพล่าน ซึ่งถ้าหากไม่ระบายอารมณ์ทางเพศโดยเร็วที่สุดชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าบุคลิกของหลิวเทียนเฉินจะเป็นคนที่แปลกแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ด้อยกว่าสัตว์ร้ายและเขาก็อดทนกับมันด้วยกำลังทั้งหมดของเขาและไม่แตะต้องชิบะโชโกะเลย
ชิบะโชโกะที่เชี่ยวชาญด้านพิษเช่นกันเมื่อเธอเห็นอาการของหลิวเทียนเฉินแล้วนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอที่จะหลบหนีไปแต่เธอไม่ได้ทำอย่างนั้นเพราะเธอกลับถอดเสื้อผ้าของเธอออกและช่วยระบายอารมณ์ทางเพศเพื่อกำจัดพิษในร่างกายของหลิวเทียนเฉินแทน
หลังจากฟังคำพูดของหลิวเทียนเฉินแล้วเย่เชียนก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีแต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้วนี่อาจเป็นผลลัพธ์ที่ดีเพราะเย่เชียนก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะทำอย่างไรกับชิบะโชโกะดี แต่เย่เชียนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังหลอกใช้หลิวเทียนเฉินอยู่หรือเปล่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็มองไปที่ชิบะโชโกะแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าจะเคร่งครัดในกฎระเบียบแต่เรื่องแบบนี้มันก็ห้ามไม่ได้..ตอนนี้คุณมีความสัมพันธ์กับพี่เทียนเฉินแล้วเพราะงั้นคุณจะเลือกอยู่กับเขาหรือเปล่ามันก็แล้วแต่คุณ..แต่ผมมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนคุณเพราะถ้าคุณต้องการหักหลังและหลอกใช้พี่เทียนเฉินเพื่อขุดขุ้ยข้อมูลของเขี้ยวหมาป่าของพวกเราล่ะก็ผมจะทำให้คุณแย่ยิ่งกว่าการเจอความตาย!”