ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 735 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 8
ตอนที่ 735 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 8
เรื่องนี้เกินความคาดหมายของเย่เชียนไปมากแต่เขาก็ยังไม่ชัดเจนว่าดีหรือไม่ดีกันแน่ แต่อย่างน้อยๆในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีก็ข้อดีมากกว่าข้อเสียเพราะถึงแม้ว่าหลิวเทียนเฉินจะเป็นที่มีบุคลิกแปลกๆแต่เขาก็เป็นคนที่ติดตามเย่เชียนมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นเย่เชียนจึงเข้าใจในตัวเขาและในฐานะผู้นำที่มีคุณสมบัติเย่เชียนก็ต้องเข้าใจผู้ใต้บังคับบัญชาและเข้าใจบุคลิกและนิ่สัยของพวกเขาอย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่าหลิวเทียนเฉินจะมีบุคลิกที่วิปริตและแปลกประหลาดแต่แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่มีมนุษยธรรมอย่างมาก ดังนั้นเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างเขากับชิบะโชโกะแล้วแน่นอนว่าหลิวเทียนเฉินจะไม่เพิกเฉยซึ่งจุดนี้ต่างไปจากหลี่เหว่ยกับชิงเฟิงอย่างมากเพราะหากเป็นพวกเขาทั้งสองล่ะก็พวกเขาจะไม่มีความรับผิดชอบใดๆต่อบรรดาผู้หญิงที่พวกเขาหลับนอนด้วย อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่เย่เชียนชัดเจนมากว่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าทุกคนรวมทั้งหลิวเทียนเฉินต่างก็มีความภักดีต่อองค์กรอย่างมาก ดังนั้นถ้าหากวันหนึ่งชิบะโชโกะคุกคามและเป็นอันตรายต่อเขี้ยวหมาป้าล่ะก็เย่เชียนก็เชื่อว่าหลิวเทียนเฉินจะต้องยืนอยู่ข้างเขี้ยวหมาป่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ในฐานะผู้นำขององค์กรแล้วเย่เชียนก็มีความลำบากใจเช่นกัน เพราะเย่เชียนต้องใช้อารมณ์และทัศนคติที่เป็นกลาง ซึ่งเย่เชียนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมชิบะโชโกะถึงไม่หลบหนีไปแต่หลับเลือกช่วยเหลือหลิวเทียนเฉิน แต่เย่เชียนก็ไม่เชื่อเธอเพียงเพราะการกระทำของเธอเพราะมันเป็นการยากที่จะรับประกันว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่หักหลังและไม่มีแผนการแฝงอื่นใด
“หืม..อย่าได้คิดที่จะหักหลังเชียว” ชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็หันไปหาหลิวเทียนเฉินและพูดเบาๆว่า “เป็นยังไงบ้าง..เธอทำได้ดีหรือเปล่า?”
หลิวเทียนเฉินก็ถอนหายใจเบสๆและไม่สนใจชิงเฟิงอีกต่อไป จากนั้นเขาก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “บอส!..มีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกบอส..อันที่จริงโชโกะไม่ใช่แค่ลูกสาวของชิบะชิเงโอะแต่เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรชาโด้ซากุระด้วย”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วและมองชิบะโชโกะด้วยความประหลาดใจเพราะเมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ก่อนหน้าในสำนักนินจาอิงะแล้วเห็นได้ชัดว่าองค์กรชาโด้ซากุระเป็นองค์กรที่แตกต่างจากสมาคมมังกรดำอย่างมากและยังมีข้อขัดแย้งระหว่างสองคง์กรนี้อยู่ ดังนั้นการที่ชิบะโชโกะที่เป็นลูกสาวของชิบะชิเงโอะรองหัวหน้าสมาคมมังกรดำแล้วเธอล่ะอยู่ฝ่ายไหนกันแน่? สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆและความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังเหล่านี้ก็ซับซ้อนอย่างมากซึ่งทำให้ทุกคนสับสนอย่างมาก
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลามาพิจารณาสิ่งเหล่านี้แล้วเพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาไว้ค่อยว่ากันทีหลังเพราะเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำในตอนนี้” จากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่ชิบะโชโกะแล้วถามว่า “คุณชิบะโชโกะแผนของคุณในตอนนี้คืออะไร?..คุณจะกลับไปที่สมาคมมังกรดำหรือองค์กรชาโด้ซากุระ?”
“ตั้งแต่ฉันอยู่กับเทียนเฉินฉันก็จะตามเขาไปทุกที่ที่เขาไป” ชิบะโชโกะพูด “พวกเราองค์กรชาโด้ซากุระมีกฎและคุณก็คงจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน..เพราะงั้นชีวิตของฉันตอนนี้มอบให้เทียนเฉินและฉันจะภักดีต่อเขาตลอดชีวิต”
สำหรับกฎเหล็กขององค์กรชาโด้ซากุระนั้นเย่เชียนก็ได้ยินมาบ้าง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มันก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นและไม่ชัดเจนเลยว่ามันจะจริงหรือเท็จกันแน่ ซึ่งกฎที่ว่าตราบใดที่มีผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถทำให้พวกเธอมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งได้ล่ะก็พวกเธอจะต้องจงรักภักดีต่อผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิตและห้ามทรยศนั้นมันจริงหรือเปล่า?
ชิงเฟิงก็เหลือบไปมองชิบะโชโกะจากนั้นก็มองไปที่เย่เชียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอส!..ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเราก็อาจจะสามารถยึดครององค์กรชาโด้ซากุระได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อก็ได้นะ”
เย่เชียนก็จ้องเขม็งไปที่ชิงเฟิงแล้วพูดว่า “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ” อย่างที่ไป๋ฮวยพูดถึงแม้ว่าองค์กรชาโด้ซากุระจะมีกฎเกณฑ์เช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอทุกคนจะสามารถทำได้และไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเธอนั้นมีเสน่ห์มากแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นเพียงคำถามที่ว่าพวกเธอสามารถเปลี่ยนไปเป็นเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปได้หรือไม่เมื่ออยู่บนเตียง? ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงด้านเดียวของชิบะโชโกะดังนั้นเย่เชียนจะไม่มีวันเชื่ออย่างง่ายดายเช่นนี้
จากนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่หลิวเทียนเฉินแล้วถามว่า “แล้วพี่เทียนเฉินล่ะว่าไง?”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบอส!” หลิวเทียนเฉินพูด
“ก็ตามนั้น!” เย่เชียนก็พยักหน้าจากนั้นก็หันไปมองชิบะโชโกะแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณเป็นสมาชิกขององค์กรชาโด้ซากุระและคุณก็เป็นลูกสาวของชิบะชิเงโอะรองหัวหน้าสมาคมมังกรดำ..เพราะงั้นผมจึงอยากรู้ว่าคุณอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?”
“ถ้าบอสอยากรู้ฉันก็จะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง..ฉันเป็นสมาชิกขององค์กรชาโด้ซากุระและฉันก็ภักดีต่อองค์กรอย่างมาก..ซึ่งจุดประสงค์ของฉันก็คือการแฝงตัวเข้าไปในสมาคมมังกรดำเพื่อล้วงข้อมูลที่สำคัญจากนั้นก็ทำลายสมาคมมังกรดำให้หายออกไปจากโลกใบนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณพูดเองว่าคุณได้จงรักภักดีต่อเทียนเฉินแล้วเพราะงั้นผมจึงมีบางอย่างที่อยากให้คุณทำ..ไม่ทราบว่าคุณจะยอมทำหรือเปล่า?”
“คุณเป็นผู้นำของเทียนเฉินเพราะงั้นคุณก็เป็นผู้นำของฉันด้วยเหมือนกัน..ด้วยเหตุนี้ฉันจะทำทุกอย่างที่คุณสั่งและมอบหมายให้ฉัน”
“ดี!” เย่เชียนพูดต่อ “ผมต้องการให้คุณกลับไปที่สมาคมมังกรดำและเฝ้าสังเกตการณ์ทุกย่างก้าวของสมาคมมังกรดำ..และคอยรายงานรายทุกอย่างเกี่ยวกับสมาคมมังกรดำและองค์กรชาโด้ซากุระอย่างละเอียด..ถ้าหากมีการเคลื่อนไหวใดๆคุณต้องรีบแจ้งให้ผมทราบโดยเร็วที่สุด..พูดง่ายๆก็คือผมจะให้คุณเป็นสายลับสองหน้า..คุณมีปัญหาอะไรมั้ย?”
“ไม่มีค่ะบอส” ชิบะโชโกะ
เหตุผลที่เย่เชียนทำเช่นนี้ก็เพื่อทดสอบความภักดีของชิบะโชโกะและประเด็นที่สองก็เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลไปเพราะเธอไม่จงรักภักดีต่อหลิวเทียนเฉิน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเพราะถ้าหากชิบะโชโกะทำอย่างที่เธอพูดจริงๆเธอจะช่วยสิ่งต่างๆได้มากมายในอนาคต
“พี่เทียนเฉิน..พี่คิดว่าข้อตกลงนี้เหมาะสมหรือเปล่า?” เย่เชียนถาม
“บอสว่าไงฉันก็ว่าตามนั้น” หลิวเทียนเฉินพูด
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้างั้นก็เอาตามนี้..คุณชิบะโชโกะผมหวังว่าคุณจะไม่ทำให้เราผิดหวัง..แต่การเป็นสายลับสองหน้านั้นอันตรายมากเพราะงั้นคุณต้องใส่ใจกับความปลอดภัยของคุณเป็นหลัก..หลังจากนี้ไปชิงเฟิงจะเป็นคนติดต่อประสานงานกับคุณและข้อมูลทั้งหมดของคุณจะต้องรายงานไปยังเขาโดยตรงและเขาก็จะส่งต่อให้ผม..ส่วนพรุ่งนี้เช้าผมกับพี่เทียนเฉินจะออกจากประเทศญี่ปุ่นไป..เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็กลับไปทำหน้าที่สายลับได้เลย”
“บอสผมขอไปด้วยได้มั้ย?..ผมไม่อยากอยู่ที่นี่เลย” ชิงเฟิงพูดอย่างหดหู่เพราะนี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตและชิงเฟิงก็ไม่อยากพลาดช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ไป
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วและมองไปที่ชิงเฟิงจากนั้นก็พูดว่า “ประเทศญี่ปุ่นต้องการคนซึ่งถ้าหากพวกเราไปกันหมดแล้วใครจะอยู่ดูแลที่นี่?..นอกจากนี้สถานการณ์ที่นี่ก็วุ่นวายมากและนายต้องร่วมมือกับหวงเฟิงเพื่อคอยคุ้มกันพี่หลัน..เพราะงั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอฉันจะฆ่านาย”
เมื่อเห็นว่าเย่เชียนเริ่มไม่สบอารมณ์เช่นนี้ชิงเฟิงก็แลบลิ้นออกมาเล็กน้อยและปิดปากของเขาไปอย่างเร่งรีบและไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็เพราะว่าสมาชิกของหน่วยกรงเล็บหมาป่าคุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นมากที่สุดและถึงแม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตามพวกเธอก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เย่เชียนก็รู้สึกไม่สบายใจจริงๆถ้าหากซ่งหลันยังอยู่ที่นี่แต่ทว่าซ่งหลันก็ได้ตัดสินใจแล้วดังนั้นเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดเตรียมมาตรการป้องกันให้เข้มงวด
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็เดินทางบินกลับไปประเทศจีนโดยเครื่องบินพร้อมๆกับหลิวเทียนเฉิน,ม่อหลงและดีห์ราห์ ซึ่งหลังจากลงจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติผู่ตงแล้วเย่เชียนก็แทบจะไม่หยุดพักเลยเพราะเขาติดต่อไปหาแจ็คโดยตรงและบอกให้แจ็คจัดหาเรือเพื่อออกเรือไปหากลุ่มโจรสลัดซาตานโดยด่วน จากนั้นเขาก็ขึ้นเรือและออกจากประเทศจีนไปในทันที
เวลามันก็ผ่านพ้นไปเรื่อยๆดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องการล่าช้าเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นหลังจากกลับมาที่เมืองเซี่ยงไฮ้แล้วเย่เชียนก็ไม่มีเวลากลับไปหาฉินหยูหรือหลิวโรวโร่วเลยเพราะเขาเลือกที่จะขึ้นเรือและจากไปในทันที
แจ็คจัดการทุกอย่างตามลำดับ ซึ่งเมื่อวานนี้แจ็คได้จัดบุคลากรของบริษัทไอร่อนบลัดขึ้นเรือเพื่อส่งไปประจำการยังฐานทัพเรือของไอร่อนบลัด ดังนั้นแจ็คเองก็ไม่ได้พักผ่อนเลยเพราะคราวนี้แผนการต่างๆอันตรายอย่างมากและเขาก็ต้องเตรียมการอย่างระมัดระวัง ซึ่งถึงแม้ว่าการสูญเสียจะเป็นสิ่งสำคัญแต่วิธีการลดการสูญเสียให้น้อยที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องพิจารณามากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ให้อำนาจแจ็คอย่างเต็มที่ในการบัญชาการปฏิบัติการครั้งนี้ ดังนั้นการเตรียมบุคลากรทั้งหมดล้วนกำหนดโดยแจ็ค ซึ่งเย่เชียนนั้นมีแค่คำสั่งเดียวที่มอบให้และนั่นคือการทำให้ประเทศญี่ปุ่นวุ่นวายและยิ่งวุ่นวายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นแจ็คจำเป็นต้องเข้าใจภูมิประเทศของประเทศญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์แบบและจุดยุทธศาสตร์ต่างๆรวมไปถึงวิธีการจัดการและมอบหมายงาน ซึ่งแจ็คนั้นจำเป็นต้องติดต่อประสานงานกับกองกำลังอื่นๆเพราะศึกครั้งนี้สมาชิกของเขี้ยวหมาป่ากับบุคลากรจากบริษัทไอร่อนบลัดมันไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีคนของคูลอฟส์อังเดร,หวังหู,หม่าซานเหอ ที่กล่าวมาทั้งหมดคือกองกำลังทั้งหมดที่จงรักภักดีอย่างยิ่งและสามารถติดต่อและบัญชาการได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้แจ็คต้องวางแผนในการบัญชาการพวกเขาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เย่เชียนไม่คิดว่าสถานการณ์มันจะพัฒนาไปเช่นนี้และเขาคิดว่าเขาสามารถต่อสู้กับเหล่าเขี้ยวหมาป่าตามลำพังเพียงองค์กรเดียวได้ แต่ทว่าทั้งหมดทั้งมวลดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนอื่น
ในตอนกลางคืนเย่เชียนกับหลิวเทียนเฉินและม่อหลงได้ขึ้นเรือด้วยกันเพื่อไปยังฐานทัพเรือไอร่อนบลัด ซึ่งนี่คือเรือส่งสินค้าซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าภายใต้บริษัทเครือน่านฟ้ากรุ๊ป ดังนั้นจึงสามารถปกปิดตัวตนได้ดีและจะไม่ทำให้เกิดความสงสัยจ่ายฝ่ายต่างๆ
เมื่อเผชิญกับคลื่นของทะเลอารมณ์ของเย่เชียนก็พลุ่งพล่านราวกับคลื่นและเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้ ซึ่งเย่เชียนไม่รู้เลยว่าคราวนี้เขาตัดสินใจถูกหรือผิดแต่ทว่าถึงยังไงเขาก็ต้องทำอยู่ดี ต่อให้คนอื่นจะมองเขาเป็นคนเลวก็ตามแต่เขาก็ต้องทำมันเพราะนี่คือกฎของการต่อสู้และเย่เชียนก็จะไม่มีวันยอมแพ้