ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 811 ความรู้สึกของหวงฟู่ชิงเตี๋ยน
ตอนที่ 811 ความรู้สึกของหวงฟู่ชิงเตี๋ยน
เมื่อได้ยินเรื่องราวของหยานซื่อฉุยแล้วเย่เชียนก็รู้สึกว่าเธอก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารและเมื่อเทียบกับเธอแล้วเย่เชียนรู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดีกว่าเธอ ถึงแม้ว่าเขาจะถูกพ่อแม่และครอบครัวทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็กแต่ก็ยังมีชายชราคนหนึ่งมาคอยดูแลเขาและรับเลี้ยงเขา ซึ่งต่อมาก็มีกลุ่มพี่น้องจากองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าดังนั้นช่วงหลังมานี้เย่เชียนก็ไม่เคยเหงา แต่สำหรับหยานซื่อฉุยแล้วถึงแม้ว่าเธอจะเกิดมามีครอบครัวและอยู่กับพ่อแม่ของเธอแต่ชีวิตของเธอก็น่าสังเวชอย่างยิ่ง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอมีจิตที่ผิดปกติเหมือนทุกวันนี้
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็รู้ดีว่าเขาไม่มีทางเป็นเพื่อนกับหยานซื่อฉุยได้เว้นแต่เธอจะถอนตัวจากการต่อสู้ระหว่างม่อหลงกับสำนักม่อจื๊อในอนาคต ไม่เช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และทำไมเขาต้องคิดมากเพราะตอนนี้เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยานซื่อฉุยเลยแล้วทำไมเขาต้องกังวลด้วย
“อย่าไปพูดถึงเธอเลย..ว่าแต่พี่หลินถ้าหากพี่มีข่าวหลินฟานพี่ต้องโทรมาบอกผมด้วยนะ” เย่เชียนพูด “ผมไม่ได้เจอเด็กคนนั้นมานานแล้ว..ผมเองก็อยากรู้จริงๆว่าหลินฟานเป็นยังไงบ้าง”
“อย่ากังวลไปเลยถ้าฉันพบเขานายจะเป็นคนแรกที่ฉันโทรหา” หลินเฟิงพูด “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยเพราะผู้อำนวยการหวงฟู่บอกว่านายจะมาที่ปักกิ่งในเช้าวันนี้..ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายจะมาเพราะฉันเคยบอกนายไปแล้วว่าปักกิ่งเป็นสถานที่ของมังกรซ่อนเขี้ยวและเสือซ่อนเล็บ..ก่อนหน้านี้นายคงจะไม่มาโดยปราศจากความมั่นใจแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจแล้ว”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “โถ่!..มั่นใจอะไรกัน..เมื่อกี้พี่ไม่เห็นหรอว่าผมยังเอาชนะผู้หญิงไม่ได้เลย..ครั้งนี้ที่ผมมาที่ปักกิ่งก็แค่มาส่งจดหมาย..แต่ก็ยังมีคำถามอยู่ว่าผมจะรอดกลับไปได้หรือเปล่า”
หลินเฟิงเองก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “มันจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ?..ส่งจดหมายถึงใคร?..มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย..ถ้ามีก็อย่าเกรงใจบอกกับฉันมาได้เลย”
“ขอบคุณมาก..แต่เรื่องนี้พี่หลินคงช่วยอะไรไม่ได้..มีคนไปเยอะเกินไปก็ไม่ดีเพราะมันอาจทำให้เธอคิดว่าผมจงใจยั่วยุ..นอกจากนี้พี่หลินยังต้องออกตามสืบข้อมูลตามหาหลินฟานอีก..เรื่องนี้มันไม่สามารถล่าช้าได้เลยเพราะงั้นพี่ไปทำธุระของพี่เถอะ” เย่เชียนพูดต่อ “เฮ้อ..มีความช่วยเหลืออยู่ข้างหน้าแท้ๆแต่กลับโดนปฏิเสธ..มันน่าเศร้าจริงๆ”
ขณะที่เขาพูดเย่เชียนก็หันไปมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่อยู่ข้างๆเห็นได้ชัดว่าเขาหมายถึงหวงฟู่ชิงเตี๋ยน
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “ไอ้หนูฉันบอกเอ็งไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าถึงฉันอยากจะช่วยแค่ไหนแต่ฉันก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี..เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยเว้นแต่เอ็งจะอยากตายเร็วขึ้นกว่าเดิม”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ว่า “โถ่ปู่!..อย่าคิดว่าผมโง่จนไม่เห็นอะไรเลยสิ..ก่อนหน้านี้ที่ผมพูดถึงชื่อฮัวหยาซินขึ้นมาปฏิกิริยาของปู่ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนและนั่นก็ได้อธิบายทุกอย่างแล้ว..ปู่กล้าสาบานมั้ยล่ะว่าปู่กับเธอไม่เกี่ยวข้องกัน”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถึงกับผงะและยิ้มอย่างเชื่องช้าแล้วพูดว่า “ฉันบอกเอ็งไปหลายรอบแล้วนะว่าเอ็งจะทำอะไรก็ได้แต่อย่าถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น..ไอ้เด็กบ้า..ใช่!..ฉันมีความสัมพันธ์กับฮัวหยาซินจบมั้ย?..ฉันจะเตือนเอ็งอีกครั้งนะว่าถ้าเอ็งไม่กลัวตายฉันจะยอมไปกับเอ็งก็ได้”
การแสดงออกของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนดูตื่นเต้นและประม่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสามารถอธิบายสิ่งต่างๆได้มากขึ้น..ม่อหลงกับหลินเฟิงที่ด้านข้างก็ตกตะลึงเล็กน้อยและมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนด้วยความสงสัย ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “นี่ปู่มีเรื่องรักๆใคร่ๆกับฮัวหยาซินหรือเปล่า..โอ้..ผมรู้แล้วว่าทำไมปู่ถึงไม่แต่งงานสักที..ที่แท้ก็เป็นเพราะฮัวหยาซินนี่เอง”ไอรีนโนเวล
“เอ่อ..คือ..แบบว่า” การแสดงออกของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เขินอายเล็กน้อยและเขาพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “อย่าเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าใจมั้ย..ทำในสิ่งที่เราควรทำเถอะ”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่ได้ถามเรื่องนี้อีกต่อไปเพราะท้ายที่สุดแล้วสำหรับคนอายุเท่านี้มันก็คงจะดูมากเกินไปที่จะหยอกล้อเขาแบบนี้ ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเชื่อว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเกี่ยวข้องกับฮัวหยาซินจริงๆแต่เนื่องจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนไม่เต็มใจที่จะพูดเย่เชียนจึงไม่สามารถถามต่อ
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็เปลี่ยนเรื่องโดยการหันไปพูดกับม่อหลงว่า “ม่อหลงหลังจากเหตุการณ์วันนี้ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าสำนักม่อจื๊อจะทำอะไรต่อ..เพราะงั้นพี่ต้องอดทนรู้มั้ย?..ถ้าพี่ทำให้สำนักม่อจื๊อรู้ถึงการมีอยู่ของพี่มันจะเป็นอันตรายอย่างแน่นอนและในช่วงเวลานี้พี่ต้องเร่งความเร็วในการฝึกฝนนะเข้าใจมั้ย?”
ม่อหลงก็พยักหน้าอย่างหนักหน่วงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ได้บอส..ไม่ต้องกังวลไป..ฉันจะอดทนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็เหลือบไปที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วพูดว่า “ปู่มีวิธีฝึกฝนที่รวดเร็วกว่านี้มั้ย?..ตอนนี้เราแทบจะไม่มีเวลาเตรียมตัวแล้ว..ถึงม่อหลงจะเก่งแค่ไหนในตอนนี้แต่ก็สู้คนที่ฝึกมาเป็นสิบๆปีไม่ได้อยู่ดี”
“วิธีแบบนั้นมันไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยแต่มันอันตรายมาก..ไม่มีอะไรในโลกใบนี้ที่เราจะได้มันมาแบบฟรีๆโดยไม่เสียอะไร..มันต้องจ่ายคืนเท่ากับสิ่งที่เอ็งได้รับมา” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “จริงๆแล้วฉันก็ไม่อยากแนะนำให้ใช้วิธีนี้หรอกเพราะมันอันตรายถึงชีวิตตราบใดที่ยังควบคุมมันไม่ได้ก็มีแนวโน้มที่จะสูญเสียทุกอย่างที่ทำมาทั้งหมดไป”
“ผมแค่ถามเฉยๆเพราะมันขึ้นอยู่กับม่อหลงที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง” เย่เชียนพูด
“ไม่หรอก!..หรือเอ็งมีวิธีที่ดีกว่าฉันใช่มั้ย?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “ฉันจำได้อย่างชัดเจนมากว่าตอนที่ฉันสู้กับเอ็งครั้งแรกเอ็งยังไม่สามารถโจมตีฉันได้เลยด้วยซ้ำและแม้แต่สองปีที่แล้วเอ็งก็ทำอะไรฉันไมได้..แต่ในเวลาเพียงสองปีหลังจากนั้นศิลปะการต่อสู้ของเอ็งกลับพัฒนาขึ้นมาจนถึงจุดนี้..อย่าบอกนะว่าเอ็งฝึกฝนมันทีละน้อย..หึฉันไม่เชื่อหรอมันจะต้องมีวิธีที่ดีกว่าในตำราฝึกฝนใช่มั้ย?”
“ถ้าผมมีวิธีที่ดีแบบนั้นผมจะปิดบังจากพี่น้องของผมจนถึงตอนนี้มั้ย?” เย่เชียนมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนด้วยหางตาแล้วพูดว่า “ปู่ก็น่าจะรู้เรื่องที่ผมมีพลังบางอย่างที่พ่อผนึกเอาไว้ในร่างกายของผมใช่มั้ย?..ต่อมาเมื่อผมอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนที่วัดหลิงหลงผมบังเอิญไปเจอพระชรานิรนามคนหนึ่งและพระคนนั้นก็ผนึกพลังอะไรบางอย่างเอาไว้ในร่างกายของผม..เพราะงั้นในร่างกายของผมจึงมีพลังแปลกๆถึงสองขั้วแต่ที่เศร้ากว่านั้นคือไม่มีใครฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณให้ผมเลยตั้งแต่เด็ก..ผมใฝ่หาเองโดยสมบูรณ์..แบบนั้นแล้วผมจะกล้าสอนให้พวกเขามั้ยเพราะถ้ามันไม่เหมาะกับการฝึกล่ะมันจะเป็นยังไง?..ผมคงจะพาพวกเขาไปสู่ความตายใช่มั้ย?”
“อย่าเพิ่งจริงจังนักสิฉันแค่พูดเล่นๆ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “อย่างไรก็ตามฉันก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเอ็งจะมีพลังแบบนั้นนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก..ถ้าเป็นตามที่เอ็งพูดภายในระยะเวลาน้อยกว่าห้าปีเอ็งจะกลายเป็นเย่เจิ้งหรานคนต่อไปและจะเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้ตำรับโบราณ!”
“ผมไม่ได้สนใจการเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งผมแค่ต้องการปกป้องคนที่ผมต้องการปกป้องและสิ่งที่ผมจำเป็นต้องปกป้องก็แค่นั้น” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็หันไปมองที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนอีกครั้งและถามด้วยความสงสัย “ปู่!..ผมมีคำถามที่อยากรู้มากๆอยากจะถามปู่นะ”
“เอ็งอยากถามฉันว่าทำไมฉันถึงทำดีกับเอ็งมาโดยตลอดใช่มั้ย?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูด
“ใช่!” เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูด “ทำไมปู่ถึงคอยช่วยผมเสมอไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม..ยิ่งไปกว่านั้นเวลาผมก่อปัญหาอะไรปู่ก็อดทนกับผมมาเสมอ..ผมไม่เข้าใจเลยเพราะมันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด..คำถามนี้ซ่อนอยู่ในใจผมมานานเพราะงั้นช่วยตอบผมทีจะได้มั้ย”
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า: “อันที่จริงความจริงนั้นก็ง่ายมากและไม่ซับซ้อนเพราะฉันแค่คิดว่าเอ็งเป็นคนที่สามารถนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ยอดเยี่ยมได้..ตราบใดที่เอ็งมั่นคงในอนาคตเอ็งก็จะเป็นเสาหลักของประเทศได้อย่างแน่นอนเพราะงั้นไม่ว่าเอ็งจะทำอะไรฉันก็จะคอยสนับสนุนตราบเท่าที่ไม่ละเมิดหลักการและกฎของประเทศชาติและไม่ละเมิดผลประโยชน์ของประเทศ!”
“แล้วปู่ไม่กลัวว่าผมจะกลายเป็นหนอนบ่อนไส้เหรอ?..ไม่กลัวผมจะทรยศประเทศเลยงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูด
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ตระกูลหวงฟู่ของฉันมีอยู่มานานหลายชั่วอายุคนแล้วเพราะงั้นฉันจึงได้เห็นผู้คนมากมาย และฉันก็ไม่เคยมองข้ามใครเลย..ไม่ว่าจะเป็นเอ็ง..หลินเฟิงหรือแม่แต่หมาป่าผีไป๋ฮวยด้วยซ้ำ..ที่จริงแล้วพวกเอ็งทั้งหมดเป็นลูกผู้ชายนักสู้..แต่เอ็งมีพื้นฐานที่สุดเพราะงั้นฉันเชื่อว่าไม่ว่าเอ็งจะทำอะไรในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเอ็งก็จะยังคงปกป้องผลกำไรและผลประโยชน์ของประเทศชาติเสมอ”
สำหรับบรรทัดล่างถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะไม่ได้พูดแต่หลินเฟิงกับเย่เชียนนั้นก็ชัดเจนมากว่าบรรทัดล่างนี้หมายถึงไม่ละเมิดผลประโยชน์ของประเทศ
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็พูดต่อ “ยังไงก็เถอะ..สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือหากเอ็งละเมิดกฎของประเทศในอนาคตล่ะก็หวงฟู่ชิงเตี๋ยนคนนี้จะเป็นคนแรกที่ฆ่าเอ็งและจะไม่แสดงความเมตตาเลยแม้แต่น้อย..แต่เมื่อถึงตอนนั้นฉันอาจจะไม่คู่ต่อสู้ของเอ็งอีกต่อไปแล้ว..แต่ฉันจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเตือนสติและหยุดยั้งเอ็งเอาไว้”
คำพูดของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนดูจริงครึ่งเท็จครึ่งแต่เย่เชียนเย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็รู้ว่าสิ่งที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดนั้นเป็นความจริงและเขาก็มีความคิดนี้เช่นกัน
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ปู่อย่าจริงจังนักสิ..ผมแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง..ตอนที่ผมอยู่ในเขตทหารหนานจิงเมื่อสองวันก่อนเส้าเจี๋ยก็พูดแบบนี้กับผมและตอนนี้ปู่ก็พูดแบบนี้อีกคน..มันทำให้ผมเสียใจจริงๆ”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความงุนงง “เส้าเจี๋ยพูดอะไรกับเอ็ง?”
“พูดอะไรงั้นหรอ..ก็พูดแบบเดียวกับปู่ไง” เย่เชียนพูด “แต่ผมไม่โทษเขาหรอก..ผมยินดีมากที่เขามีความคิดแบบนี้ได้สักทีเพราะนี่พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและคิดถึงความเป็นจริงได้..เอาเถอะอย่าไปพูดถึงมันเลย..ตระกูลหวงฟู่หน้าซื่อใจคดมาก..ใครจะไปรู้ถึงอนาคตแต่กลับเอามาพูดกันในปัจจุบัน..ดิ้นรนวันนี้ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะมีศึกอะไร”
.