ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 859 ความกล้าของแม่ม่ายดำ
ตอนที่ 859 ความกล้าของแม่ม่ายดำ
แม่ม่ายดำจือเหวินอายุสามสิบปีและไม่เพียงแต่ไม่ดูแก่เท่านั้นเพราะเธอยังเพิ่มเสน่ห์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่และความงดงามในแบบของผู้หญิงอีกด้วย ที่จริงแล้วเมื่อเทียบแม่ม่ายดำจือเหวินกับหญิงสาวทั่วไปแล้วหญิงสาวพวกนั้นไม่มีเสน่ห์และแรงดึงดูดใจในแบบของผู้หญิงเท่ากับเธอเลย เพราะเธอนั้นดูมีเสน่ห์มากสำหรับผู้ชายเพราะเธอรู้ว่าผู้ชายต้องการอะไรมากกว่าหญิงสาวเหล่านั้น
ท่าทางการสูบบุหรี่ของแม่ม่ายดำของแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นสง่างามมากและท่าทางของเธอก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้หญิง บางคนบอกว่าอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้หญิงคือร่างกายดังนั้นหากแม่ม่ายดำจือเหวินคนนี้ใช้ร่างกายของเธอเป็นอาวุธล่ะก็เกรงว่าจะมีผู้ชายไม่มากนักที่จะหลบหนีและยับยั้งชั่งใจได้ แม้กระทั่งตอนนี้เมื่อแม่ม่ายดำจือเหวินพบปะกับผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ เธอก็สามารถขจัดความเป็นศัตรูได้อย่างง่ายดายและในที่สุดเธอก็บรรลุข้อตกลงความร่วมมือและนี่คือเสน่ห์ของผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่อย่างเธอนั่นเอง
อันที่จริงเย่เชียนไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบสูบบุหรี่นักแต่เขาต้องยอมรับเลยว่าการสูบบุหรี่ของแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำลายเสน่ห์ของเธอเท่านั้นแต่ยังทำให้เธอดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้นอีกด้วย
เย่เชียนก็สูบบุหรี่อย่างช้าๆแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าหัวหน้าจือก็น่าจะรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่โรงแรม?”
แม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าและพูดว่า “ฉันรู้แค่นิดหน่อย” เธอสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับความหมายในคำถามของเย่เชียน
“ก็ดีที่รู้ผมจะได้ไม่ต้องอธิบายเยอะ” เย่เชียนพูด “ตอนแรกผมจะให้หัวหน้าจือช่วยหาตัวคนทำเรื่องวุ่นวายนี้..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็น..ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังเลยว่าเขาจะเป็นคนของหัวหน้าจือ”
แม่ม่ายดำจือเหวินก็นึกอะไรได้บางอย่างแต่เย่เชียนไม่ได้พูดเรื่องนี้เพิ่มเติม ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถพูดออกมาได้ด้วยตัวเอง “คุณเย่หมายความว่าไง” แม่ม่ายดำจือเหวินพูด
“เอาล่ะ..พูดง่ายๆก็คือเพื่อนของผมฆ่าตัวตายที่โรงแรมนั้น..ส่วนแฟนสาวของก็ฆ่าตัวตายตายไปอีก..ยิ่งไปกว่านั้นก่อนเขาตายผมสัญญากับเขาว่าจะดูแลแฟนสาวของเขาแต่ผมกลับทำไม่ได้ผมเป็นหนี้เขาเพราะงั้นผมเลยต้องชดใช้ให้กับเขา” เย่เชียนพูดอย่างเคร่งขรึมโดยไม่แสดงความโกรธหรือการแสดงออกอื่นใดราวกับว่าเขากำลังพูดถึงบางสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองและไม่มีใครเข้าใจในคำพูดของเขาเลย
แม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับตกตะลึงและมองหนิวเยว่อย่างเดือดดาล ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบการกระทำของหนิวเยว่ก็ตามแต่หยิวเยว่เป็นคนของเธอเอง ดังนั้นเธอจึงไม่อยากทำอะไรรุนแรงจนเกินไปแต่ตอนนี้สิ่งต่างๆกลับซับซ้อนมากขึ้นและเธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแฟนเพื่อนของเย่เชียน
“คุณก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่าพวกเขาฆ่าตัวตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม” หนิวเปิ่นพูดอย่างโกรธเคือง “อีกอย่างที่นี่คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในเมืองปินไห่แล้วคุณเป็นใคร..ที่นี่ไม่มีใครกล้าท้าทายเธอเลยสักคน”
‘หืม!’ แม่ม่ายดำจือเหวินคิดอย่างลับๆว่าหนิวเปิ่นคงจะต้องเป็นคนรับผิดชอบในเรื่องนี้แต่เธอคิดว่าอาจจะยังมีโอกาสแก้ไขได้แต่ตอนนี้เขากลับพูดแบบนี้ซึ่งมันเหมือนการเดินไปหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอก็แปลกใจที่เย่เชียนไม่ได้โกรธแต่กลับมีรอยยิ้มจางๆที่มุมปากของเขา อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกว่าการที่เย่เชียนเป็นแบบนี้นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าแบบปกติเสียอีก
เย่เชียนก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆเพียงแต่เห็นแสงสีแดงกะพริบและทันใดนั้นมีดคลื่นโลหิตก็แทงเข้าไปที่ข้อมือของหนิวเปิ่นโดยตรง จากนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วแกล่ะเป็นใคร?..แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ..รู้มั้ยว่าแม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดฉันให้ฆ่าคนที่ฉันอยากจะฆ่าได้”
ประโยคคำพูดของเย่เชียนนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินก็เข้าใจโดยธรรมชาติ “คุณเย่ฟังฉันก่อน” แม่ม่ายดำจือเหวินพูด
เย่เชียนก็หันหน้าของเขาและเหลือบมองไปที่เธอและทันใดนั้นเย่เชียนก็ดึงมีดกลับมาจนเลือดพุ่งออกจากข้อมือของหนิวเปิ่นและเขาก็กรีดร้องตัวสั่นพร้อมกับหยาดเหงื่อที่ไหลลงจากหน้าผากของเขา ในตอนนี้หนิวเปิ่นใช้มือข้างหนึ่งจับข้อมือของเขาเอาไว้และยังคงสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงภายในห้องเหล่าบอดี้การ์ดด้านนอกก็รีบเข้ามาและเมื่อเห็นฉากตรงหน้าพวกเขาก็ถึงกับตกใจและรีบวิ่งไปหาเย่เชียนทันที
“หยุด!..ทุกคนออกไปซะ!” แม่ม่ายดำจือเหวินก็ตะโกนอย่างฉุนเฉียว
บอดี้การ์ดเหล่านั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆถอยกลับไป ซึ่งแม่ม่ายดำจือเหวินก็เหลือบมองเย่เชียนและพูดว่า “คุณเย่..คุณช่วยฟังฉันก่อนจะได้มั้ย?”
“ก็เอาสิ..ผมอยากลองฟังสิ่งที่คุณอยากจะพูดหลังจากนี้” เย่เชียนพูด
แม่ม่ายดำจือเหวินก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและทำให้ความคิดของเธอคงที่แล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าฉันต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้..แต่เมื่อพิจารณาจากมุมมองของเราแล้วการตายของเขาไม่สำคัญสำหรับเราพวกเราเลยและสิ่งต่างๆทั้งหมดเป็นการเลือกของพวกเขาเอง..ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะฆ่าตัวตายเขาเองเราก็ไม่ควรที่จะทำให้เรื่องมันยุ่งยากไม่ใช่เหรอ”
“คุณกำลังจะบอกอะไรกับผมกันแน่” เย่เชียนพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “หัวหน้าจือผมคิดมาเสมอว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับคุณที่จะดูแลอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แบบนี้ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งแต่คุณก็สามารถทำได้ดีแต่การที่คุณปัดความรับผิดชอบแบบนี้ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ..ผมไม่สนใจว่าคุณกำลังคิดอะไรเกี่ยวกับปัญหานี้แต่พวกเขาเป็นเพื่อนของผมและผมก็ต้องหาความยุติธรรมให้กับพวกเขา..ผมคิดว่าหัวหน้าจือก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไงใช่มั้ย?”
มีน้ำเสียงที่เย้ยหยันอยู่ในคำพูดของเขาเพราะเย่เชียนเป็นแบบนี้เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าวและเขาจะไม่มีวันถอยกลับเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของแม่ม่ายดำจือเหวินก็เปลี่ยนไปเพราะเธอรู้ว่าเย่เชียนนั้นมีความสามารถมากขนาดไหนและถึงแม้ว่าอิทธิพลและอำนาจในปัจจุบันของเธอจะไม่อ่อนแอเหมือนก่อนแล้วแต่ถ้าเธอตกหลุมรักเย่เชียนขึ้นมาจริงๆล่ะก็การตัดสินใจแย่ๆของเธอคงจะไม่มีประโยชน์สำหรับตัวเธอเอง อย่างไรก็ตามน้ำเสียงที่เย้ยหยันของเย่เชียนทำให้เธอไม่สามารถที่จะยอมรับได้ ดังนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “แล้วคุณเย่อยากให้ฉันทำยังไง?”
“มันง่ายมากเพราะเลือดต้องชำระด้วยเลือด” เย่เชียนพูด
“ฉันเข้าใจแต่หนิวเปิ่นก็เป็นคนของฉันและเขาก็เป็นสมาชิกอาวุโสที่ติดตามหยางเทียนมานานเพราะงั้นถ้าฉันปล่อยให้คุณทำกับเขาแบบนั้นฉันจะควบคุมคนของฉันในอนาคตได้ยังไง” แม่ม่ายดำจือเหวินพูด “แต่คุณเย่สามารถวางใจได้เพราะฉันยุติธรรมในการกระทำของฉันเสมอและหนิวเปิ่นก็ควรรับผิดชอบในเรื่องนี้และฉันจะให้คำชี้แจงกับคุณในภายหลัง”
ทันทีที่พูดจบแม่ม่ายดำจือเหวินก็ยืนขึ้นพร้อมกับหยิบมีดปอกผลไม้จากบนโต๊ะแล้วแทงเข้าไปที่แขนของหนิวเปิ่น “ฉันจะลงโทษเขาแบบนี้บวกกับลงโทษฉันด้วย..ฉันหวังว่ามันคงจะเพียงพอสำหรับความยุติธรรมที่คุณต้องการใช่มั้ย?”
“ฉันเป็นผู้นำของพวกเขาและฉันก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย” แม่ม่ายดำพูดต่อและเมื่อเสียงนั้นจบลงเธอก็ดึงมีปอกผลไม้ออกมาแล้วแทงเข้าไปที่ต้นขาของเธออย่างแรงและเลือดก็ไหลลงมาที่ถุงน่องสีดำของเธอทันที บนผิวสีขาวราวกับหิมะนั้นมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาซึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษ
การกระทำของแม่ม่ายดำจือเหวินทำให้เย่เชียนตกใจและเขาก็ชื่นชมผู้หญิงคนนี้ไม่น้อยและไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะสามารถขึ้นครองสามเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ นั่นเป็นเพราะเธอมีความกล้าและความแน่วแน่ อย่างไรก็ตามเย่เชียนนั้นมักจะทำตามเจตนารมณ์ของตัวเองเสมอและไม่ว่าแม่ม่ายดำจือเหวินจะทำอะไรเขาก็จะไม่มีวันละทิ้งความตั้งใจที่จะฆ่าหนิวเปิ่นไปอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่สำหรับคนอื่นแต่เพียงเพราะเจียงซินเป็นทหารที่สมควรได้รับความเคารพนั่นเอง
“ฉันเข้าใจความรู้สึกในฐานะผู้นำของหัวหน้าจือดีแต่หนิวเปิ่นไม่ใช่คนที่สมควรได้รับการปกป้องจากคุณ!..ไม่ช้าก็เร็วเขาจะทำให้คุณเดือดร้อน!” เย่เชียนพูด “เพื่อเห็นแก่ความเป็นเพื่อนกันเพราะงั้นผมจะบอกกับคุณตรงๆเลยนะว่าเพื่อนของผมที่ตายไปเขาไม่ใช่คนธรรมดาเลยเพราะเขาเป็นถึงสมาชิกหน่วยพิทักษ์มังกรของกองกำลังพิเศษลับสุดยอดจากกองทัพแห่งชาติ..แบบนี้คุณคิดว่าพวกเขาจะยอมปล่อยผ่านที่พวกเขาสูญเสียทหารที่เก่งที่สุดในหมู่พวกเขาไปงั้นเหรอ”
แม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับตกตะลึงและเธอก็ตกใจอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าหน่วยพิทักษ์มังกรเป็นกองกำลังประเภทใดแต่เธอสามารถยืนยันได้จากน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังของเย่เชียนได้เป็นอย่างดี ซึ่งคราวนี้หนิวเปิ่นนั้นก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่จริงๆ “ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนของผมยังเป็นคนสนิทของผู้บัญชาการในกองทัพอีกด้วย..คราวนี้ชีวิตของเขาพังยับเยินเพราะเรื่องนี้จนทำให้เขาฆ่าตัวตายในที่สุด..แบบนี้คุณคิดว่านายพลจะไว้ชีวิตพวกคุณงั้นเหรอ..อีกอย่างด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวอุตสาหกรรมและธุรกิจทั้งหมดภายใต้ชื่อของคุณจะถูกกำจัดทิ้งได้อย่างง่ายดายรวมทั้งตัวคุณเองและทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณด้วย” เย่เชียนพูดต่อ
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเย่เชียนไม่ใช่คำพูดที่สร้างความตื่นตระหนกหรือข่มขู่แต่อย่างใดและแม่ม่ายดำจือเหวินก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเย่เชียนมาที่บ้านของเธอในครั้งนี้เพื่อช่วยเธอและไม่ใช่สร้างปัญหาแต่อย่างใดๆ ดังนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินจึงรู้สึกถึงความจริงจังของเรื่องนี้และถ้าหากคราวนี้เหตุการณ์เช่นนั้นเริ่มต้นขึ้นมันก็ไม่มีทางที่เธอจะหยุดยั้งมันได้จริงๆ แน่นอนว่าเธอมีอิทธิพลและอำนาจมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนแต่เธอเป็นใครเมื่อเทียบกับผู้บัญชาการทหารแล้วอีกฝ่ายไม่ต้องส่งกองกำลังใด ๆมาเลยเพราะเพียงแค่โทรศัพท์ไปหาทางการแค่นั้นก็สามารถทำลายสิ่งที่แม่ม่ายดำจือเหวินสร้างมานานหลายปีให้หายสาบสูญไปอย่างไร้ประโยชน์ได้เลย
หนิวเปิ่นนั้นไม่ใช่คนที่หยิ่งผยองอีกต่อไปและความเจ็บปวดที่มือก็ทำให้เขาตัวสั่นด้วยความไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่กล้าขัดจังหวะทั้งสองเพราะเขายังได้ยินคำพูดของเย่เชียนอย่างชัดเจนมากและคราวนี้เขาก็ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่จริงๆเพราะคนที่เขาทำลายชีวิตไปนั้นเขาไม่มีทางรับมือได้เลย “พรึบ” หนิวเปิ่นคุกเข่าลงและพูดว่า “หัวหน้าช่วยผมด้วย!”
“คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไรในตอนนี้?” แม่ม่ายดำจือเหวินพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “คุณทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่แล้วคุณมาขอให้ฉันช่วยคุณได้ยังไง?..คุณรู้ตัวมั้ยว่าคุณทำอะไรลงไปคุณลากพวกเราทุกคนจมดิ่งลงไปแล้วถ้าคุณเย่ไม่มาเตือนล่ะก็..พวกเราทุกคนได้ตายกันแน่!”