CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 701 หลุดพ้น (1)

  1. Home
  2. ยอดวิถีแห่งปีศาจ
  3. บทที่ 701 หลุดพ้น (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 701 หลุดพ้น (1)

ควันหลายสายไหลเวียนกลางฝ่ามือลู่เซิ่งอย่างช้าๆ

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ค่อยๆ สูดควันเข้ารูจมูก จากนั้นถือโอกาสหลับตาและเข้าสู่ห้วงสมาธิ

เวลาค่อยๆ ผ่านไป

เขาพลันลืมตาขึ้น ก่อนจะมองไปยังด้านล่างกรอบสุดท้ายบนดีปบลู ตรงนั้นมีกรอบพร่ามัวกรอบหนึ่งโผล่มา

‘ชื่อเอาเป็นวิถีวิญญาณควันก็แล้วกัน’ เขาตั้งชื่อตามใจชอบ พลังอาวรณ์ถูกใช้ไปกับวิชาหมอกควันโดยอิงตามวิญญาณที่เพิ่งทำความเข้าใจ

หนึ่งหน่วย สองหน่วย สามหน่วย…

พลังอาวรณ์ที่เหมือนกับเส้นด้ายทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง แล้วแยกตัวกลายเป็นพลังงานโปร่งแสงที่มีความพิเศษชนิดหนึ่ง มันเปลี่ยนแปลงอีกหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายก็ซึมออกจากผิวของลู่เซิ่งและรวมตัวเป็นหมอกร่างมนุษย์ที่ไม่ชัดเจนตัวหนึ่ง

‘วิถีวิญญาณควัน’ ถูกเรียนรู้ไปหลายร้อยระดับ ความตระหนักรู้และความเข้าใจต่อหมอกควันของลู่เซิ่งไปถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วยาม

หมอกควันวิญญาณที่ลอยออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่องไม่ได้ดูลึกลับในสายตาของเขาอีกแล้ว

ขอบเขตถึงแล้ว ระดับถึงแล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าดีปบลู แค่ใช้พลังอาวรณ์จำนวนมากแปลงเป็นพลังยุทธ์และพลังฝึกปรือก็พอ

‘มาเริ่มกันเลย…ขอดูหน่อยเถอะว่าธรรมชาติที่แท้จริงของโลกรูปจิตใบนี้เป็นอะไร!’ ลู่เซิ่งกางมือขวาออก

หมอกควันสีขาวเข้มข้นแผ่กระจายออกมาจากด้านหลังเขา แล้วรวมตัวเป็นวังวนสีขาวขนาดเล็กเหนือศีรษะของเขา

วังวนส่งเสียงครางฮือๆ และหมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเริ่มดูดซับหมอกควันล่องลอยที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ เป็นจำนวนมาก

วิญญาณหมอกควันจำนวนมากที่ลอยออกมาจากปล่องภูเขาไฟถูกวังวนกระชากเข้าไปด้านในแทบจะทันทีที่โผล่ออกมา

วังวนสีขาวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ความสามารถควบคุมวิญญาณหมอกควันของภูเขาไฟค่อยๆ สู้แรงดึงของลู่เซิ่งไม่ไหว

รากไม้นับไม่ถ้วนบนพื้นดินเริ่มแผ่ขยายจากบนเกาะไปยังใต้ทะเลแล้ว

เปรี้ยง!

ฟ้าผ่าลงมาดังเปรี้ยง ท้องฟ้าค่อยๆ มืดมิดลง

ลู่เซิ่งประคองวังวนยักษ์ด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะมองดูแกนหลักสีขาวซีดที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ กลางวังวน

‘ที่แท้ก็เป็นแบบนี้…วัฏจักรสังเคราะห์หรือ ฝีมือไม่เลวทีเดียวนี่ แต่ว่าจะเทียบกับวัฏจักรความเป็นความตายที่ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติได้ยังไง’ เขารู้ในทันทีว่าผู้เข้มแข็งมายาพิศวงคนนี้ไม่ใช่มารดาแห่งความเจ็บปวด

ขอบเขตมายาพิศวงของสตรีสี่ปีกไม่สูงนัก พลังแห่งวัฏจักรของนางมีร่องรอยถูกกระตุ้นโดยฝีมือคนที่ล้ำลึกมาก

ตอนที่บรรลุวัฏจักรวิญญาณหมอกควัน ลู่เซิ่งสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าในนี้มีจุดที่ไม่สอดคล้องกันอยู่

ทั้งๆ ที่หากพัฒนาต่อไปตามหลักตรรกะทางธรรมชาติ จะมีบางจุดที่แสดงให้เห็นระบบทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน จนไม่อาจกลายเป็นวัฏจักรที่สมบูรณ์ได้

แต่ความจริงระบบในที่นี้กลับสมบูรณ์ยิ่งกว่าโลกที่ได้จากการพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติเสียอีก

‘ดูเหมือนนี่น่าจะเป็นหนึ่งในรองเจ้าลัทธิใต้อาณัติของมารดาแห่งความเจ็บปวด’ เขาฉุกใจนึกได้

‘ไม่แปลกหรอก ถ้านายพลเคลื่อนไหวตามใจในช่วงศึกสงคราม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบต่อการรบอย่างมหาศาล’ ลู่เซิ่งแสยะยิ้มดุดัน

‘ช่างเถอะ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ราคาจากการกระทำของตัวเองผ่านจุดจบของรองเจ้าลัทธิผู้นี้ก็แล้วกัน…ดีปบลู!’

อินเตอร์เฟซดีปบลูดีดออกมาอีกรอบ

‘เรียนรู้วิถีวิญญาณควัน!’

พลังอาวรณ์ไหลออกเป็นจำนวนมหาศาล พริบตาเดียวก็หายไปเกือบแสนกว่าหน่วย ส่วนวิถีวิญญาณควันก็พัฒนาถึงขอบเขตมากกว่าพันด้วยความเร็วสูงเช่นกัน

วังวนสีขาวขนาดยักษ์เหนือศีรษะของลู่เซิ่งหมุนวนด้วยความเร็วสูง ก่อนจะค่อยๆ สร้างรูกุญแจที่เหมือนกับสลักประตูขนาดยักษ์ออกมา

เสื้อคลุมบนตัวลู่เซิ่งโดนพายุฉีกกระชากและพัดจนส่งเสียงดังพั่บๆ หมอกควันวิญญาณมนุษย์ก็ปรากฏออกมาด้านหลังเขาอีกครั้งเช่นกัน

หมอกควันมนุษย์บิดเบี้ยวเล็กน้อยแล้วกลายเป็นกุญแจสีเงินดอกหนึ่ง

ผิวกุญแจสลักลวดลายซับซ้อนไว้นับไม่ถ้วน ตรงกลางที่ฉลุเป็นรูปกระบี่กำลังปล่อยระลอกคลื่นสั่นสะเทือนหลายกลุ่มออกไปรอบๆ อย่างไม่ขาดสาย

‘แม่กุญแจสู่สวรรค์ ต้นกำเนิดรูปจิต!’ ลู่เซิ่งพลันหมุนตัวไปคว้ากุญแจด้านหลัง ก่อนจะโยนขึ้นไปด้านบน

ฟ้าว!

กุญแจสีเงินที่สูงเท่าหนึ่งคนครึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วเสียบเข้ารูกุญแจตรงกลางวังวนอย่างมั่นคง

แกร๊ก

กุญแจพลันหมุนตามเข็มนาฬิกา

ฟิ้ว! ฟิ้วๆๆๆๆ!

แสงสีทองหลายสายพุ่งออกมาจากรูกุญแจอย่างฉับพลัน รอยแตกสีดำเล็กๆ หลายสายปรากฏขึ้นกลางอากาศ

ลู่เซิ่งหัวเราะลั่นพร้อมกับกระโดดขึ้น กลายเป็นแสงสีเหลืองสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในรอยแตกสายหนึ่ง ก่อนจะหายไปในพริบตา

…

ดาวซีจิง

เงาร่างขนาดยักษ์หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสองสายคุมเชิงกันอยู่กลางอวกาศ

กระเรียนยักษ์พันเทวะที่เปลี่ยนมาจากลู่เซิ่งมีขนาดใหญ่หลายหมื่นหมี่ สตรีสี่ปีกที่อยู่ด้านหน้าสูงสามพันหมี่ เล็กกว่ากันมาก

แต่อานุภาพที่สองฝ่ายปล่อยออกมาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

“ดูเหมือนจิตวิญญาณของทั้งคู่จะโดนลากเข้าสู่โลกรูปจิตแล้ว มาถึงการปะทะระดับนี้เร็วขนาดนี้เชียว”

เงาหนึ่งม่วงหนึ่งแดงยังคงทอดตามองมาจากท่ามกลางความว่างเปล่าที่อยู่ไกลๆ

จันทร์สีม่วงพินิจพิจารณาเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำอยู่บ้าง

“ดูท่าทางรองเจ้าลัทธิของทางด้านมารดาแห่งความเจ็บปวดจะแย่แล้วนะ…”

“ถ้าแบบนั้นท่านก็ชนะน่ะสิ เหตุใดถึงไม่ทำท่าดีใจเลยเล่า” เงาสีแดงเอ่ยอย่างจนใจ

“ถ้าข้าชนะสิแย่ คนผู้นั้นเป็นคนที่ออกไปจากนครตราชั่งของข้านะ…” จันทร์สีม่วงกล่าวอย่างจนปัญญากว่า

“ตรวจสอบสถานะออกหรือยัง”

“ตรวจสอบออกคร่าวๆ แล้ว แต่ยังมีจุดที่ยังไม่กระจ่างไม่น้อย ถ้ายึดตามบันทึกในตอนแรก มายาพิศวงผู้ซ่อนเร้นพลังคนนี้ควรเป็นคนหนุ่มที่มีชื่อว่าลู่เซิ่ง นักพรตหนุ่มที่อายุยังไม่เกินสามร้อยปี” จันทร์สีม่วงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“สามร้อยปีหรือ? ท่านกำลังล้อข้าเล่นใช่หรือไม่” เงาสีแดงงุนงง

“ท่านไม่ได้ฟังผิดหรอก สามร้อยปีจริงๆ พวกเราดำเนินการสุ่มตัวอย่างวิเคราะห์ผ่านการกระจายความผันผวนของวิญญาณ ยืนยันว่าวิญญาณของเขาเพิ่งมีอายุไม่เกินสามร้อยปี ต่อให้ไปยังต่างโลก ฝึกฝนในสถานที่ที่เวลาไหลเร็ว ก็สามารถใช้วิธีสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีกระจายตัวตรวจสอบได้อยู่ดี” จันทร์สีม่วงอธิบาย

“ถ้าหากอายุไม่ถึงสามร้อยปีจริงๆ…ก็น่าตกใจเกินไปแล้ว ต่อให้จะเป็นพวกที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ก็ไม่อาจไปถึงมายาพิศวงได้เร็วขนาดนี้”

“ถูกต้อง…เพราะแบบนี้ข้าก็เลยมาสังเกตการณ์ด้วยตัวเอง” จันทร์สีม่วงเอ่ยเสียงขรึม

ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก เพียงแต่เพิ่มสมาธิไปที่การต่อสู้ของตัวตนขนาดยักษ์สองตัวตนที่คุมเชิงกันอยู่ไกลๆ

สัตว์ประหลาดที่บรรลุขอบเขตมายาพิศวงทั้งที่อายุยังไม่ถึงสามร้อยปี ถ้าหากดำรงอยู่จริงๆ อย่างนั้นไม่ว่าศึกครั้งนี้จะแพ้หรือชนะ ผลลัพธ์ก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่มายาพิศวงคนใด ก็ไม่มีทางปล่อยความลับที่เก็บซ่อนไว้บนตัวสัตว์ประหลาดตนนี้ไป

รวมถึงสองคนนี้ด้วย

มายาพิศวงในระบบอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกันยากจะฆ่าพวกมารสวรรค์มายาพิศวงจริงๆ ขอแค่พวกเขาไม่ปล่อยโลกรูปจิตออกมา ก็แทบจะไม่พ่ายแพ้ผู้ใดในเวลาอันสั้น

ทว่าแม้จะฆ่าไม่ตาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีวิธี

ตราผนึกเป็นสิ่งที่ออกแบบมาเพื่อจัดการมารสวรรค์ประเภทนี้โดยเฉพาะ

ความจริงทั้งสองมีความคิดลงมือแล้ว

…

ลู่เซิ่งค่อยๆ ลืมตาขึ้นกลางความว่างเปล่า เขาเห็นสตรีสี่ปีกด้านหน้าที่อยู่ในสภาพสับสนผ่านกายเนื้อของพันเทวะ

แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่หลุดออกมาจากโลกรูปจิตของเขา

“ลาก่อน…” ลู่เซิ่งอ้าปากพูดโดยไร้เสียง

ชั่วขณะนั้นแสงสีดำพุ่งออกไป พันเทวะกางปีกซ้าย ขนปีกสีดำนับไม่ถ้วนลอยออกไปจากปีกของมันเหมือนห่าฝน กลายเป็นลูกศรแสงสีดำหลายเล่ม พุ่งเป็นเส้นโค้งประดุจห่าฝนใส่ร่างของสตรีสี่ปีกอย่างดุดัน

ฟ้าวๆๆๆ…!

แสงสีดำนับไม่ถ้วนเจาะทะลุร่างของสตรี ทำให้นางหงายหลังอย่างต่อเนื่อง

แสงสีดำเหมือนกับมีพลังลุกไหม้อันแปลกประหลาด เพราะมีพลังไฟหยินของลู่เซิ่งเกาะติดอยู่ ทุกๆ ครั้งที่สตรีสี่ปีกถูกเจาะร่าง ก็จะปรากฏฉากอันยิ่งใหญ่ที่หมอกควันวิญญาณนับไม่ถ้วนของโลกรูปจิตกระเพื่อมขึ้นด้านหลัง

เพียงแต่ผิวทะเลที่สั่นกระเพื่อม ภูเขาไฟที่ระเบิด ท้องฟ้า เกาะ และน้ำทะเลในฉาก ล้วนถูกเปลวไฟสีเขียวเข้มย้อมไว้ชั้นหนึ่ง

‘ถูกข้าจับพิกัดโลกรูปจิตได้แล้ว ยังคิดหนีอีก’ ลู่เซิ่งอ้าปาก ฟันแหลมคมค่อยๆ โผล่ออกมา

โลกรูปจิตคือสถานที่ที่แข็งแกร่งที่สุดและอ่อนแอที่สุดของมารสวรรค์มายาพิศวง

เกิดว่าโลกรูปจิตถูกอีกฝ่ายจับตำแหน่งได้และสลัดไม่หลุด สิ่งที่เผชิญจะเป็นการโจมตีอันเหี้ยมหาญที่อีกฝ่ายจะระดมปล่อยเข้าใส่

และเกิดว่าโลกรูปจิตได้รับความเสียหาย ก็หมายความว่าจิตวิญญาณร่างหลักของมารสวรรค์มายาพิศวงก็จะได้รับความเสียหายเช่นกัน

อย่าว่าแต่ตอนนี้สตรีสี่ปีกยังตกอยู่ในโลกรูปจิตของลู่เซิ่ง ไม่อาจหลบหนีออกมาได้ จึงไม่อาจต้านทานได้อย่างมีประสิทธิภาพเลย

เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของนางก็ถูกเจาะเป็นรูพรุน โลกรูปจิตด้านหลังตกสู่เปลวเพลิงสีเขียวเข้มอันหนาแน่นกลุ่มหนึ่ง

ร่างที่ทรุดโทรมของสตรีสี่ปีกหดเล็กลงอย่างรวดเร็วหลังจากโดนไฟหยินเผาไหม้

‘จบแล้ว…’ ลู่เซิ่งก้าวไปด้านหน้า ออกจากด้านในร่างของพันเทวะ

เขาอ้าปาก ปากขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พริบตาเดียวก็กว้างหลายพันหมี่ จากนั้นก็งับลงด้านหน้า

สตรีสี่ปีกพร้อมกับหมอกควันสีขาวที่อยู่รอบๆ โดนเขากลืนกินในคำเดียว

“ลงมือ!”

อยู่ๆ แสงสีแดงสายหนึ่งก็พุ่งดิ่งใส่ด้านหลังลู่เซิ่ง แล้วกระแทกหลังเอวเขาอย่างแรง

ตูม!

แสงสีแดงระเบิดกลายเป็นเถาวัลย์และกิ่งไม้สีดำนับไม่ถ้วน รัดพันทั่วร่างลู่เซิ่งไว้หลายชั้นในพริบตาเดียว

“คิดจับข้าหรือ” ลู่เซิ่งยิ้มแย้มพร้อมกับหันไปมองเงาสีแดงสายหนึ่งที่บินมาจากที่ไกล

“มีความหมายหรือ” เขาเยาะหยัน

“ข้าขอไม่พูดคำพูดสวยหรู ขอแค่เจ้าบอกความลับที่เจ้าบรรลุถึงมายาพิศวงในเวลาสั้นๆ ออกมา ข้าไม่เพียงจะรับประกันชีวิตของเจ้า ยังจะช่วยเจ้าแก้ไขความขัดแย้งกับมารดาแห่งความเจ็บปวดด้วย” เงาสีแดงเข้ามาใกล้จากนั้นก็เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “เป็นอย่างไร จะลองทบทวนดูหรือไม่”

“ความลับหรือ ข้าลู่เซิ่งมาถึงขอบเขตในปัจจุบัน ทุกครั้งล้วนเผชิญอุปสรรคนานัปการ สิ่งที่ใช้คือความมุมานะบากบั่นของตัวเอง ไม่มีความลับอะไรทั้งนั้น” ลู่เซิ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ ไม่ใช่สิ ถ้าบอกว่ามีความลับจริงๆ จะต้องเป็นเพราะข้าเก่งกาจเกินไป” เขากล่าวอย่างมั่นใจถึงขีดสุด

‘คำพูดนี้เจ้าไปหลอกผีสางเอาเถอะ’

เงาสีแดงสบถในใจ

“อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระเพื่อถ่วงเวลาได้หรือไม่ พวกเรามาทำตัวตรงไปตรงมาดีกว่า อย่าบังคับให้ข้าลงมือเลย”

“ทำตัวตรงไปตรงมาหรือ” ลู่เซิ่งเลิกคิ้ว “ข้าลู่เซิ่งตั้งแต่เกิดมาถึงวันนี้ ผ่านศึกมานับไม่ถ้วนแต่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติความพ่ายแพ้! เจ้าคงไม่คิดกระมังว่าทำแค่นี้แล้วจะสะกดข้าได้”

“เจ้าไม่กลัวตาย แต่วิชาผนึกเล่า การเคลื่อนไหวใดๆ ของร่างกายนี้ของเจ้าจะถูกผนึกโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถหลบหนี ไม่สามารถเรียกใช้พลัง ถึงขั้นฆ่าตัวตายไม่ได้ด้วยซ้ำ เจ้าจะถูกผนึกไปแสนปี” เงาสีแดงยิ้มจางๆ “เจ้ากลัวหรือไม่”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 701 หลุดพ้น (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์