ยอดสตรีฉางอิ๋ง - ตอนที่ 170-2 ลุงและหลานคืนดี
“เรื่องที่ท่านลุงพิจารณานี้ หลานเองก็รู้สึกเช่นกัน แต่จนใจเหลือที่เรื่องแต่งงานครานี้เป็น สนมเอกเสนอออกมา เมื่อต้องเข้าวังไปขอบพระทัย ก็ไม่อาจไม่ขอบพระทัย สนมเอกได้ขอรับ” ซูซิ่วฉินเอ่ยอย่างลำบากใจ และเขาเองก็มิได้เลอะเลือน แม้ว่าภรรยาของเขาจะเป็นองค์หญิง ทว่าตลอดมา ฮ่องเต้ก็ไม่เคยให้ความสำคัญกับพระราชธิดาพระองค์นี้เป็นอย่างยิ่ง บุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์ซึ่งเป็นผู้ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถ ทั้งภายหน้ายังมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะสืบทอดตระกูลเว่ยแห่งเฟิ่งโจวเช่นเว่ยฉางเฟิงนี้ สนมเอกกลับส่งเสริมให้ฮ่องเต้จับคู่กับซูเนี่ยนชู ยังไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องความแค้นระหว่างสนมเอกและองค์หญิงหลิงเซียนแม่ลูกเลย ต่อให้ไม่มีความแค้นเคืองใดต่อกัน แต่สนมเอกถือสิทธิ์อันใดไปทำเช่นนี้?
ต่อให้สนมเอกเติ้งไม่มีพระธิดา แล้วนางไม่มีหลานสาวหรือ? เติ้งวานวานน้องสาวร่วมท้องของเติ้งจงฉีหลานรักของนางยังเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนนางในวังทุกสองสามวันทีเดียว! เติ้งวานวานผู้นี้ยังมิได้หมั้นหมาย สนมเอกกลับมีแก่ใจไปเป็นห่วงเป็นใยหลานยายของคู่แค้นที่โดยนามแล้วเป็นคนทำร้ายบุตรชายเพียงคนเดียวของนางจนตาย ทั้งยังมอบตัวเลือกสามีที่ดีเพียงนี้ให้แก่ซูเนี่ยนชูด้วย หากมิใช่เพราะมีแผนการใดก็แปลกประหลาดเต็มทนแล้ว
ความจริงแล้ว ที่ซูซิ่วฉินสองสามีภรรยามาคารวะซูผิงจ่านในวันนี้ องค์หญิงหลิงเซียนคิดเพียงตื้นๆ ว่า อยากคืนดีกับท่านลุงของสามีซึ่งเป็นประมุขตระกูลซูแห่งชิงโจว ภายหลังเมื่อบุตรสาวออกเรือนแล้วจะได้มีที่พักพิงมากขึ้นอีกสักน้อย แต่ซูซิ่วฉินกลับกลัวว่าจะถูกสนมเอกเติ้งดึงลงน้ำไปด้วย จึงมาขอให้ท่านลุงช่วยออกความคิดให้โดยเฉพาะ
ซูผิงจ่านได้ยินคำหลานชายพลันแย้มยิ้มออกมา กล่าวว่า “แสดงท่าทีพอเป็นพิธีเป็นพอแล้ว ข้าจะบอกว่าเจ้าอย่าได้ไปมาหาสู่กับตำหนักหมิงกวงบ่อยครั้งด้วยเรื่องนี้ จนกลายเป็นว่าไปตกหลุมพรางเพราะเรื่องแต่งงานของบุตรสาวเรื่องเดียว!”
“แต่หากวันหน้าพระสนมเอกคอยเรียกให้ไปเข้าเฝ้าฯ ไม่หยุดหย่อน…”
“เจ้าลืมแล้วหรือว่าในวังยังมีองค์ฮองเฮาอยู่อีกองค์?” ซูผิงจ่านย้อนถาม “เกรงว่าเวลานี้องค์ฮองเฮาจะกำลังหาทางยับยั้งไม่ให้สนมเอกเรียกพวกเจ้าไปเข้าเฝ้าฯ แล้ว!”
ซูซิ่วฉินลอบโล่งใจ และด่าตนเองว่าเอาแต่เป็นห่วงจนว้าวุ่นไปหมด ตัวเขาเองก็มิใช่ว่าไม่เคยได้ยินเรื่องการต่อสู้ระหว่างสนมเอกและฮองเฮามาก่อน แต่แล้วเพราะตนเองทั้งเป็นห่วงบุตรสาว ทั้งกังวลถึงคนอื่นๆ ในบ้านของตน แม้แต่หลักการง่ายๆ เช่นนี้เขาก็กลับลืมไปสิ้นแล้ว หลังจากพยายามตั้งสติ ซูซิ่วฉินก็ขอคำชี้แนะอีกว่า “เว่ยฉางเฟิงเป็นที่รักใคร่ยิ่งของบรรดาผู้ใหญ่ในรุ่ยอวี่ถัง หลานเองก็รักเนี่ยนซูเช่นกัน กลัวว่านางจะไม่ถูกใจคนบ้านสามี แล้วจักทำประการใดดีขอรับ?”
“ความจริงแล้วประเด็นสำคัญอยู่ที่ตัวคนผู้หนึ่ง ก็คือแม่เฒ่าซ่ง” ซูผิงจ่านกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หากมิได้ฮูหยินผู้เฒ่าผู้นี้คอยออกแรงปกป้องบุตรชายและหลานชาย เว่ยฮ่วนก็ต้องกำหนดฐานะให้เว่ยเซิ่งอี๋ไปตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว เว่ยฉางเฟิงจะเก่งกาจอีกสักเท่าใด อย่างมากก็สามารถอาศัยฐานะหลานชายคนโตของบุตรชายคนโตมารับตำแหน่งฉางซานกงที่เว่ยฮ่วนเคยเป็นเท่านั้น”
“หากข้าเดาไม่ผิด เดิมทีเรื่องการแต่งงานของเว่ยฉางเฟิงก็ควรเป็นแม่เฒ่าซ่งเป็นคนตัดสินใจด้วย” เมื่อเห็นว่าซูซิ่วฉินนิ่งคิดไม่พูด ซูผิงจ่านลูบเคราใต้คาง หรี่ตาพลางเอ่ยเสียงนุ่มว่า ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแม่เฒ่าซ่งมีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือให้เว่ยเจิ้งหงหายดี สองคือให้เว่ยฉางเฟิงหลานชายของนางได้รับช่วงต่อรุ่ยอวี่ถัง เรื่องแรกนั้นแม้แต่จี้ชวี่ปิ้งก็ยังทำไม่ได้ พวกเราก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว ส่วนเรื่องหลังนั้น ก็อยู่ที่ต่อไปเจ้าจะอบรมสอนสั่งเนี่ยนซูเจ้าเด็กคนนี้เช่นไรแล้ว!”
ซูซิ่วฉินเอ่ยเสียงหนักว่า “ขอท่านลุงโปรดชี้แนะด้วยขอรับ”
ซูผิงจ่านเอ่ยเรียบๆ ว่า “ทั้งความงามกริยามารยาทของเนี่ยนซูล้วนมิใช่สิ่งที่แม่เฒ่าซ่งให้ความสำคัญที่สุด ด้วยเหตุที่เว่ยฉางเฟิงเป็นบุตรชายโทนของเว่ยเจิ้งหง ไม่มีพี่น้องผู้ชายแท้ๆ คอยสนับสนุน ทั้งคู่ปรับของเขาก็ยังเป็นอาซึ่งอายุมากว่าตนหลายสิบปี ยิ่งไปกว่านั้นเว่ยเซิ่งอี๋ก็ยังมีบุตรชายสามคนที่เป็นแขนขาให้เขาได้! ฉะนั้นสิ่งที่แม่เฒ่าซ่งต้องการเป็นที่สุดจากหลานสะใภ้ก็คือสามารถสนับสนุนเว่ยฉางเฟิงได้! ความจริงแล้วข้าก็มิได้เห็นดีกับงานแต่งครานี้ มิใช่เพราะเนี่ยนซูไม่ดี นั่นเพราะเนี่ยนซูมีรูปโฉมงดงาม เป็นคนร่าเริง เฉลียวฉลาดแต่มิได้ขาดความอ่อนโยน กริยามารยาทเพียบพร้อม ทั้งจิตใจดีงาม หากมองจากในมุมของคุณหนูมีตระกูลแล้วก็ทำให้ผู้คนชื่นชอบนัก แต่เนี่ยนชูมิได้ดีในแบบที่แม่เฒ่าซ่งต้องการ! คนที่แม่เฒ่าซ่งต้องการก็คือคนที่คู่ควรมีชั้นเชิงลึกล้ำ ทั้งยังมีใจมั่นคงกับเว่ยฉางเฟิง ต้องสามารถแบ่งเบาความกังวลทั้งเรื่องนอกบ้านในบ้านให้เว่ยฉางเฟิงได้!”
“…” ซูซิ่วฉินนิ่งเงียบอยู่เป็นนาน อีกนานจากนั้นจึงพูดว่า “ท่านลุงกล่าวถูกต้องนัก ทว่ายามนี้ไม้ก็กลายเป็นเรือนแล้ว” บุตรสาวได้แต่งงานกับคนดี คนเป็นบิดาย่อมดีใจ ทว่าหากได้แต่งกับคนที่ทุกคนอิจฉา แต่ภายในเรือนกลับไม่ได้ดีชีวิตที่ดี ซูซิ่วฉินกลับไม่อาจวางใจได้เลยจริงๆ ทว่าพระราชโองการก็โปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ต่อให้เขาสามารถทำใจแข็งปฏิเสธความเย้ายวนของการแต่งงานครานี้ได้ ทว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะตัดสินใจเองได้แล้ว
ซูผิงจ่านลูบเคราอยู่เนิ่นนาน กล่าวว่า “บ้านฝั่งแม่ขององค์หญิงหลิงเซียนคือ ตระกูลฮั่ว”
ซูซิ่วฉินไม่เข้าใจว่าจู่ๆ เขาเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาทำสิ่งใด เขาจึงนิ่งอึ้งไปคราวหนึ่ง แล้วบอกว่า “ขอรับ แต่ตระกูลฮั่วก็เมินเฉยกับนางเสียยิ่งนัก หลายปีมานี้ก็เพียงไปมาหาสู่กันนานๆ ครั้งในช่วงเทศกาล และก็เพียงส่งบ่าวไปจัดการเท่านั้นขอรับ”
“แม้จะเมินเฉย แต่ในฉากหน้าก็ยังคงพอไปมาหาสู่ได้ตลอดมา” ซูผิงจ่านเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “บุตรสาวตระกูลฮั่วคนหนึ่งแต่งกับซ่งไจ้เถียนบุตรชายคนโตของเสนาบดีตรวจการซ่งอวี่วั่ง หากนับไปแล้ว อย่างไรฮูหยินฮั่วผู้นี้ก็เป็นลูกผู้พี่ของเนี่ยนซู”
ซูซิ่วฉินเอ่ยอย่างไม่เข้าใจว่า “ความหมายของท่านลุงคือ?”
“บุตรสาวคนเดียวของซ่งอวี่วั่งเคยเป็นว่าที่พระชายาองค์รัชทายาท นางมีชาติกำเนิดในตระกูลซ่งแห่งเจียงหนานเช่นเดียวกับแม่เฒ่าซ่งและฮูหยินซ่ง ยิ่งไปกว่านั้นสายเลือดก็ยังใกล้ชิดกันเสียอย่างยิ่ง” ซูผิงจ่านเอ่ยอย่างใจเย็น “ว่าที่พระชายาองค์รัชทายาทผู้นี้ถูกหมั้นหมายแก่องค์รัชทายาทไว้นานมากแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งเจียงหนานถังจึงบรรจงสอนสั่งนางออกมาตามแบบฉบับของมารดาแห่งแผ่นดินมาตั้งแต่เล็ก ก่อนหน้านี้ระหว่างทางที่นางกลับมาเมืองหลวงต้องผ่านเฟิ่งโจว จึงเคยไปอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินซ่งท่านอาของนางที่เฟิ่งโจวหลายเดือน …ตามที่ข้าสอบถามมาได้ ได้ยินว่าไม่ว่าจะเป็นแม่เฒ่าซ่งหรือฮูหยินซ่งก็ล้วนชื่นชมในความสามารถกริยามารยาทของคุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งยิ่งนัก เจ้าสามารถให้เนี่ยนชูไปเยี่ยมเยือนลูกผู้พี่ให้มากๆ และไปขอคำชี้แนะจากคุณหนูใหญ่บ้านซ่งไปพร้อมๆ กันด้วย”
ดังนี้เอง ซูซิ่วฉินจึงเพิ่งเข้าใจความหมายของซูผิงจ่านขึ้นมา และรีบพูดไปว่า “ขอรับ”
“คุณหนูใหญ่บ้านซ่งผู้นี้ยังเป็นลูกผู้พี่แท้ๆ ของหลานสะใภ้สามบ้านเสิ่นของเจ้าด้วย วันหน้าก็สามารถอาศัยนางไปขอคำชี้แนะจากพี่สาวร่วมท้องของเว่ยฉางเฟิงได้บ้าง” ซูผิงจ่านเอ่ยเรียบๆ “อย่างไรก็เสีย เว่ยฉางเฟิงก็มีพี่สาวร่วมท้องผู้นี้เพียงคนเดียว อีกทั้งแม่เฒ่าซ่งและฮูหยินซ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องรักใคร่สองพี่น้องคู่นี้ยิ่งนัก หากทำให้นางมีคำดีๆ ถึงเนี่ยนชูในจดหมายไปถึงทางบ้านได้สักคำสองคำ ก็จะมีผลดีอย่างยิ่งเมื่อนางแต่งเข้าบ้านไป”
________________________