ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1072 กระดานหมากที่คุ้นเคย ตอนที่ 1073 ฝ่าบาท เชิญ
ตอนที่ 1072 กระดานหมากที่คุ้นเคย / ตอนที่ 1073 ฝ่าบาท เชิญ
ตอนที่ 1072 กระดานหมากที่คุ้นเคย
เจียงจื่อหยวนจากเซียนสุ่ยหลิง
นางเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่
เจียงจื่อหยวนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปที่กระดานหมากขนาดใหญ่ แล้วหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
เดิมทีแล้วนางก็เป็นคนงามโฉมเฉลา ยิ่งการแต่งกายของนางในวันนี้ ทำให้ต้องตาต้องใจใครหลายคน
อีกทั้งนางยังแต่งหน้าบางๆ เสื้อผ้าดูเรียบง่าย เมื่อเทียบกับผู้หญิงก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่านางประณีต และสง่างามกว่ามาก
ภายใต้กระดานหมากรุกที่ส่องแสงสว่าง นางหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ท่าทางอ่อนโยน และสง่างาม ทำให้ชนะผู้หญิงที่อยู่ก่อนหน้าไปหลายขุมแล้ว
นางมองกระดานหมากนั้น แล้วสะบัดมือขึ้นมาเบาๆ หมากสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้น
กระดานหมากกระดานนี้ก็ทำเหมือนกับคนก่อนหน้า เป็นการตอบสนองที่รวดเร็ว เมื่อนางวางลงไป หมากสีทองจะปรากฏขึ้นทันที
เจียงจื่อหยวนลงหมากต่อโดยไม่มีความลังเลใดๆ
…
เวลาผ่านไปทีละนิดทีละน้อย
เจียงจื่อหยวนเดินได้ยี่สิบก้าว
ตอนนี้นางกลายเป็นคนที่เดินไกลที่สุด แต่นางก็ยังคงไม่หยุดเดิน!
แม้กระทั่งความเร็วยังไม่ลดลงเลย!
เมื่อเทียบกับคนก่อนหน้านี้ นางดูผ่อนคลายกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ท้องพระโรงค่อยๆ เงียบเสียงลง
สีหน้าของแต่ละคนดูแตกต่างกันอย่างมาก
มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ซุบซิบกันเสียงเบา และถอนหายใจออกมา
“สมแล้วที่เป็นคุณหนูใหญ่ของเซียนสุ่ยหลิง ฝีมือระดับนี้ ข้าไม่สามารถเทียบกับนางได้เลย…”
“ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือบอกว่า มีการตัดสินภายในว่านางจะได้เป็นพระชายา ตอนนี้มาดูแล้ว ถ้านอกจากนางแล้ว จะเป็นใครได้อีก?”
“ตอนนี้เหมือนนางจะอายุแค่ยี่สิบสองเท่านั้นไม่ใช่หรือ? ได้ยินมาว่านางทะลวงเป็นครึ่งเซียนแล้ว…”
“ซี๊ด…มิน่าล่ะนางถึงเก่งกาจขนาดนี้! ใบหน้าเช่นนี้ ชาติตระกูลเช่นนี้ ไม่มีใครเทียบกับนางได้
จริงๆ…”
“ได้ยินมาว่า ตอนสมัยนางเด็กๆ ส่วนใหญ่แล้วนางอาศัยอยู่ที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งประมุขเมฆาสวรรค์ก็รัก และเอ็นดูนางมาก และยิ่งไปกว่านั้น วิถีการวางหมากของนาง ก็ยังร่ำเรียนมาจากคนผู้นั้น…จะว่าไปแล้ว หรือว่าฝ่าบาทจะตั้งใจคิดด่านนี้เพื่อนางคนเดียว?”
เจียงจื่อหยวนวางหมากลงไปอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ฝีมือของนางไม่อ่อนด้อย โสตประสาททั้งห้าก็เฉียบแหลม ดังนั้นคำพูดเหล่านี้ นางจึงสามารถได้ยินเจ็ดแปดส่วน
ในใจของนางจึงรู้สึกหวานล้ำขึ้นมา
หลังจากนั้นนางก็วางหมากลงอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันนางก็เงยหน้าขึ้นมองหรงซิว ก่อนจะส่งรอยยิ้มออกมา
“ฝ่าบาท เชิญท่านรับมือ!”
ชั่วพริบตาเดียว ก็ถึงเวลาที่เขาต้องลงมือแล้ว!
หลังจากที่นางวางหมากลง หมากสีทองก็ปรากฏขึ้นบนกระดานอีกครั้ง!
รอยยิ้มของเจียงจื่อหยวนแข็งค้างไปทันที
…
ฉู่หลิวเยว่รินสุราด้วยความเบื่อหน่าย
ตอนแรกนางคิดว่าคุณหนูใหญ่เจียงผู้นั้นจะเก่งจริงๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…
ไม่รู้ว่านางประเมินตัวเองสูงเกินไป หรือนางประเมินหรงซิวต่ำเกินไป?
ด้วยความสามารถเช่นนี้ คิดจะบังคับให้ลงมือด้วยตนเองหรือ?
เมื่อหันมองไปที่กระดานหมากรุกขนาดใหญ่อีกครั้ง
นางก็หรี่สายตาลง ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้ตู๋กูโม่เป่าที่นั่งอยู่ด้านข้าง แล้วกดเสียงต่ำว่า
“พี่เป่า เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่ากระดานหมากรุกแผ่นนี้ มันคุ้นตาอย่างไม่ทราบสาเหตุ?”
สีหน้าของตู๋กูโม่เป่ายังคงเรียบเฉยเช่นเดิม
“กระดานหมากรุกบนโลกใบนี้ก็หน้าตาแบบนี้เหมือนกันทั้งนั้น มีอันใดคุ้นตาไม่คุ้นตา”
“ไม่ใช่สิ”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าแล้วพูดอย่างยืนยันว่า
“ก่อนหน้านี้ข้าจะต้องเคยเห็นมันมาก่อนแน่นอน…ลมปราณเช่นนี้…”
ทันใดนั้นเองรูม่านตาของนางก็หดเล็กลง
นางมองไปทางตู๋กูโม่เป่าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ก่อนหน้านี้เจ้า…”
ปัง!
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากกระดานหมากรุกแผ่นนั้น!
ปราณพลังโจมตีที่น่ากลัวกระจายออกมาสี่ทิศแปดทาง!
เจียงจื่อหยวนไม่ทันระวัง ดังนั้นนางจึงได้รับแรงกระแทก และลอยกระเด็นออกไปทันที!
“จื่อหยวน!”
เจียงเห่อเทียนตกใจอย่างมากรีบลุกพรวดขึ้นมา แล้วระเบิดพลังดั้งเดิมออก!
ทันใดนั้นเองรอบกายของเจียงจื่อหยวนก็มีม่านพลังโปร่งแสงปรากฏขึ้น!
ภายใต้การช่วยเหลือของม่านพลังนี้ ในที่สุดเจียงจื่อหยวนก็สามารถกลับลงพื้นได้อย่างปลอดภัย
นางหันไปมองกระดานหมากรุกแผ่นนั้นราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ตอนที่ 1073 ฝ่าบาท เชิญ
เจียงจื่อหยวน…พ่ายแพ้!
อวี๋มั่วยกมือขึ้นเพื่อเขียน
“เจียงจื่อหยวนจากเซียนสุ่ยหลิง : สี่สิบสามก้าว!”
ตัวเลขนี้มากกว่าผู้หญิงคนก่อนหน้า นับว่าเป็นตัวเลขที่ดีที่สุด แต่ยังไม่สามารถทำให้หรงซิวลงมือด้วยตัวเองได้
พรึ่บ…
หมากที่อยู่บนกระดานหายไปในชั่วพริบตา และกลับคืนสู่สภาพเดิม
ท้องพระโรงเงียบกริบ
สายตาของทุกคน หันไปมองกระดานหมากรุกจากนั้นก็หันไปมองเจียงจื่อหยวน
เจียงจื่อหยวนรู้สึกเหมือนมีหนามทิ่มแทงอยู่ด้านหลัง บนใบหน้าก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อน
นางมองไปที่กระดานหมากรุกที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างใด?
กระดานหมากรุกตานี้ยากมาก หากเป็นคนอื่น เกรงว่าจะทำไม่ได้เช่นนางแน่นอน!
ดังนั้นนางถึงมั่นใจว่า ถึงคราวที่หรงซิวจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้ว แต่ว่า…
เปล่าเลย!
นั่นหมายความว่า ต้องมีใครบางคนเคยใช้วิถีการวางหมากแบบนี้ไปแล้ว และจำนวนก้าวยังมากกว่านางอีกด้วย!
แต่คนคนนั้นคือใครกัน?
หรือว่าจะเป็นท่านประมุข หรือผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก?
เจียงจื่อหยวนเดาไม่ออก
“เอาล่ะจื่อหยวน เจ้าได้ที่หนึ่งแล้ว ดังนั้นอย่าคิดมากเรื่องอื่นเลย”
เจียงเห่อเทียนพูดปลอบใจ
ลูกสาวก็เหมือนพ่อ
เขาย่อมรู้ดีว่าภายในใจของเจียงจื่อหยวนตอนนี้ไม่มีความสุข และรู้สึกน้อยใจอย่างมาก
นางน่าจะต้องการรอจนกว่าหรงซิวจะลงมือ และทั้งสองคนก็เล่นด้วยกัน…
เจียงจื่อหยวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วฝืนยิ้มออกมา
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกทราบแล้ว”
เพียงแค่นางรู้สึกเสียใจเท่านั้น
หรงซิวมีทักษะในการเล่นหมากรุกได้อย่างยอดเยี่ยม เรื่องนี้นางรู้ตั้งนานแล้ว
น่าเสียดายที่นางไม่เคยเล่นหมากรุกกับเขาอย่างจริงจังเลย
ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเล่นหมากรุกกับท่านประมุข ส่วนนางก็นั่งอยู่ข้างๆ
นางมองมันอย่างกระตือรือร้นทุกครั้ง
นางต้องการที่จะตั้งกระดานหมากรุกเพื่อให้ได้มีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน แต่เขามักจะปฏิเสธด้วยเหตุผลอันใดสักอย่างเสมอ
เดิมทีนางคิดว่าจะสามารถฉวยโอกาสในวันนี้…
เจียงเห่อเทียนกล่าวปลอบใจเสียงต่ำ
“ฝ่าบาทมีความสามารถเช่นนี้ ตอนนี้เจ้ายังคงห่างฉันอยู่ หลังจากนี้รอเจ้ามาพระราชวังเมฆาสวรรค์ ก็เรียนรู้กับฝ่าบาทเยอะๆ”
ในตอนแรกเจียงจื่อหยวนมีท่าทางไม่ยินยอม แต่ทันใดนั้นก็มีสีหน้าเขินอายปรากฏขึ้น
หลังจากนั้นนางก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
“อื้อ ลูกทราบแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่ที่นั่งเท้าคางอย่างเกียจคร้าน ในตอนนั้นนางก็เลิกคิ้วขึ้นมา
หื้อ?
หลังจากนี้?
มาที่พระราชวังเมฆาสวรรค์?
เรียนรู้กับฝ่าบาทให้มากๆ?
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
คิดว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครสู้นางได้แล้วหรือ?
เยี่ยนชิงกวาดสายตามองทุกคน
“ยังมีใครจะประลองต่ออีกหรือไม่?”
เงียบกริบ
“หึๆ ใต้เท้าเยี่ยนชิง คนที่ตั้งใจอยากจะลอง เมื่อครู่นี้ก็ขึ้นไปลองหมดแล้ว อีกทั้งคะแนนที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ออกมาแล้ว ถ้าคิดว่า ด่านนี้ควรจะจบได้แล้วละมั้ง?”
เจียงเห่อเทียนหัวเราะแล้วพูด
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูเป็นมิตร แต่น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นอย่างมาก ไม่เหลือที่ว่างให้คนอื่นได้โต้เถียงเลย
“ช้าก่อน”
ทันใดนั้นเสียงของแม่นางคนหนึ่งก็ดังขึ้นทำลายความเงียบงัน
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้น
รักษารอยยิ้มอยู่สามส่วน
“ข้าเองก็อยากจะลองเหมือนกัน”
…
“เจ้าน่ะหรือ?”
เจียงเห่อเทียนถามกลับทันที พร้อมมองนางด้วยสายตาสงสัย
กระดานหมากรุกนี้มันยากแค่ไหน ทุกคนก็เห็นด้วยตามาแล้ว
แต่ถ้าขึ้นมาในตอนนี้ ก็เท่ากับหาเรื่องให้ตัวเองขายหน้าไม่ใช่หรือ?
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
“เหตุใด ไม่ได้หรือ?”
“ได้ๆ ได้แน่นอนอยู่แล้ว!”
เจียงเห่อเทียนยังไม่ทันได้พูดอันใด ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่นั่งอยู่ด้านบนก็รีบเอ่ยเร่ง
“นังหนู รีบขึ้นไปเร็ว!”
ทุกคน “…”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เหมือนว่าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเพิ่งจะตระหนักได้ว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม เขาจึงรีบกระแอมไอ ก่อนจะส่งสายตาไปให้หรงซิวอย่างรวดเร็ว
…เป็นอย่างใดเล่า? ข้าทำดีใช่หรือไม่!?
หรงซิวยกยิ้ม รอยยิ้มนี้ส่งไปถึงดวงตา
…ต้องสรรเสริญผู้อาวุโส
…
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองทางตู๋กูโม่เป่าที่อยู่ด้านข้าง
นางบีบแก้มบนใบหน้าเล็กๆ ก่อนจะแค่นหัวเราะเสียงเบา
“บัญชีของเจ้า กลับมาข้าจะค่อยมาคิด!”
หนังตาของตู๋กูโม่เป่ากระตุก หายากยิ่งที่เขาจะไม่โกรธเพราะถูกบีบแก้ม
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น
นางวางความคิดเหล่านั้นลง จากนั้นก็จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปทางกระดานหมากรุกอันนั้น
“ขอทางหน่อย”
เมื่อเดินไปถึงด้านหน้า รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่ก็ดูสุภาพอย่างมาก
เจียงจื่อหยวนเม้มริมฝีปาก รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมามากกว่าเดิม แต่ก็ยังต้องทนเอาไว้ ไม่ได้ระเบิดออกมา
นางเดินกลับที่นั่งพร้อมกับเจียงเห่อเทียน
แต่ว่าสายตาของนางนั้นไม่ได้ละมาจากตัวของตู๋กูเยว่เลย
นางจะขอดูสิว่าแม่นางคนนี้จะมีความสามารถสักแค่ไหน!
…
บนกระดานหมากรุกขนาดใหญ่มีแสงสว่างส่องกระจาย
ฉู่หลิวเยว่เอามือไพล่หลัง ยืดหลังตรง
เส้นผมของนางปลิวสลวยราวกับเส้นไหม นางสวมชุดสีแดงทั้งชุด ดูงดงาม และแสนสง่า
นางเพียงแค่หยุดยืนอยู่ตรงนั้น แต่ก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนได้อย่างง่ายดาย
นางจ้องมองที่กระดานนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็สะบัดมือขึ้น!
พลังดั้งเดิมสีชาดลอยออกมา ทันใดนั้นก็กระทบกับกระดาษหมากรุกทันที!
ครืน!
กระดานหมากรุกสั่นสะเทือน!
หลังจากนั้นหมากสีทองก็ปรากฏขึ้นทันที!
ความรู้สึกคุ้นเคยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!
ฉู่หลิวเยว่ลงหมากต่ออย่างไม่ลังเล!
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ตอนที่นางวางหมาก เหมือนว่านางแทบจะไม่ต้องใช้ความคิดเลย การเคลื่อนไหวรวดเร็วจนทำให้คนเดือดดาล!
ในตอนนั้นเอง หมากสีทองที่อยู่บนกระดานยังไม่ทันได้วางเสร็จ ฉู่หลิวเยว่ก็วางหมากลงไปต่อแล้ว!
“เหตุ เหตุใดถึงได้เร็วขนาดนี้? นางคงไม่ได้วางแต่สุ่มๆ ใช่หรือไม่?”
คนจำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามขึ้น
“ไม่หรอกมั้ง กระดานหมากรุกมันก็ยังไม่ขยับเลยไม่ใช่หรือ?”
“นางไม่ได้วางอย่างส่งๆ นาง…มีไหวพริบจริงๆ! ความคิดว่องไว สามารถพลิกแพลง ยืดหยุ่น…นี่…ความสามารถระดับนี้เกรงว่าจะเหนือกว่าคุณหนูใหญ่…”
ในตอนนั้นเองสีหน้าของเจียงจื่อหยวนก็เปลี่ยนจากความไม่พอใจเป็นประหลาดใจ
แน่นอนว่านางสามารถมองออก ระดับของตู๋กูเยว่ผู้นี้ เหนือกว่านาง!
อีกทั้งไม่ได้เหนือกว่าแค่เล็กน้อย!
นางจ้องไปที่กระดานหมากรุกนั้นตาเขม็ง
ในตอนแรกนางสามารถมองตามทัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การวางหมากก็ซับซ้อนมากขึ้น แต่ละก้าวนางจำเป็นจะต้องใช้เวลาคิดสักพัก
แต่คาดไม่ถึงว่าตู๋กูเยว่จะไม่หยุดคิดเลยสักนิด!
หลังจากนั้นไม่นาน สมองของเจียงจื่อหยวนก็เริ่มสับสน
“นางกำลังจะเดินเกินสี่สิบสามก้าว!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมา
“หากนางเดินอีกก้าวเดียว นางก็จะชนะคุณหนูใหญ่เจียงแล้ว!”
เสียงนั้นยังไม่ทันได้พูดจบ ฉู่หลิวเยว่สะบัดข้อมืออีกครั้งโดยไม่ลังเล และวางหมากลงไปอีกครั้ง!
คนจำนวนไม่น้อยอ้าปากค้าง
…คะแนนของตู๋กูเยว่มากกว่าเจียงจื่อหยวนแล้ว!
“พระเจ้า ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าตู๋กูเยว่ผู้นั้น แต่ว่า…ตอนนี้นางยังมีท่าทางผ่อนคลายอยู่เลยไม่ใช่หรือ หากจะทำให้ฝ่าบาทลงมือ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก?”
“แม้กระทั่งคุณหนูใหญ่เจียง ก็ยังไม่สามารถทำได้ แต่ตู๋กูเยว่กลับทำสำเร็จ นั่นก็หมายความว่า…”
เจียงจื่อหยวนกัดริมฝีปาก
…
ฉู่หลิวเยว่ไม่เคยใส่ใจสิ่งต่างๆ รอบตัว
สิ่งที่นางสนใจในตอนนี้มีเพียงแต่กระดานหมากรุกอันใหญ่ และ…หรงซิวเท่านั้น!
พรึ่บ!
นางวางหมากลง!
ในครั้งนี้บนกระดานหมากรุกไม่มีหมากสีทองปรากฏขึ้นอีกแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้น และมองไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วยิ้มออกมาอย่างสดใส
“ฝ่าบาท เชิญ!”