ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1083 ฝ่าบาท บุตรของท่าน
ตอนที่ 1083 ฝ่าบาท บุตรของท่าน
ทุกคนฮือฮาขึ้น!
ไม่เพียงแค่ตู๋กูเยว่เป็นคนภายนอกเท่านั้น นางยังมีลูกแล้วด้วย!?
นี่ นี่มัน…
คนเช่นนี้เนี่ยนะ จะมาเป็นพระชายาได้อย่างใด!?
เสียงซุบซิบดังขึ้น สายตานับไม่ถ้วนมองมา ล้วนมองมาที่ตู๋กูเยว่ และตู๋กูโม่เป่า!
“หรือว่าครั้งนี้ที่หน้าผาแดนสวรรค์ยังปล่อยเด็กคนหนึ่งเข้ามา ที่แท้เด็กคนนั้นก็เป็นลูกของตู๋กูเยว่!?”
“ในเมื่อนางแต่งงานมีลูกแล้ว แล้วเหตุใดถึงยังเข้าร่วมการคัดเลือกพระชายาล่ะ? คิดจะมาก่อความวุ่นวายหรือ?”
“ตู๋กูเยว่ผู้นี้ใจกล้าบ้าบิ่นมากเกินไปแล้ว! ทุกคนในพระราชวังโดนนางปั่นหัวจนวุ่น! นี่เราประมาทเกินไป…”
“ผู้หญิงเช่นนี้ ควรจะฆ่าให้ตายยิ่งนัก!”
น้ำเสียงทุกชนิดดังก้องในโสตประสาท เห็นได้ชัดว่าคำพูดสองประโยคของโหลวหรูไห่นี้ ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจอย่างมาก!
เมื่อเห็นว่าตัวเองทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ โหลวหรูไห่ก็ลอบภูมิใจ
เขามองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาบ้าคลั่ง และต้องการเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของนาง
แต่ว่า ไม่มีเลย
ผู้หญิงคนนั้นยังยืนสงบนิ่งเช่นเดิม ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง ใบหน้าราบเรียบ
อีกทั้งสายตาที่นางมองมาทางเขา ยังดูแปลกมากอีกด้วย
เหมือนกับว่า…มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ?
เห็นอกเห็นใจเนี่ยนะ!?
โหลวหรูไห่เกือบจะคิดว่าตัวเองมองผิดไป
หากโดนคนเปิดโปงต่อหน้าเช่นนี้ ชีวิตต่อไปนี้นางจะต้องลำบากแน่นอน แต่คาดไม่ถึงว่าในตอนนี้นางจะยังคงแสดงสีหน้าเช่นนี้ออกมาได้?
ในตอนนั้นเองเจียงเห่อเทียนก็ถามขึ้นมาเสียงเคร่งเครียดว่า
“เรื่องที่เจ้าพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่?”
โหลวหรูไห่ประสานมือคำนับ
“ข้าน้อยโหลวหรูไห่จากหน้าผาแดนสวรรค์ เป็นผู้อาวุโสหมอเทวดาของตระกูลหลิน ขอรับรองว่านี่เป็นความจริง คำพูดเมื่อครู่นี้ เป็นความจริงทุกประการ!”
ระหว่างทางที่พวกเขามาที่นี่ เขาเคยได้ยินหลินเทียนเฟิงปรึกษากับตู๋กูเยว่อยู่หลายครั้งว่าจะช่วยตามหาบิดาผู้ให้กำเนิดของตู๋กูโม่เป่า
เรื่องบิดาเช่นนี้ จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างใด?
เจียงเห่อเทียนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงออก ก่อนจะมองไปทางตู๋กูเยว่
“ตู๋กูเยว่! สำหรับเรื่องเหล่านี้แล้ว เจ้ามีอันใดจะพูดหรือไม่!?”
…
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเห็นอกเห็นใจโหลวหรูไห่จริงๆ เป็นหมอเทวดาระดับเก้าอยู่ดีๆ แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะต้องกลายเป็นขยะแล้ว
ยั่วโมโหใครไม่ว่า ดันไปยั่วโมโหพี่เป่า?
บอกว่านางแต่งงานแล้วก็ช่างเถอะ แต่บอกว่าพี่เป่าเป็นลูกของนางเนี่ยนะ…
ฉู่หลิวเยว่รีบหันไปมองตู๋กูโม่เป่าอย่างรวดเร็ว และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ใบหน้าเล็กๆ ราวกับหยกสลักมืดครึ้มไปแล้ว!
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะระเบิด ฉู่หลิวเยว่จึงส่งสายตาปลอบใจให้เขา จากนั้นก็หันไปมองเจียงเห่อเทียน ก่อนจะพูดว่า
“แน่นอน ว่าสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดนั้น…เป็นเรื่องโกหก”
โหลวหรูไห่หัวเราะเสียงเย็น
“โกหกงั้นหรือ? ตู๋กูเยว่ เพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศของเจ้า คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะปฏิเสธลูกของตัวเองเช่นนี้!? เรื่องนี้ ประมุขหลินและคุณชายสี่สามารถเป็นพยานให้ได้! ตั้งแต่วันแรกที่เจ้ามาถึงที่นี่ เจ้าก็มาเพื่อตามหาชายผู้ทอดทิ้งพวกเจ้าสองแม่ลูก! แต่ตอนนี้ เจ้ากลับจะปฏิเสธมันหรือ!?”
คนจำนวนไม่น้อยหันไปมองที่หลินเทียนเฟิงและลูกชายของเขา
พวกเขาเป็นคนพาเข้ามา แน่นอนว่าคำพูดของพวกเขานั้นน่าเชื่อถือมากที่สุด
หลินเทียนเฟิงขมวดคิ้วเป็นปม
แม้ว่าการที่ตู๋กูเยว่จะได้รับการคัดเลือกเป็นพระชายานั้นจะเหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก แต่ในใจเขายังคงหวังว่าตู๋กูเยว่จะอยู่ดี
ในที่สุดแล้วนางก็มีพระคุณต่อหลินจือเฟยอย่างมาก
ถ้าเขาพยักหน้าไปตอนนี้ นี่ไม่เท่ากับฆ่าตู๋กูเยว่หรอกหรือ?
ในตอนที่เขากำลังลังเลอยู่ ฉู่หลิวเยว่ก็พูดขึ้นมาว่า
“ประมุขตระกูลหลินและคุณชายสี่จะต้องเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าเมื่อครู่นี้อย่างแน่นอน เพราะว่าในใจของพวกเขา คิดแบบนั้นตั้งแต่แรก แต่ถ้าข้าบอกว่าสิ่งที่ข้าพูดไปตั้งแต่ตอนแรกนั้นล้วนไม่ใช่ความจริงล่ะ?”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
“ข้าเคยบอกไปว่า ข้าพาพี่เป่ามาตามหาคนคนหนึ่ง แต่ข้าไม่เคยยอมรับออกมาด้วยตัวเองว่าข้าเป็นมารดาของพี่เป่า และยิ่งไม่เคยยอมรับว่าคนที่มาตามหานั้นคือบิดาของเขา ในจุดนี้ ประมุขหลินและคุณชายสี่สามารถเป็นพยานให้ข้าได้”
“ถูกต้อง”
หลินจือเฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“เรื่องราวเหล่านี้คุณหนูตู๋กูไม่เคยพูดขึ้นด้วยตัวเอง มีเพียงข้ากับท่านพ่อที่คาดเดากันไปเท่านั้น”
ผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กอีกคนมาตามหาคน จะสามารถหาใครได้อีก?
ที่พวกเขาคิดเช่นนั้นก็นับว่าสมเหตุสมผลแล้ว
โหลวหรูไห่ชะงักไปครู่หนึ่ง กัดฟันกรอด
“เจ้าพูดว่าไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่เลยหรือ เจ้ามีหลักฐานอันใดหรือไม่ล่ะ!?”
“งั้นเจ้าต้องการหลักฐานอันใด?”
ฉู่หลิวเยว่ถามกลับ
โหลวหรูไห่อึกอัก
เรื่องก็ได้มาถึงจุดนี้แล้ว เหมือนว่าจะกลายเป็นทางตัน
สายตาของผู้คนมองสลับไปมา เพราะไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี
หลังจากที่เงียบไปสักพักใหญ่ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง
“หากคุณหนูตู๋กูไม่ได้เป็นอันใดกับเด็กคนนั้นจริง แล้วเหตุใดท่านต้องทำทุกวิถีทางเพื่อนำเขาเข้ามาในอาณาจักรเสิ่นซวี่พร้อมกันเล่า?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็หันไปมองตามเสียง
คนที่พูดนั้นคือ เจียงจื่อหยวนที่เพิ่งจะทำแผลเสร็จ
ใบหน้าที่อ่อนโยนของนางซีดเซียวลงไปหลายส่วน แต่กลับทำให้นางดูน่าสงสารมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้คนอยากจะถนอมนาง
“แล้วก็ในเมื่อคุณหนูตู๋กูเป็นจอมยุทธ์ระดับเจ็ด ถ้าเช่นนั้น…ผ่านประตูแดนสวรรค์และมาที่นี่ได้อย่างใด?”
น้ำเสียงของนางราบเรียบอย่างมาก ราวกับว่าไม่ใช่คำถามไต่สวน แต่เป็นคำถามธรรมดาเท่านั้น
แต่คำถามสองคำถามนี้ กลับเหมือนเข็มที่แทงใจ
ผู้บำเพ็ญเพียรที่มาจากด้านนอกพรมแดน หากต้องการจะทะลวงมาถึงด้านในนี้ เป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก แล้วเหตุใดตู๋กูเยว่ยังจะต้องพาเด็กคนนึงเข้ามาด้วย นี่มันเพิ่มภาระให้ชัดๆ?
ส่วนเรื่องระดับพลังของนางนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เดิมทีนางไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ด้วยซ้ำ!
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเต็มไปด้วยความน่าสงสัย!
“แน่นอนว่าเป็นเพราะข้ายินดีพาเข้ามา!”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา
“ส่วนเรื่องที่ข้าเข้ามาได้อย่างใดนั้น…แน่นอนว่าข้าก็ใช้ความสามารถของตัวเองในการเข้ามา! หรือว่ามีใครมารับข้าโดยเฉพาะงั้นหรือ?”
หรงซิวลูบจมูกของตัวเอง
เยี่ยนชิงเสียวสันหลังวาบ แล้วก้มหน้าลง
อวี๋มั่วเกาศีรษะอย่างมึนงง…นี่นางกำลังด่านายท่าน หรือว่ากำลังด่าเยี่ยนชิง?
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็คิดขึ้นได้ว่า นางกำลังด่านายท่านนี่เอง…เยี่ยนชิงไม่มีคุณสมบัตินั้นหรอก
เจียงจื่อหยวนรู้สึกว่าตู๋กูเยว่ไม่ยอมพูดเหตุผลที่แท้จริงเสียที คำถามทั้งสองนี้ นางตอบหรือไม่ตอบความหมายก็เหมือนเดิม นี่นางกำลังหลบเลี่ยงอยู่ไม่ใช่หรือ?
“คุณหนูตู๋กู ได้โปรดตอบคำถามของข้าด้วย หากเจ้าไม่แสดงหลักฐานที่แท้จริงของตัวเองออกมา เช่นนั้นพวกเราทุกคนก็มีสิทธิ์สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเจ้าจริงๆ”
ผู้หญิงที่มีลูกติด คิดอยากจะเป็นพระชายาหรือ?
ฝันไปเถอะ!?
ฉู่หลิวเยว่เชิดคางขึ้น
“ข้าขอถามทุกท่านว่า พี่เป่าหน้าตาเหมือนข้าตรงไหนหรือ?”
ทุกคนมองสำรวจอย่างทันที คนหนึ่งผมสีม่วงตาม่วง คนหนึ่งผมดำตาดำ นับว่าแตกต่างกันอย่างยิ่ง!
อีกทั้งเด็กคนนี้ยังงดงามมาก ส่วนตู๋กูเยว่…
“มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เขาอาจจะหน้าตาเหมือนพ่อของเขา”
เจียงเห่อเทียนบีบบังคับ
“ตู๋กูเยว่ ในเมื่อเจ้ายอมรับว่าเจ้ามาที่พระราชวังเมฆาสวรรค์แห่งนี้เพื่อมาตามหาคน แล้วเหตุใดไม่ให้คนผู้นั้นออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า จะได้ดูซิว่าคนผู้นั้นคือใคร!?”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
“เจ้าแน่ใจนะ?”
เจียงเห่อเทียนหัวเราะเสียงเย็น
“เหตุใด หรือเจ้าไม่กล้า?”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก…”
ฉู่หลิวเยว่ลูบคางของตัวเอง จากนั้นก็หันไปมองหรงซิว
“ฝ่าบาท พวกเขาบอกว่านี่คือลูกของท่าน ถ้าเช่นนั้นท่านจะยอมรับหรือไม่?”