ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1151 ความลับของตาน้ำพุ
ตอนที่ 1151 ความลับของตาน้ำพุ
แสงรัศมีที่ทอประกายวิบวับส่องสว่างฉายฉาบครึ่งผืนฟ้าที่ว่างเปล่า!
“รีบมา!”
หลัวเยี่ยนหมิงตะโกนเสียงเครียด! ก่อนจะลากหลัวซือซือให้รีบวิ่งลงเขาไป!
จัวเซิงตามหลังมาติดๆ
ตอนที่ออกวิ่ง เขาก็เหมือนคิดอันใดขึ้นได้จึงหันศีรษะกลับไปอย่างรวดเร็วพลางตะโกนไปหาฉู่หลิวเยว่
“ฉู่เยว่! มัวอึ้งอันใดอยู่!? รีบไปเถอะ!”
จนป่านนี้แล้วยังมัวแต่ยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น คิดจะรอให้ถูกฟ้าผ่าก่อนหรือไร!?
ฉู่หลิวเยว่ที่กำลังจะก้าววิ่งกลับเห็นเงาร่างสีชาดวาบผ่านไปต่อหน้าต่อตา!
ที่แท้ก็เป็นถวนจื่อที่กระโจนออกไปโดยพลันอีกครา!
“ถวนจื่อ!”
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนออกไปอย่างร้อนใจ ทว่าดูเหมือนถวนจื่อจะไม่ได้ยินเลยแม้แต่นิดเดียว มันกระโจนขึ้นไป มุ่งหน้าตรงสู่ตาน้ำพุที่อยู่บนยอดเขา!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด
มันเพิ่งจะกลับมาจากที่นั่นเองนะ เหตุใดถึงได้กลับไปอีกรอบได้เล่า!?
หรือว่าภายในตาน้ำพุนั้นมีอันใดบางอย่างที่มีแรงดึงดูดต่อมันอย่างมหาศาลกัน?
แต่ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอันใด ย่อมไม่สำคัญไปกว่าชีวิตน้อยๆ ของตัวเองแล้ว!
ในตอนนั้นเอง ทัณฑ์สวรรค์ก็กำลังรุดเข้ามาใกล้!
เงาร่างสีชาดกระจิ๋วหลิวเมื่ออยู่ภายใต้ทัณฑ์สวรรค์ที่สว่างเรืองรองแล้วก็ยิ่งดูเล็กลงถนัดตา
หากว่าถูกผ่าเข้าล่ะก็…
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันกรอด ก่อนจะก้าวเท้าออกตัวพุ่งตรงไปยังบนยอดเขา!
“ฉู่เยว่! เจ้าบ้าไปแล้วหรือไร!?”
จัวเซิงตะโกนไล่หลังตามมาอย่างตื่นตกใจ
วิ่งขึ้นไปบนยอดเขาตอนนี้ไม่เท่ากับว่าส่งตัวเองไปตายหรือไร!?
ในตอนนั้นเอง เมื่อได้ยินเสียงร้องลั่นของจัวเซิง พวกหลัวซือซือทั้งสองคนที่วิ่งห่างออกมาได้สักระยะหนึ่งแล้วต่างก็หันควับกลับมามอง
จะว่าไม่เป็นไรก็มิได้ เพราะเมื่อหันไปมอง คนทั้งสองต่างก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
ท่ามกลางค่ำคืนมืดมัว ท้องฟ้าสีดำสนิท บนยอดเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยว ผืนป่าเขียวชอุ่มทอดเงามืดทึบลงมา
จากนั้น ในความมืดยามราตรีมืดสนิทดุจหมึกเข้มที่ยากจะลบเลือน ทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งพลันตวัดฟาดลงมา! กวาดล้างทุกสิ่งอย่างไปอย่างง่ายดาย!
ต่อให้ทำแค่มองดูคร่าวๆ เช่นนี้ยังทำให้ในใจคนมองรู้สึกเย็นสะท้าน!
ในตอนที่คนทุกผู้ต่างกระเสือกกระสนจะหนีออกไปให้ไวที่สุดเสียตอนนี้ มีเพียงคนผู้หนึ่งที่ดื้อดึงรุดหน้าขึ้นไปด้านบนอย่างไม่ยอมหวนกลับ!
“ฉู่เยว่!”
หลัวซือซือตะเบ็งเสียงแหลมดังลั่นอย่างลืมตัว
ทว่าลมมรสุมก่อตัวส่งเสียงสะเทือนฟ้า เสียงของนางจึงถูกกลบด้วยเสียงรอบข้างซึ่งดังสนั่นหวั่นไหว
หลัวซือซือขบกรามแน่น คิดจะหันตัววิ่งกลับไป แต่โดนหลัวเยี่ยนหมิงดึงรั้งเอาไว้อย่างแรง
“เจ้าทำอันใดน่ะ!?”
น้ำเสียงของหลัวเยี่ยนหมิงดุดันเป็นอย่างมาก
“ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง!?”
หลัวซือซือคิดเอ่ยปากพูด ทว่าเมื่อเห็นสายตาพี่ชายของตน ท้ายที่สุดนางก็กลืนคำพูดที่เหลือลงคอไป
หลัวเยี่ยนหมิงเองก็มองเห็นได้ถึงสายตกอันเปี่ยมไปด้วยความวิตกกังวลของนางเช่นกัน
เขาลอบพรูลมหายใจอยู่ในใจ แล้วตะโกนไปหาจัวเซิง
แม้ว่าหลัวซือซือและจัวเซิงจะเป็นจอมยุทธ์ ในขณะที่หลัวเยี่ยนหมิงเป็นปรมาจารย์ ทว่าในบรรดาคนทั้งสาม พละกำลังต่อสู้ของเขาแกร่งกล้าที่สุด
จัวเซิงเข้าใจโดยพลันถึงความหมายที่เขาจะสื่อ จึงรีบพุ่งพรวดมาอย่างว่องไว
ทว่า ในตอนที่หลัวเยี่ยนหมิงกำลังจะรุดขึ้นไปนั่นเอง สุ้มเสียงดังก้องกังวานสายหนึ่งกลับดังขึ้นมาจากด้านบนในบัดดล
“พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้า ออกไปกันก่อนเลย!”
คนทั้งสามนั้นไม่วางใจเลยแม้แต่น้อยยามได้ยินคำพูดเช่นนี้
ในสายตาของพวกเขา ฉู่หลิวเยว่ในตอนนี้น่ะเสียสติไปแล้ว
มิเช่นนั้นแล้วนางจะขึ้นไปเผชิญกับอันตรายเช่นนั้นเหตุใดกัน?
นั่นน่ะเป็นการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงชัดๆ!
ทว่า มิทันที่หลัวเยี่ยนหมิงจะได้ขยับตัว กระแสพลังอันลึกล้ำสายหนึ่งพลันกระหน่ำซัดเข้ามา!
กระแสพลังสายนั้นรุนแรงและแข็งกร้าวนัก ทว่ากลับพกพาความอ่อนโยนมาด้วยเช่นกัน
ด้วยได้รับผลกระทบจากพลังสายนั้น ร่างของคนทั้งสามต่างก็พากันถอยกรูอย่างควบคุมไม่ได้
แต่ละคนต่างสบสายตากันไปมาอย่างตะลึงพรึงเพริด ฉู่เยว่ไม่ได้ล้อเล่นที่บอกให้พวกเขาถอยกลับไปก่อน!
เขาคิดจะรับมือกับทัณฑ์สวรรค์ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ!
หัวคิ้วของหลัวเยี่ยนหมิงขมวดเป็นปมแน่น หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“บางทีฉู่เยว่อาจจะคิดแผนอื่นไว้แล้วจริงๆ…”
เขาเอ่ยเสียงต่ำ
“มิสู้พวกเราออกไปรอเขาตรงตีนเขากันก่อน ถ้าเรายังอยู่ที่นี่ไม่แน่ว่าไปอาจสร้างปัญหาให้เขาได้”
ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาถึงรู้สึกขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุว่าฉู่เยว่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยตัวคนเดียวได้จริงๆ
แม้ว่ามันจะฟังดูแล้วเพ้อเจ้อมากก็ตามที
หลัวซือซือนั้นไม่เห็นด้วย คิ้วโก่งเรียวงามคู่นั้นขมวดเข้าหากันแน่น
ภายใต้แสงสว่างจ้าอันเรืองรองของทัณฑ์สวรรค์ เงาร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มผู้นั้นบางลงไปมาก ดูแล้วผอมบางยิ่งนัก
“แต่ว่า…”
จ๋อม!
จัวเซิงก้าวเข้ามาอย่างไม่ใส่ใจนัก เท้าของเขาย่ำลงบนธารน้ำสายนั้นที่กำลังไหลริน
“เขาพกตราหยกดำไว้ติดตัว เพราะงั้นหากไปเจออันตรายเข้าจริงๆ พวกผู้อาวุโสก็คงไม่นั่งดูอยู่เฉยๆ หรอก”
หลัวเยี่ยนหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
“อย่างใดเสีย ที่นี่ก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของสำนัก!”
สีหน้าของหลัวซือซือปรากฏแววผ่อนคลายลงบ้างในที่สุด
ท้ายที่สุด นางก็ผงกศีรษะ
“เช่นนั้น…”
ตูม!
พูดยังไม่ทันจบ บนผืนฟ้ากว้างใหญ่ก็ปรากฏทัณฑ์สวรรค์เส้นที่สองที่มิรู้ว่าออกมาตั้งแต่เมื่อใด!
ที่ยิ่งน่าตกใจไปกว่าก็คือทัณฑ์สวรรค์สายนี้กำลังมุ่งหน้าตรงมาหาพวกเขา!
“ไป!”
หลัวเยี่ยนหมิงรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติจึงรีบตัดสินใจเร่งให้ทุกคนถอยหนีกลับไปโดยด่วน!
จัวเซิงเองก็รีบพาตัวเองขึ้นมาจากธารน้ำ บริเวณครึ่งขาต่างก็เปียกโชก
ทว่าพวกเขาที่ว่าเร็วแล้ว ความว่องไวของทัณฑ์สวรรค์นั้นเรียกได้ว่าเร็วยิ่งกว่า!
ราวกับว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่ากัน ทัณฑ์สวรรค์สายนั้นก็ไล่ตามมาถึงเหนือศีรษะของทุกคนแล้ว
แรงกดดันมหาศาลอันทรงพลังเข้าโอบล้อมพวกเขาเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย!
…
ในตอนนั้นเอง ฝั่งของฉู่หลิวเยว่ก็ตามถวนจื่อมายังบริเวณตาน้ำพุอีกครั้ง
“ถวนจื่อ พวกเรา…”
ฉู่หลิวเยว่เพิ่งจะเอ่ยปากพูดก็ถูกฉากตรงหน้าทำให้ตะลึงเสียจนอ้าปากค้างไปแล้ว
ภายในตาน้ำพุที่มีขนาดตารางชุ่นหนึ่ง น้ำพุที่ใสแจ๋วค่อยๆ พวยพุ่งแผ่วลง จนในที่สุดก็หลงเหลือเพียงผิวน้ำใสสะอาดที่เย็นฉ่ำอยู่ปริมาณหนึ่งเท่านั้น
ข้างในนั้นสะท้อนเงาของทัณฑ์สวรรค์สายนั้นที่ส่องสว่างอยู่เหนือศีรษะได้อย่างชัดเจน
แสงกระทบคลื่นใสราวผลึกแก้ว เปล่งประกายสว่างระยิบระยับ
ในพริบตานั้นเอง ฉากนี้นั้นเหมือนว่าได้สร้างภาพลวงตาให้แก่ฉู่หลิวเยว่ว่าทัณฑ์สวรรค์สายนั้นแท้จริงแล้วอยู่บริเวณใจกลางน้ำพุ
ด้านข้างกันนั้น ราวกับว่ามีระลอกแสงที่ล่องกระฉูดไปตามธารน้ำที่ไหลริน
ฉากอันผิดแปลกประหลาดพิสดารเช่นนี้ ช่างชวนให้ตื่นตกใจนัก จนแม้แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังคงยืนตกตะลึงอึ้งค้างอยู่ที่เดิมระยะหนึ่ง
ส่วนถวนจื่อที่หมอบอยู่ข้างตาน้ำพุก็จ้องมองอย่างกังวล
ราวกับว่า…กำลังรอบางสิ่งบางอย่าง อีกทั้งยังดูเหมือนว่ามันนั้นอยากจะจุ่มหัวลงไปแล้วดึงเอาสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ด้านใต้ออกมา
ฉู่หลิวเยว่พลันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอินทรีสามตาขึ้นมา
มันบอกไว้ว่าน้ำพุนี้สามารถช่วยกระตุ้นพลังสายเลือดของถวนจื่อออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ…
หรือว่าด้านใต้นี้จะมีความลับอันใดบางอย่างจริงๆ?
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ประกายแสงสีทองเรืองรองเบาบางชั้นหนึ่งพลันเข้าปกคลุมนางทั่วทั้งร่าง
มีเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงคอยคุ้มครองอยู่ ในใจของนางก็สงบลงไปบ้าง ก่อนนางจะยื่นมือลงไปยังตาน้ำพุ…
กริ๊ก!
ทว่านางกลับได้ยินเพียงสุ้มเสียงอันประหลาดพิกลเสียงหนึ่งที่แว่วดังขึ้นมา!
ฉู่หลิวเยว่ราวกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง นางเงยศีรษะขึ้นมองดู
ทัณฑ์สวรรค์สายนั้นพลันเร่งความเร็วขึ้นมา ก่อนจะตวัดผ่าลงมายังตัวนางอย่างรุนแรงและรวดเร็ว!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงสายลมที่คลอผ่านใบหูพลันหวีดร้องขึ้นมา!
ทัณฑ์สวรรค์สายที่สองที่เข้าปกคลุมพวกหลัวซือซือก่อนหน้านี้เองก็พลันวกกลับ ก่อนจะตรงมายังฉู่หลิวเยว่เช่นกัน!
ฉ่า ฉ่า!
สุ้มเสียงที่ผ่าแยกอากาศนั้นแหลมเสียดหูยิ่ง!
พวกหลัวซือซือต่างก็เงยศีรษะมองตาม ก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมาแววตาจะฉาบเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ!
เหนือสุดยอดเขา ทัณฑ์สวรรค์สองสายนั้นกำลังผสานรวมตัวกันผ่าลงบนร่างที่ไกลตาออกไปของเด็กหนุ่ม!
ตูม!
ในชั่วพริบตานั้นเอง ลำแสงเรืองรองสว่างจ้าก็สาดทิ่มแทงเข้าสู่ดวงตาของคนทุกผู้!
ส่วนเงาร่างของเด็กหนุ่มผู้นั้นเองก็หายไปในแสงสว่างอันเจิดจ้าสายนี้โดยสิ้นเชิง!