ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1168 ข้ายังพูดไม่จบ
ตอนที่ 1168 ข้ายังพูดไม่จบ
นิ่งสนิท
ทุกสายตาจับจ้องไปยังชายหนุ่มที่เผยยิ้มออกมาอย่างชัดเจนด้วยความรู้สึกอึ้งปนสลดใจ และพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง
สำเร็จแล้ว…
เขาหลอมยาสำเร็จแล้วจริงๆ หรือ! ?
“เป็นไปไม่ได้!”
อยู่ๆ หลิ่วจื่ออันก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง
เขาจ้องเขม็งมายังฉู่หลิวเยว่ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นลุกโชนในดวงตาอย่างเหลือเชื่อ ราวกับต้องการจะแผดเผาร่างของฉู่หลิวเยว่ให้เป็นรู!
“ยาอายุุวัฒนะของเจ้าต้องมีอันใดผิดเพี้ยนเป็นแน่!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด แม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ไม่สั่นไหวเลยสักนิด
“ในเมื่อศิษย์พี่หลิ่วมั่นใจถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่มาตรวจสอบด้วยตัวท่านเองเสียเลย?”
เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของฉู่หลิวเยว่เช่นนี้ หลิ่วจื่ออันก็รู้สึกหวั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเขาราวกับถูกอันใดบางอย่างกำไว้แน่น!
เมื่อครู่เขาเห็นกับตาว่าฉู่เยว่กำลังจะล้มเหลว!
แต่ผู้ใดจะคิดเล่าว่าเขาจะพลิกสถานการณ์ได้ภายหลัง!
หลิ่วจื่ออันคอยปลอบตัวเองอยู่ในใจ
เป็นไปไม่ได้…
ต่อให้เป็นเซียนหมอระดับเก้า หากแต่เจอสถานการณ์อย่างเมื่อครู่เข้าก็ทำอันใดมิได้ นับประสาอันใดกับฉู่เยว่?
แม้ยาอายุวัฒนะของเขาดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอันใด แต่…ผลกระทบจากความผันผวนครั้งใหญ่ในตอนนั้น เขาไม่เชื่อว่ามันจะเป็นยาอายุวัฒนะที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!
ฉู่เยว่ผู้นี้คงแค่แสร้งทำท่าทีสุขุมไปเท่านั้น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลิ่วจื่ออันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมสติก่อนจะเดินไปข้างหน้า
…
“ดูเหมือนศิษย์น้องฉู่เยว่จะมั่นใจในตัวเองมาก”
หลิ่วจื่ออันเอ่ยอย่างเย็นชา
“ถ้าเช่นนั้น เหตุใดไม่เอาออกมาให้ดูหน่อยเล่า?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้ม
“ศิษย์พี่หลิ่วเป็นผู้ปรุงยาเสร็จก่อน เชิญท่านก่อนเถิดขอรับ”
หลิ่วจื่ออันกัดฟันกรอด และยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ากำลังประหม่า
เขายิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น ก่อนจะหยิบตลับหยกของตนขึ้นมา
ทุกสายตาจับจ้องมายังเขา
จากนั้น หลิ่วจื่ออันก็เปิดตลับหยก
ยาอายุุวัฒนะสีแดงสดขนาดเท่าเม็ดลำไยวางแน่นิ่งอยู่ข้างใน!
ทุกคนสามารถมองเห็นลวดลายที่อยู่บนนั้นได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่ามันคือยาเม็ดระดับเก้า!
“ประจักษ์ชัดแล้วหรือไม่?”
น้ำเสียงของหลิ่วจื่ออันฟังดูค่อนข้างร้อนรน
แต่ในขณะที่เขากำลังจะปิดตลับหยกนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ขัดขึ้น
“ช้าก่อน”
หลิ่วจื่ออันขมวดคิ้ว “มีอันใดอีก?”
ฉู่หลิวเยว่ชี้ไปที่ตลับหยกของเขา
“ศิษย์พี่หลิ่ว ดูเหมือนว่ายาอายุวัฒนะของท่าน…จะมีบางอย่างผิดปกติ”
สีหน้าของหลิ่วจื่ออันเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เจ้าพล่ามอันใดไร้สาระ! ยาอายุวัฒนะนั่นคือยาเม็ดระดับเก้า ล้วนเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาผู้คน! จะมีสิ่งใดผิดปกติได้หรือ!”
น้ำเสียงของเขาเริ่มเจือปนมากับความฉุนเฉียวและขุ่นเคือง
สีหน้าท่าทางของฉู่หลิวเยว่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยน
“ศิษย์พี่หลิ่ว แม้ข้าจะเป็นเพียงเซียนหมอระดับแปด มิอาจทัดเทียมกับยาอายุวัฒนะระดับเก้าของท่านได้ แต่…ข้าเองก็เคยเห็นยาอายุวัฒนะระดับเก้ามาบ้าง ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นของท่านเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนคุณลักษณะจะยังไม่ถูกต้องนัก ไม่ทราบศิษย์พี่หลิ่วจะว่าอันใดหรือไม่ หากจะขอให้หยิบยาอายุวัฒนะขึ้นมาให้ทุกคนได้ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน”
หัวใจของหลิ่วจื่ออันเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
เด็กคนนี้
มันมองออกได้อย่างใด! ?
“เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาตั้งคำถามกับยาอายุวัฒนะของข้า?”
หลิ่วจื่ออันกำตลับหยกแน่น พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าอึมครึม
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“นี่เป็นการประลองความท้าทาย สิ่งที่นำมาวัดกันก็คือสิ่งนั้น การเอายาอายุวัฒนะออกมาให้ผู้คนได้เห็นกันชัดๆ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปที่ควรทำกันหรอกหรือ? หรือว่าการที่ศิษย์พี่หลิ่วปฏิเสธเช่นนี้ เป็นเพราะ…ไม่กล้า?”
หลิ่วจื่ออันสำลัก
อยู่ต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ แน่นอนว่าเป็นการยากที่เขาจะหลีกเลี่ยงได้
จึงทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อนความเดือดดาลข้างใน
“เอาล่ะ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อีกเดี๋ยวก็อย่าลืมแล้วกัน ว่าเจ้าเองก็ต้องทำด้วย!”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มพลางพยักหน้าไปตามน้ำ
“แน่นอน ขอเชิญศิษย์พี่หลิ่วเถิด!”
ขณะนี้ หลิ่วจื่ออันที่ขึ้นมาบนหลังเสือแล้วก็ยากที่จะลงได้ง่ายๆ
เขาขบฟันกรอด พลางเปิดตลับหยกอีกครั้ง ก่อนจะหยิบยาอายุวัฒนะในนั้นออกมา
“เฮ้! ดูเหมือนบนยาอายุวัฒนะนั่นจะมีรอยอันใดอยู่!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงอุทานดังออกมาจากฝูงชน
หลิ่วจื่ออันจ้องเขม็งไปยังคนผู้นั้น ด้วยแววตาแข็งทื่อดุร้าย!
คนที่กล่าวเงียบลงทันควัน
แต่ถึงกระนั้นผู้คนก็ล้วนได้ยินประโยคนี้กันแล้วทั้งสิ้น
อีกอย่าง ทุกคนล้วนแต่สายตาดี ถึงคนผู้นั้นไม่บอก พวกเขาก็เห็นอยู่ดีว่ามีรอยดำอยู่บนยาอายุวัฒนะจริงๆ
อันที่จริงรอยมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น อีกอย่างเมื่ออยู่บนยาอายุวัฒนะสีแดงสด มันก็ไม่ได้ดูเตะตาสักเท่าไร
แต่นั่นกลับแสดงให้เห็นว่าคุณภาพของยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ลดน้อยลงอย่างมาก!
“จิ๊ ที่แท้ยาอายุวัฒนะของหลิ่วจื่ออัน ก็แทบไม่ได้รับการกลั่นอย่างสมบูรณ์เลยหรือ?”
“รอยขนาดใหญ่เพียงนี้ ยาเม็ดนี้ยังนับว่าเป็นยาอายุวัฒนะระดับเก้าได้อยู่หรือ?”
“ประสิทธิภาพของตัวยาผสมปนเปกัน กระจายออกไม่สม่ำเสมอ…ยาเช่นนี้ ต่อให้เป็นระดับเก้า ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ได้ดีไปสักเท่าไรหรอก ใช่หรือไม่?”
ผู้คนเริ่มซุบซิบคุยกัน
เซียนหมอบางคนให้คำวิจารณ์ได้เฉียบคมเป็นอย่างมาก
สีหน้าของหลิ่วจื่ออันทั้งแดงทั้งขาวผสมกันไป ราวกับว่ากำลังถูกทรมาน
ก่อนหน้านี้เขาก็เคยกังวลปัญหานี้มาก่อน ไม่คิดว่าสุดท้ายมันจะลงเอยเช่นนี้!
เดิมทีก็อยากจะปล่อยผ่านไป แต่ใครจะรู้ว่าฉู่เยว่ผู้นั้นจะทั้งเจ้าเล่ห์ไร้สัจจะเช่นนี้!
เขาฝืนทนยอมรับสายตาจากทุกคน ก่อนมองไปยังฉู่หลิวเยว่ด้วยความขุ่นเคืองใจ
“เจ้า! บัดนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องเอายาอายุวัฒนะออกมาให้ทุกคนตัดสินแล้วมิใช่หรือ!?”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วเบาๆ ก่อนจะเปิดตลับหยกโดยไม่ลังเล และหยิบยาอายุวัฒนะออกมา
ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ มีขนาดเท่ากับยาอายุวัฒนะทั่วไป แต่สีของมันกลับแปลกพิกล
ทั้งสองเม็ดมีสีเขียวเข้มและฟ้าอ่อน แบ่งครึ่งละสี มีขอบเขตชัดเจน และสีสันอันเข้มข้น!
อีกทั้งพื้นผิวของยาอายุวัฒนะนั้นก็ยังเรียบมันพร้อมประกายแวววาวจางๆ เพียงมองตาเปล่าก็สามารถบอกได้ว่าประสิทธิภาพของยาได้รับการผสานเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลวดลายที่อยู่ด้านบน มันเหมือนกับยาอายุวัฒนะเม็ดใหญ่ของหลิ่วจื่ออันก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน!
เห็นได้ชัดว่ายาอายุวัฒนะที่ฉู่หลิวเยว่กลั่นเองก็อยู่ในระดับที่เก้าเช่นกัน!
หลังจากเห็นสีสันและรูปร่างที่เรียกได้เต็มปากว่าสมบูรณ์แบบของยาอายุวัฒนะนั้นแล้ว หลิ่วจื่ออันก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมา
เขารู้สึกไม่สบายใจนี้เมื่อเห็นลวดลายแบบที่อยู่ในระดับเดียวกันนั้น พลันแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจสุดขีด!
แทบจะในชั่วพริบตาที่เขารู้แล้วว่า การประลองครานี้…เขาแพ้แล้ว!
สีสันของเส้นเลือดเส้นสุดท้ายบนใบหน้าของเขาหาย “วับ” ไปอย่างรวดเร็ว!
กลุ่มฝูงชนที่มุงดูหลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง พลันระเบิดเสียงดังออกมา!
“ระดับเก้า! ยาอายุวัฒนะของฉู่เยว่ก็เป็นระดับเก้าเช่นกัน!”
“อีกอย่างลักษณะเช่นนี้ก็ดูแข็งแกร่งกว่าของหลิ่วจื่ออันอย่างเห็นได้ชัด! เช่นนี้ก็หมายความว่าเขาชนะแล้ว ใช่หรือไม่!”
“มองไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าฉู่เยว่นั่นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
“ฮ่าฮ่า! ผู้ที่เข้าตาผู้อาวุโสวั่นเจิงได้ ก็ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่! เดิมทีหลิ่วจื่ออันคงอยากอาศัยความที่ตนเป็นเซียนหมอระดับเก้าข่มฝ่ายตรงข้ามสิท่า แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรพังไม่เป็นท่าเช่นนี้ คราวนี้แหละ…เกรงว่าจะขายหน้าไม่มีแผ่นดินให้แทรกหนีแล้วกระมัง!”
เสียงต่างๆ ดังลอยมาไม่ขาดสาย
หัวใจของหลิ่วจื่ออันเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าร้อนผ่าวลุกเป็นไฟ!
เขาจะไปรู้ได้อย่างใดว่าฉู่เยว่จะทำสำเร็จจริงๆ!
ตอนนั้นเขายังคิดอยู่ว่ายาอายุวัฒนะของฉู่เยว่ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ แต่ตอนนี้ได้เห็นกับตาแล้ว และเขาก็ยืนอยู่ใกล้ถึงเพียงนี้ เห็นชัดเจนว่ายาอายุวัฒนะของฉู่เยว่นั้นโดดเด่นกว่าของเขาจริงๆ!
แม้แต่จะแย้งขึ้นมาสักประโยค เขายังพูดไม่ออก
ฉู่หลิวเยว่มองไปทางเขา
“ศิษย์พี่หลิ่ว พินิจเสร็จแล้วหรือ?”
หลิ่วจื่ออันกัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเกลียดชัง
“เจ้าชนะแล้ว!”
ว่าจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรง และกำลังจะจากไป
“ช้าก่อน”
เสียงของฉู่หลิวเยว่ดังขึ้นจากด้านหลัง
หลิ่วจื่ออันหันหน้ามา คิ้วขมวดเป็นปมยุ่ง นัยน์ตาฉายแววความเกลียดจังชัดเจน
“ยังคิดจะทำอันใดอีก!?”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะพร้อมกับขมวดคิ้ว ก่อนเอ่ยเนิบๆ ว่า
“ข้าบอกหรือว่าการประลองในครานี้ สิ้นสุดลงแล้ว?”