ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 264 ชดใช้ให้เจ้าก็สิ้นเรื่อง!
ตอนที่ 264 ชดใช้ให้เจ้าก็สิ้นเรื่อง! [รีไรท์]
มีทั้งหมดห้าคนที่เลือกสูตรยาระดับสูง
ตอนนี้คนแรกที่เริ่มทำยาเม็ดและผลออกมาล้มเหลว จึงเหลือเพียงสี่คนทันที!
ที่สำคัญก็คือก่อนหน้านี้เขาใช้พลังมากเกินไป ต่อให้ตอนนี้มีวัตถุดิบยาชุดที่สองให้ เขาก็ไม่มีพลังเหลือในการทดลองอีกแล้ว ดังนั้นจึงทำให้หมดโอกาสไปโดยปริยาย!
เขาก็ถูกกำจัดออกเหมือนคนล้มเหลวคนก่อนๆ และไม่มีสิทธิ์ได้รับอันดับรางวัลในตอนสุดท้าย
ผลสรุปนี้ช่างน่าอนาถเหลือเกิน แต่ทำอะไรไม่ได้
ควรเตรียมตัวให้ดีตั้งแต่ตอนเลือกระดับ ‘สูง’ แล้ว
เฉิงลี่เสวี่ยสีหน้าซีดเซียวจนดูไม่ได้
ในบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าคนในสนามแข่งขันนั้นเป็นศิษย์สำนักหนานเฟิงอยู่สองคน สำนักไท่เหยี่ยนสองคนและสำนักเทียนลู่อีกหนึ่งคน
เดิมทีก็เป็นการได้เปรียบเล็กน้อย แต่พอเป็นเช่นนี้พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับสำนักเทียนลู่ที่เหลือต้นกล้าเป็นต้นเดียว
ที่สำคัญก็ยังไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่!
แววตาของมั่วชังก็ปิดบังความได้ใจเอาไว้ไม่อยู่
“เจ้าดูสิ ก่อนหน้านี้ท่านอาจารย์บอกไว้ว่าอย่างไร? สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดในเรื่องยาหยูกนั้นก็คือความใจร้อน ถ้าไม่มีจิตใจที่สงบสุดท้ายก็จะไม่มีทางสำเร็จ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความสามารถและความแข็งแกร่ง!”
“พอแล้ว…คำพวกนี้รอให้สำนักของพวกเจ้าทำยาเม็ดได้สำเร็จแล้วค่อยพูดก็ยังไม่สาย!”
เฉิงลี่เสวี่ยตัดบทเขาด้วยความรำคาญ
ผู้อาวุโสมั่วชังหัวเราะและไม่ได้โต้เถียงกับเขา
รอให้ผลออกมา แล้วคอยดูว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ตบหน้าใคร!
ผู้อาวุโสเฟิงอี้ไม่ได้พูดอะไรกับสองคนนี้มาก เพียงแค่หัวเราะพลางมองไปยังลูกศิษย์ที่อยู่ในสนามแข่งขัน ถึงอย่างไรสำนักเทียนลู่ก็ครองอันดับหนึ่งไปสองในสามตำแหน่งของงานสมาคมเยาวชนในปีนี้แล้ว ต่อให้ไม่ได้อันดับต้นในการแข่งขันอัจฉริยะแพทย์ก็ไม่มีผลอะไร
ผลงานก่อนหน้านี้ของฉู่หลิวเยว่ช่วยคลายความกดดันให้เขาไม่น้อย!
เด็กน้อยคนนั้นไม่ได้ทดลองต่อและออกจากสนามแข่งขันทันที
ซือถูซิงเฉินเพียงแค่ชำเลืองมองด้วยหางตาจากนั้นก็เก็บสายตากลับมา
ตอนนี้คู่แข่งของเขาเหลือเพียงสามคนเท่านั้น!
…
“สหายจ้งเหยียน ตอนนี้เวลาผ่านไปครึ่งหนึ่ง ไม่นานการแข่งขันครั้งนี้ก็จะจบลงแล้ว ดูจากท่าทีแล้ว ผู้อาวุโสจงเยี่ยไม่มาใช่หรือไม่?”
เฉิงหันจงใจเอ่ยถาม
ซุนจ้งเหยียนถึงกับขมวดคิ้ว
เขาบอกเฉิงหันตั้งแต่วันแรกแล้วว่าช่วงนี้ผู้อาวุโสจงเยี่ยเขาจะไม่ออกไปไหนมาไหน ทำไมเขายังถามอยู่อีก?
“ท่านอาจารย์ลุงเป็นคนรักอิสระมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเขาให้ความสนใจกับการฝึกปรุงยามาตลอด คิดว่าทุกคนน่าจะรู้เรื่องนี้กัน?”
เฉิงหันหัวเราะ
“สหายจ้งเหยียนอย่าได้เข้าใจผิดไป เพียงแต่ข้ารู้สึกเสียดายก็เท่านั้น!”
ซุนจ้งเหยียนรู้สึกว่าคำพูดดีๆ คงไม่มีทางออกจากปากของเขาแน่นอน จึงไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร แต่วันนี้เฉิงหันมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมพร้อมกับเชิดหน้าชูตา และคงไม่หยุดเพียงแค่นั้นแน่นอน
“ใจหนึ่ง ข้าก็เคารพนับถือผู้อาวุโสจงเยี่ยมาตลอด แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ข้าเจอเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น จึงรู้สึกเสียใจ อีกใจหนึ่งผู้อาวุโสจงเยี่ยนั้นมีพลังที่แข็งแกร่ง การฝึกกลั่นยาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถสืบสานต่อไปได้…จะไม่ให้รู้สึกเสียดายได้อย่างไร?”
เขาหรี่ตาราวกับว่ากำลังนึกย้อนถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง
“เมื่อสิบปีที่แล้ว ข้าเคยนัดแนะกับผู้อาวุโสจงเยี่ยไว้บ้างว่าต่อไปถ้ามีลูกศิษย์แล้วจะต้องให้พวกเขาได้เรียนรู้ แต่ตอนนี้…”
ซุนจ้งเหยียนยิ้มหยัน
นัดแนะ?
คงเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น!
เมื่อสิบปีที่แล้ว เฉิงหันได้บรรลุแพทย์ในระดับที่ห้า
เขานึกว่าตัวเองจะแข็งแกร่งพอแล้ว จึงวิ่งไปยังสำนักเทียนลู่และท้าทายผู้อาวุโสจงเยี่ย
ยามนั้นผู้อาวุโสจงเยี่ยก็มีชื่อเสียงมานานแล้ว อย่าพูดถึงแคว้นเย่าเฉิน เพราะแม้แต่กษัตริย์ของเมืองรอบๆ ก็ไม่มีใครเทียบเคียงได้ เฉิงหันมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ และกลับไปด้วยความเศร้าหมอง
“การนัดแนะ” ระหว่างเหล่าลูกศิษย์ที่ว่านั้น สุดท้ายก็เป็นเพียงการหาข้ออ้างให้กับตัวเองของเขาก็เท่านั้น!
ตอนนี้เขายังจะกล้าสู้หน้าผู้คนอยู่หรือไม่?
ในใจของเฉิงหันรู้สึกได้ใจมาก
เยี่ยจือถิงคนนั้นช่างเป็นคนที่เก่งในด้านการแพทย์จริงๆ
ตอนนี้เขาเกรงว่าแม้แต่ศัตรูของเยี่ยจือถิง ตัวเขาเองก็ยังเป็นไม่ได้
แต่ว่าที่ผ่านมาเยี่ยจือถิงไม่เคยรับลูกศิษย์เลยสักคน!
วันนี้ในเมืองหลวงของแคว้นเย่าเฉิน ขอแค่ซิงเฉินคว้าที่หนึ่งของสมาคมเยาวชนครั้งนี้มาได้ จากนั้นก็เหยียบย่ำทุกคนให้อยู่ใต้เท้า ถ้ามองจากบางมุมก็ถือเป็นการแก้แค้นอย่างหนึ่งของเขา!
“ใครบอกว่าท่านอาจารย์ไม่มีลูกศิษย์กัน?”
ซุนจ้งเหยียนพูดตัดบทเฉิงหัน ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน
ก่อนเฉิงหันจะนิ่งไป
“งั้นรึ? ผู้อาวุโสจงเยี่ยรับลูกสิทธิ์แล้ว? ทำไมไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลยเล่า? หรือจะเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันครั้งนี้?”
พูดแล้วเขาก็รีบกวาดสายตาไปในสนามแข่งขันรอบหนึ่ง
คนของสำนักเทียนลู่เป็นสำนักเดียวที่เลือกระดับ “สูง” คนนั้น เขาจำได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์แพทย์อีกคนหนึ่ง…
ส่วนคนอื่นๆ ยังอยู่ในระดับต่ำ อีกอย่างถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครที่โดดเด่นเป็นพิเศษอีกด้วย
สายตาของเยี่ยจือถิงถึงได้เปลี่ยนแปลงแย่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ซุนจ้งเหยียนไม่พูดไม่จา
“ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันในวันนี้”
เฉิงหันยิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าใจใหญ่จนหัวเราะออกมา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือว่าลูกศิษย์ของผู้อาวุโสจงเยี่ยไม่ให้ค่าสมาคมเยาวชน? หรือว่า…ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่แรกกันแน่”
คนที่สามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันแพทย์อัจฉริยะได้นั้น อย่างน้อยต้องเป็นแพทย์ที่อยู่ระดับสองเท่านั้น
ซุนจ้งเหยียนโมโหจนหัวเราะออกมา
เฉิงหันคนนี้คิดว่าตัวเองรับลูกศิษย์อย่างซือถูซิงเฉินมาได้หนึ่งคนแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นรึ?
ถ้าเขารู้ว่าลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ลุงเป็นคนที่ได้รับชัยชนะทั้งสองสนามอย่างฉู่หลิวเยว่ ไม่รู้ว่าเขาจะแสดงสีหน้าอย่างไร!
“เรื่องนี้ขอไม่รบกวนให้สหายเฉิงหันเป็นกังวลจะดีกว่า”
เฉิงหันหัวเราะลั่นพลางยิ่งรู้สึกได้ใจขึ้นอีก
ถ้ามีความสามารถจริง ทำไมถึงไม่เข้าแข่งขัน?
ร้อยละแปดสิบต้องเป็นเพราะไม่มีสิทธิ์เข้าแข่งขันแน่นอน
…
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินพวกเขาทั้งสองถกเถียงกัน ก็เก็บงำความสามารถที่ตัวเองมีเอาไว้และอดที่จะแสยะยิ้มมุมปากไม่ได้
เฉิงหันมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้วถึงซือถูซิงเฉินจะมีพรสวรรค์ด้านการแพทย์สักเพียงใด แต่มันก็แค่นั้นถึงแม้ว่านางจะเป็นยอดในที่แห่งนี้ แต่เมื่อนางไปยังราชวงศ์เทียนลิ่ง ก็สู้คนอื่นไม่ได้อยู่ดี
ทันใดนั้น ซือถูซิงเฉินก็เริ่มทดลองกลั่นยาเม็ดทันที!
หึ่ง…!
เสียงการกลั่นยาของนางแรงกว่าชายหนุ่มก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
ในเปลวไฟของเตากลั่นที่อยู่ตรงหน้าของซือถูซิงเฉินเริ่มมีโครงร่างของยาเม็ดปรากฏขึ้น!
ฝูงชนพากันเคลื่อนไหว!
ซือถูซิงเฉินจ้องตาเขม็ง ใจเต้นแรงจนแทบจะเคลื่อนมาอยู่ในลำคอ
ขอแค่นิ่งไว้…ขอแค่ผ่านด่านสุดท้ายนี้ให้ได้!
กระบวนการทำยาเม็ดเป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังสุดๆ เพียงเวลาสั้นๆ หน้าของนางกลับกลายเป็นสีซีดขาวไปแล้ว ดูเหมือนว่าเปลวไฟจากหม้อยานั้นไม่ค่อยนิ่งนัก แต่กลับลุกไหม้สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นแววตาของฉู่หลิวเยว่นิ่งไป!
ลมปราณอันตรายที่คุ้นเคยกำลังถูกส่งมา จากนั้นนางก็ลุกขึ้นอย่างงุนงง ก่อนจะเดินมุ่งตรงเข้าไปในสนาม ความเร็วของนางนั้นเร็วมากจนเข้าไปถึงขอบสนามในพริบตาเดียว
“หลิวเยว่ เจ้าจะทำอะไร?”
ทันทีที่เห็นฉู่หลิวเยว่ปรากฏตัว ทุกคนก็พากันอึ้งจนไม่มีใครยื้อนางไว้ได้ทันเลยสักคน
ฉู่หลิวเยว่สะบัดข้อมือเพียงครั้งเดียว กริชเล่มหนึ่งก็บินออกไป!
ตึง!
กริชปักลึกเข้าไปในขาตั้งหม้อยาต่อหน้าชายหนุ่มคนหนึ่ง แล้วแรงอันทรงพลังก็ทำให้ถล่มทันที!
ซือถูซิงเฉินอยู่ไม่ไกลจากขอบสนาม เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่กำลังเดินมาก็ใจเต้นแรง จึงเสียการควบคุมเปลวไฟในหม้อยาไป
ตู้ม!
เมื่อไร้การควบคุม เปลวไฟในหม้อยาก็เผาอย่างรุนแรง ยาเม็ดที่ได้ขึ้นเป็นรูปเป็นร่างในตอนแรกได้สลายไปแล้ว ซือถูซิงเฉินนิ่งไปอย่างกะทันหัน ในที่สุดก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ฉู่หลิวเยว่ เจ้าทำอะไร!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สนใจนางก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มคนนั้น
ในมือของเขาเมื่อครู่ “ฉู่หลิวเยว่”
ซือถูซิงเฉินโมโหทันที ก่อนจะรั้งฉู่หลิวเยว่พลางตะโกนเสียงดัง
“ตอนนี้กำลังแข่งขันอยู่ ยาที่ข้ากลั่นกำลังจะสำเร็จแล้ว แต่เจ้ากลับพุ่งเข้ามาทำลายยาเม็ดของข้า เจ้าจะเอาอย่างไรเจ้าก็ว่ามาเสีย!”
ฉู่หลิวเยว่มองนางด้วยสายตาเยือกเย็น
“สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือเจ้าอย่าห้ามข้า ยาที่ถูกทำลายไปนั้น ข้าชดใช้ให้เจ้าก็สิ้นเรื่อง!”