ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 314 ออกจากการเป็นรัชทายาท
ตอนที่ 314 ออกจากการเป็นรัชทายาท [รีไรท์]
ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นว่าคนที่มีคือองค์รัชทายาทหรงจิ้น
ตั้งแต่ที่มู่ชิงเห่อได้ทำให้เขาอับอายต่อสาธารณชนในงานเลี้ยงฉลองแล้ว หรงจิ้นก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง เขาคิดว่าจะรอให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้สถานการณ์สงบลงแล้วค่อยออกไป ฉะนั้นก่อนหน้านี้ที่เขาได้ยินข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงของหอคอยจิ่วโยวจึงไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เพียงแต่ต่อมาเขาก็ได้ยินว่าเสด็จพ่อ และแม่เลี้ยงต่างก็พากันไปที่นั่น จึงรู้สึกระวนกระวายขึ้นมา
แต่นึกไม่ถึงว่าทันทีที่มาถึงก็จะได้ยินหรงซิวขอร้องท่านพ่อให้จัดงานอภิเษกให้แบบนี้ และคู่อภิเษกสมรสก็ยังเป็นเขากับฉู่หลิวเยว่อีกด้วย
หรงจิ้นไม่ทันได้สนใจคนอื่นๆ และเอ่ยปากห้ามโดยไม่ทันได้คิดอันใด
หรงจิ้นเพิ่มความเร็วในการเดิน และมาอยู่ตรงหน้าของจักรพรรดิจยาเหวินท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ก่อนจะกลืนน้ำลาย และเอ่ยปากอย่างยากลำบาก
“เสด็จพ่อ ท่านจะเห็นด้วยกับงานแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้”
จักรพรรดิจยาเหวินขมวดคิ้ว
“องค์รัชทายาท เจ้าไร้เหตุผลเกินไปแล้ว”
เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน และใช้น้ำเสียงแบบนี้
หรงจิ้นถึงกับอึ้ง และเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตัวเองทำแบบนี้นั้นไม่เหมาะสมจริงๆ
แต่สถานการณ์ที่รีบร้อน เขาจึงไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เมื่อจักรพรรดินีเห็นหรงจิ้นเป็นแบบนี้จึงรีบนึกถึงคำพูดโง่ๆ ที่เขาเคยบอกว่าจะแต่งหรงจิ้นเข้ามาเป็นจักรพรรดิ ใจก็เต้นแรงด้วยความโมโหทันที
หรงจิ้นโผล่ออกมาตอนนี้นั้นบ้าไปแล้วหรืออย่างใด
“องค์รัชทายาท ที่นี่ไม่มีเรื่องอันใดที่เกี่ยวกับเจ้า เจ้ากลับไปก่อน”
จักรพรรดินีพูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นและหนักแน่นของนาง
แต่ตอนนั้นหรงจิ้นกับไม่ได้ฟังใครสักคน กว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองชอบฉู่หลิวเยว่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะปล่อยให้พลาดไปแบบนี้ได้อย่างใด
จะให้เขายอมปล่อยให้นางไปอยู่ในมือคนอื่นนั้นไม่มีทางแน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เขาจึงกัดฟัน แล้วคุกเข่าลงเช่นเดียวกัน
“เสด็จพ่อ งานอภิเษกสมรสนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญมาก ได้โปรดจงคิดให้ดีก่อน”
จักรพรรดิจยาเหวินขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เดิมทีงานอภิเษกสมรสก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อออกจากปากหรงจิ้นแล้วเหตุใดถึงกลายจะเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างใดอย่างนั้น?
“เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? หรงจิ้น ถึงเจ้าจะเป็นองค์รัชทายาท แต่เรื่องงานอภิเษกสมรสนั้นยังไม่ได้ถึงตาของเจ้าที่จะมาพูดมากแบบนี้”
เพราะเรื่องในงานเลี้ยงนั้น จักรพรรดิจยาเหวินไม่พอใจหรงจิ้นเป็นอย่างมาก วันนี้ที่ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ความอดทนของจักรพรรดิจยาเหวินจึงหมดไปตั้งนานแล้ว
ฉะนั้น เขาจึงไม่มีการไว้หน้าหรงจิ้นเลยสักนิด
จักรพรรดินีสังเกตเห็นว่าตอนนั้นเขากำลังโมโหอยู่จึงรีบเดินเข้าไป และคิดจะพยุงหรงจิ้นขึ้นมา
“ไม่ได้ยินสิ่งที่เสด็จพ่อของเจ้าพูดหรือ? ยังไม่รีบลุกขึ้นมาอีก หลีอ๋องกับแม่นางฉู่รักใคร่เหมาะสมกัน และเป็นคู่สร้างคู่สมกัน ถ้าจ้ายังพูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่ อย่าหาว่าแม่ไม่เตือนก็แล้วกัน!”
จักรพรรดินีใช้แรงหยิกแขนของหรงจิ้น และส่งสายตาที่ข่มขู่ในมุมที่ทุกคนมองไม่เห็น
ความประทับใจที่จักรพรรดิจยาเหวินที่มีต่อหรงจิ้นนั้นถดถอยไปมาก ถ้าวันนี้ยังก่อเรื่องอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทนี้ คงต้องไตร่ตรองใหม่เสียแล้ว
หรงจิ้นรู้สึกเจ็บแต่ในใจกลับรู้สึกสับสนไปหมด
เขาไม่รู้ว่าถ้าตัวเองทำแบบนี้แล้วจะเกิดอันใดขึ้น แต่ว่า…
เขาอดมองไปยังฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างผอมเพรียว และถึงแม้ร่างกายของเธอจะมีเลือดเลอะเทอะ แต่ก็ยังไม่ทำลายความสง่างามของเธอ
ก่อนหน้านี้ หญิงสาวคนนี้เป็นของเขาแท้ๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจึงยกเลิกการหมั้นหมาย แต่ถ้าจะให้เขามองดูฉู่หลิวเยว่ถูกคนอื่นขออภิเษกสมรสด้วยนั้น เขารับไม่ได้เด็ดขาด
โดยคนนั้นคือหรงซิว!
เขาคว้ามือของจักรพรรดินีเอาไว้ ก่อนจะสะบัดออกด้วยความแน่วแน่
จักรพรรดินีโมโหก่อนจะได้ยินหรงจิ้นพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“เสด็จพ่อ ลูกพูดจากใจจริง เพราะลูกชอบหลิวเยว่”
จากนั้นก็มีเสียงตกใจดังมาจากฝูงชน
“ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่ องค์รัชทายาทบอกว่า เขาชอบฉู่หลิวเยว่”
“ข้าไม่เข้าใจจริงๆ เมื่อก่อนเขากับฉู่หลิวเยว่ได้หมั้นหมายกับเขาแล้ว และเป็นเขาเองที่ยกเลิกการอภิเษกเอง นี่ก็เพิ่งจะผ่านไปไม่เท่าไรก็รู้สึกเสียใจทีหลังแล้วหรือ?”
“เหอะๆ เสียใจทีหลังก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ฉู่หลิวเยว่ในตอนนี้มีด้านไหนบ้างที่นางไม่โดดเด่น ถ้าข้าพลาดคู่อภิเษกแบบนี้ไป ข้าก็เสียดายเหมือนกัน”
”ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ในฐานะที่เป็นองค์รัชทายาทแล้วเป็นคนกลับกลอกแบบนี้ก็คงจะดูไม่ดีสักเท่าใด…อีกอย่างหลีอ๋องก็เป็นคนขอจัดงานอภิเษกก่อนด้วย ตอนนี้องค์รัชทายาทมาแทรกแบบนี้…ไม่ว่าอย่างใดก็ดูจะเกินไปหน่อย…”
“ไม่รู้ว่าฝ่าบาทคิดอย่างใด…การที่องค์รัชทายาทและหลีอ๋องแย่งผู้หญิงต่อหน้าผู้คนแบบนี้ มันช่าง…”
ส่วนฉู่เชียนหมิ่นที่ตามมาพร้อมกับหรงจิ้นก็มองเหตุการณ์นี้ด้วยความเยือกเย็น มุมปากใต้ผ้าคลุมอดที่จะยิ้มเยาะเย้ยไม่ได้
เดิมทีนางคิดว่าตัวเองจะรู้สึกเสียใจมาก แต่เมื่อเห็นหรงจิ้นพูดแบบนั้นต่อหน้าทุกคนแล้ว นางก็ตกใจจนสังเกตเห็นว่าตัวเองแค่อยากจะหัวเราะออกมาเท่านั้น
เขาก็เป็นคนแบบนี้มาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
เมื่อก่อนฉู่หลิวเยว่เป็นคนไร้ประโยชน์ มักจะถูกคนรังแก และโดดเดี่ยวน่าสังเวช หรงจิ้นจึงนึกว่าการมีจักรพรรดินีแบบนี้ทำให้เขาอับอายขายหน้า จึงไม่อยากจะอยู่กับนางแม้แต่วินาทีเดียว
ตอนนี้ใบหน้าของฉู่เชียนหมิ่นถูกทำลาย และชื่อเสียงก็ป่นปี้ไปหมดแล้ว เขาจึงละเลยนางเช่นกัน
เขาเอาแต่ตามล่าหาสิ่งที่ดีกว่า เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีที่สุดในโลกนี้ต้องเป็นของเขาทั้งหมด
น่าตลกที่นางอยู่ปรนนิบัติ และดูแลอยู่ข้างกายของเขามาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถแลกความรักของเขามาได้เลยสักนิด กลับกันยังต้องมาดูเขาเป็นบ้าเพราะผู้หญิงอีกคนอยู่ตรงนี้อีกด้วย
ฉู่เชียนหมิ่นก้มหน้าลงเพื่อเก็บซ่อนความเสียใจในแววตาเอาไว้
จักรพรรดิจยาเหวินทำหน้าตกตะลึง
“เจ้าพูดว่าอันใดออกมา”
หรงจิ้นสูดหายใจลึกก่อนจะเอ่ยปาก
“เมื่อก่อนนั้นเป็นเพราะลูกไม่รู้เรื่อง จึงไม่ได้รักษาหลิวเยว่เอาไว้ ตอนนี้จึงตื่นจากความโง่เขลา ได้โปรดเสด็จพ่อจงนำงานแต่งของพวกข้าทั้งสองกลับมาด้วยเถิด ลูกจะดูแลนางเป็นอย่างดีแน่นอน ท่านพ่อโปรดอภัยให้ลูกด้วย”
จักรพรรดิจยาเหวินนึกว่าสมองของหรงจิ้นมีปัญหาไปแล้ว
คนที่ยกเลิกงานอภิเษกสมรสก็เป็นเขา และคนที่จะจัดงานอภิเษกอีกครั้งก็เป็นเขาเช่นกัน
เขานึกว่ากำลังแสดงละครอยู่หรืออย่างใดกัน
“หรงจิ้น! เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอันใดอยู่”
จักรพรรดิจยาเหวินพูดด้วยน้ำเสียงโมโห
ในใจของหรงจิ้นหยุดชะงักไป และรู้ว่าจักรพรรดิจยาเหวินโกรธแล้วจริงๆ เขารู้ดีว่าการที่ตัวเองทำแบบนี้จะเป็นการทำให้จักรพรรดิจยาเหวินอับอายขายหน้า แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ขึ้นหลังเสือจนลงมาได้ยากแล้ว
คุกเข่าก็คุกเข่าไปแล้ว และยังเอ่ยปากออกไปแล้วด้วย
ถ้าถอดใจเอาตอนนี้ จะไม่ทำให้น่าตลกกว่าเดิมหรือ
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาไม่มีทางปล่อยฉู่หลิวเยว่ไปแน่นอน
เขายืดหลังตรงพลางมองจักรพรรดิจยาเหวิน ก่อนจะเอ่ยปากว่า “ลูกตัดสินใจแล้ว”
“เจ้าตัดสินใจแล้วได้อันใด เรื่องนี้จะปล่อยให้เจ้าทำตามใจตัวเองไม่ได้”
หรงจิ้นนิ่งไปทันที
“ลูกเป็นองค์รัชทายาท หลิวเยว่เป็นจักรพรรดิขององค์รัชทายาทไม่เป็นสองรองใครทั้งนั้น”
จักรพรรดิจยาเหวินโมโหสุดๆ จนหน้าอกสั่นอย่างรุนแรง
ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาคงเตะขาออกไปแรงๆ ไปแล้ว
เมื่อก่อนนั้นรู้สึกว่าหรงจิ้นเป็นคนที่ดีในทุกๆ ด้าน และเป็นองค์รัชทายาทที่ไม่เป็นสองรองใคร
แต่ไม่รู้ว่าเขาเริ่มเป็นคนที่ใจแคบ ชอบเอาชนะ และกล้าทำเรื่องน่าเกลียดเพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ตัวเองต้องการตั้งแต่เมื่อใด
ที่เขาให้อภัยก็เพราะคิดว่าหรงจิ้นจะรู้จักแก้ไข แต่ดูจากตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจผิดไปแล้ว
นิสัยของหรงจิ้นนั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้
การที่หรงซิวประกาศอภิเษกต่อหน้าทุกคน ก็เป็นการแสดงถึงความรักและความจริงใจต่อฉู่หลิวเยว่แล้ว
แล้วหรงจิ้นล่ะ
เขาทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาแย่งผู้หญิงกับพี่น้องของตัวเองอย่างเปิดเผย
ทั้งที่หญิงสาวคนนี้เป็นคนที่เขายกเลิกงานอภิเษกแท้ๆ
หน้าตาของราชวงศ์ถูกเขาทำให้ขายหน้าไปหมดแล้ว!
จักรพรรดิจยาเหวินชี้หน้าหรงจิ้น ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเย็นชา
“ดูแล้วองค์รัชทายาทคนนี้จะไม่มีความอดทนเลยสักนิด วันนี้ข้าจะให้เจ้าลงจากการเป็นองค์รัชทายาทให้ดู”