ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 315 ตลอดทั้งชีวิต
ตอนที่ 315 ตลอดทั้งชีวิต [รีไรท์]
“ฝ่าบาท!”
เมื่อจักรพรรดินีได้ยินคำว่า “ออกจากการเป็นรัชทายาท” แล้ว ก็มือเท้าชา และอุทานด้วยความตกใจทันที
“ฝ่าบาทใจเย็นๆ ก่อนนะเพคะ เจ้าชายทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าอย่า…“
“อารมณ์ชั่ววูบ? ข้าเห็นอย่างชัดเจนว่ามันใช้อำนาจการเป็นองค์รัชทายาทเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง และคิดว่าทุกอย่างขึ้นอบู่กับมันต่างหาก!”
จักรพรรดิจยาเหวินโมโหสุดๆ
“มันไม่สมควรเป็นองค์รัชทายาท!”
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหรงจิ้นปรารถนาและรอคอยอยากได้ตำแหน่งนี้มาก
เมื่อก่อนที่เขาลอบฆ่าองค์ชายสาม ตอนนี้ก็ยังจะแย่งฉู่หลิวเยว่กับองค์ชายเจ็ดอีก
เขาโอหังถึงเพียงนั้น บัลลังก์นี้ยังจะคู่ควรให้เขานั่งได้อย่างใด
ถ้าวันหนึ่งเขามีอำนาจกว่านี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างใดแล้ว
จักรพรรดินีถึงกับเข่าอ่อนจนแทบจะล้มลงกับพื้นทันที คำพูดนี้ของจักรพรรดิจยาเหวินเทียบเท่ากับการประหารชีวิตหรงจิ้นไปแล้ว!
ถ้าถูกโค่นบัลลังก์ลงจริงๆ ถ้าอย่างงั้นต่อไปก็คงไม่สามารถกลับมายืนหยัดอีกครั้งได้แล้ว
“ฝ่าบาท! เป็นเพราะความผิดของข้าเอง เป็นเพราะข้าไม่สั่งสอนองค์รัชทายาทให้ดีเอง!ได้โปรดท่านทรงให้อภัยเขาสักครั้งเถิดนะเพคะ!”
จักรพรรดินีคุกเข่าลง ก่อนจะขอร้องอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา
ส่วนหรงจิ้นก็นิ่งเหม่อไปแล้ว
“เสด็จ…เสด็จพ่อ?”
เขาก็แค่อยากจะได้ฉู่หลิวเยว่มาเป็นจักรพรรดินีเท่านั้น ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายผิดบาปอันใด เหตุใดเสด็จพ่อถึงโมโหถึงเพียงนี้ ถึงกับต้องล้มบัลลังก์ของเขาเลยหรือ
เพี๊ยะ!
เสียงตบดังแสบแก้วหูสนั่นขึ้นมา
เป็นเสียงของจักรพรรดินีที่ตบหรงจิ้นไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยปากด้วยความโมโห
“ยังไม่รีบยอมรับผิดต่อหน้าเสด็จพ่อของเจ้าอีก”
หรงจิ้นโดนตบหน้าไปทีหนึ่ง และโดนตบบวมแดงขึ้นมา มุมปากก็มีเลือดซิบออกมา
ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการตบครั้งนี้ของจักรพรรดินีนั้นแรงเพียงใด
“เจ้ายังกล้ายังนิ่งอยู่อีก”
ในใจของจักรพรรดินีร้อนรนสุดๆ สีหน้าก็ยิ่งซีดเข้าไปอีก และแววตาก็แดงจนน้ำตาแทบไหลออกมา
ทันใดนั้นนางก็อดที่จะเดินเข้าไปทำให้หรงจิ้นตื่นตัวไม่ได้
เขารู้หรือไม่ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างใด
ฝ่าบาทกำลังเปิดปากทางแล้ว ถ้าไม่พยายามห้ามไว้ ถ้าอย่างงั้นบัลลังก์ขององค์รัชทายาทนี้คงจะโค่นอย่างแน่นอน!
ถึงเวลานั้น ถ้าอยากจะรั้งก็คงรั้งเอาไว้ไม่อยู่แล้ว!
หรงจิ้นเป็นคนที่ฉลาดมาตลอดแท้ๆ เหตุใดวันนี้ถึงได้ตัวโง่เขลาถึงเพียงนี้
ไม่สิ ควรจะบอกว่า ตั้งแต่ที่เขาเริ่มไปมาหาสู่กับฉู่หลิวเยว่ก็ค่อยๆ กลายเป็นแบบนี้ไป
ทั้งหมดนี้ต่างเกิดขึ้นเพราะฉู่หลิวเยว่ทั้งนั้น ถ้าไม่มีนาง หรงจิ้นถูกตบจนเวียนหัวตามัว แต่ก็ถือว่าเขาได้ตื่นจากการสั่งสอนของจักรพรรดินีมากแล้ว
เขาคุกเข่าพลางขยับไปข้างหน้า
“ได้โปรดเสด็จพ่อทรงใจเย็นก่อนลูกผิดไปแล้ว”
จักรวรรดิจยาเหวินยิ้มอย่างเฉยชา
“ตอนนี้สำนึกผิดแล้วหรือ? เมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้ใช้ตำแหน่งองค์รัชทายาทข่มขู่จนเป็นบ้าหรือ”
ที่จริงแล้ว เรื่องที่หรงจิ้นสั่งคนให้ไปลอบฆ่าหรงจิ่วก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะโมโห แต่กลับไม่ได้คิดจะกำจัดหรงซิวแต่อย่างใด
เดิมทีคนในพระราชวังนั้นก็โหดเหี้ยมมากอยู่แล้ว
โดยเฉพาะองค์จักรพรรดินี
ถ้าหรงจิ้นจะจิตใจอำมหิตก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
แต่ว่า เรื่องในวันนี้ทำให้เขาผิดหวังสุดๆ
หรงจิ้นถึงขั้นกล้าทำเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคนเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
คนแบบนี้ ยากที่จะทำการใหญ่ได้
หรงจิ้นกระวนกระวาย ถึงได้รู้ว่าเรื่องนี้ได้เลยเถิดไปจนเกินกว่าจะควบคุมได้แล้ว
“เสด็จพ่อ ลูก ลูกเปล่า”
จักรพรรดิจยาเหวินกลับขี้เกียจที่จะฟังเขาอธิบาย และตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“มานำตัวไป”
“ช้าก่อนฝ่าบาท!”
จู่ๆ จักรพรรดินีก็เหมือนคิดอันใดบางอย่างออก ตาก็เป็นประกายพลางรีบเอ่ยปาก
“ฝ่าบาท ท่านลืมคำเชิญก่อนหน้านี้จากท่านจักรพรรดิของแคว้นซิงหลัวไปแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าจะพาหรงจิ้นไป และตอนนี้ก็เหลือเวลาเพียงยี่สิบวันแล้ว ถ้าท่านให้หรงจิ้นลงจากบัลลังก์ตอนนี้ เรื่องนี้…จะจัดการอย่างใดหรือ?”
จักรพรรดิจยาเหวินนิ่งไปก่อนจะขมวดคิ้ว
เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
ที่จริงแล้วคำเชิญครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ที่สำคัญก็คือทางแคว้นซิงหลัวอยากจะให้หรงจิ้นอภิเษกสมรสกับซือถูชิงเฉิน
ถ้าตอนนี้หรงจิ้นถูกไล่ออกจากบัลลังค์แล้ว ถ้าอย่างนั้น…ก็คงจะวุ่นวายมากแน่นอน
ตอนนี้เขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ที่อีกฝ่ายมองว่าสำคัญนั้นเป็นตำแหน่งองค์รัชทายาทของหรงจิ้นหรือเพราะตัวตนที่แท้จริงของเขากันแน่
จักรพรรดิจยาเหวินจมอยู่ในความลำบากใจ จึงเงียบไปชั่วขณะ และซือถูชิงเฉินยืนฟังคำพูดนี้อยู่ตรงที่ไม่ไกล ก็นิ่งอึ้งไปทันที
แบบนี้มันหมายความว่าอย่างใดกัน?
เสด็จพ่อและจักรพรรดิจยาเหวินนัดแนะเรื่องนี้กันตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดนางถึงไม่รู้?
อีกอย่างเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าหรงจิ้นจะไป!
แคว้นเย่าเฉินและแคว้นซิงหลัวนั้นต่างคนต่างอยู่และไม่ยุ่งเกี่ยวกันมาโดยตลอด เหตุใดจู่ๆ พวกเขาถึงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันได้?
อีกอย่างตัวนางที่เป็นองค์หญิงเองก็ยังไม่รู้เรื่องอันใดเลยอีกด้วย
ขณะที่ในใจของซือถูชิงเฉินกำลังเต็มไปด้วยความสงสัย จู่ๆ ก็นึกออกทันที
เดี๋ยวก่อน! หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้…ที่ผู้อาวุโสเหลียนหนิงบอกว่า…เสด็จพ่อคิดจะให้นางสมรสกับหรงจิ้น?
ตอนนี้นางยังไม่รู้เลยว้เหตุใดเสด็จพ่อของนางถึงมีความคิดแบบนี้ อีกอย่างยังสนับสนุนมากอีกด้วย สีหน้าของซือถูชิงเฉินดูไม่ดีนัก
สำหรับหรงจิ้นแล้ว นางไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด
ถ้าเรื่องนี้สามารถทำให้เสด็จพ่อล้มเลิกความคิดเรื่องงานอภิเษกสมรสได้ นางหวังให้เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
จากนั้นจักรพรรดิจยาเหวินก็ดูเหมือนลังเลสุดๆ
เมื่อจักรพรรดินีเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะพลิกผันแล้ว จึงขยับเข้าไปใกล้
“ฝ่าบาท วันนี้หรงจิ้นทำความผิดที่ร้ายแรงมาก ท่านจะลงโทษเขาอย่างใดก็ได้ แต่เรื่องตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบ้านเมือง ท่านควรจะคิดให้ดีเสียก่อนนะเพคะ!”
จักรพรรดิจยาเหวินรู้สึกไม่เห็นด้วยสักเท่าไรนัก
เขาไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่หรงจิ้นแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นเพราะ…เขาต้องคำนึงถึงทางฝั่งซิงหลัวมากกว่า
จักรพรรดินีรีบส่งสัญญาณให้เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่เพื่อให้รีบเข้ามาทันที
เดิมทีคนเหล่านั้นคือสมุนขององค์รัชทายาทอยู่แล้ว ตอนนี้จึงต้องต่อสู้เพื่อหรงจิ้นด้วยความพยายามทั้งหมดที่มี
“ฝ่าบาท ที่จักรพรรดินีพูดก็มีเหตุผลนะขอรับ องค์รัชทายาทขาดสติไปชั่วขณะ และไม่ได้ทำพิษโทษฐานร้ายแรงนัก ได้โปรดท่านจงให้อภัย และให้โอกาสกับเขาอีกครั้งด้วยเพคะ”
“องค์รัชทายาทโดดเด่นมานานหลายปี และขยันทำงานในทุกๆ วันเพราะอยากแบ่งเบาภาระของท่าน ต่อให้ไม่ใช่งานที่เห็นความดีความชอบได้ชัดเจน แต่ก็ป็นงานใช้กำลังที่หนักเช่นกัน”
“ฝ่าบาท ถ้าองค์รัชทายาทต้องลงจากบัลลังก์จริงๆ แล้วต่อไปหลีอ๋อง และฉู่หลิวเยว่จะจัดการเรื่องต่างๆ เองได้อย่างใดขอรับ?”
…
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย
นางไม่อยากได้ยินคำพูดนี้เลยสักนิด
หรงจิ้นฆ่าตัวตายเองแล้วเกี่ยวอันใดกันกับนาง และหรงซิวหรือ?
นางยังไม่ทันได้บอกเลยว่าตัวเองก็รังเกียจกับคำพูด และการกระทำทั้งหมดในวันนี้ของหรงจิ้นเหมือนกัน
สีหน้าของหรงซิวดูสงบอยู่ตลอดเวลา
เขายิ้มอ่อนๆ ก่อนจะเอ่ยปาก
“ที่ผู้ใหญ่ทุกท่านพูดก็ไม่ได้ไม่มีความหมายแต่อย่างใด เสด็จพ่อ ลูกแค่อยากจะร้องขอให้ท่านช่วยจัดงานอภิเษกสมรสให้ก็เท่านั้น ข้าไม่ได้อยากจะทำให้เรื่องวุ่นวายถึงเพียงนี้เลยสักนิด ถ้าวันนี้ท่านไม่สามารถให้อภัยพี่ชายได้ ถ้าอย่างงั้น…ลูกเองก็คงเป็นบาปเหมือนกัน”
จักรพรรดิจยาเหวินถอนหายใจยาว
“หรงซิว เจ้าช่างเป็นคนรู้เหตุรู้ผลเหลือเกิน
ถ้าไม่ใช่เพราะสุขภาพร่างกายของเขาไม่ดี ตำแหน่งองค์รัชทายานี้คงเป็นของเขาแล้ว จะตกเป็นของหรงจิ้นได้อย่างใด?
น่าเสียดายจริงๆ
สีหน้าของจักรพรรดิจยาเหวินเต็มไปด้วยความเสียดาย ซึ่งให้ความรู้เหมือนเป็นมีดที่ทิ่มแทงหัวใจจักรพรรดินีและหรงจิ้น
แต่ตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงความไม่พอใจออกไปได้
สถานการณ์เงียบสงัด และในที่สุดจักรพรรดิจยาเหวินก็มองไปยังฉู่หลิวเยว่พลางเอ่ยปากถาม
“ฉู่เยว่ เจ้าคิดว่าอย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่คุกเข่าลง
“ฝ่าบาททรงรู้ดีว่า ตั้งแต่ที่องค์รัชทายาทได้ยกเลิกงานอภิเษกสมรสก้บข้าไปแล้ว พวกข้าก็ไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย ฉะนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ วันนี้เขาถึงเป็นเช่นนี้ไป ส่วนหลีอ๋องนั้น พวกข้าช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ในใจของหลิวเยว่จึงรู้สึกซาบซึ้งไม่น้อย ฉะนั้น…หลิวเยว่จึงยินยอมที่จะดูแลหลีอ๋องตลอดชีวิต และไม่มีวันหักหลังทรยศหรือทอดทิ้งเด็ดขาด”