ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 337 สัญญา
ตอนที่ 337 สัญญา [รีไรท์]
ตอนนั้นเองมู่ชิงเห่อก็มองไปที่ฉู่หลิวเยว่เสียงของนางที่เอ่ยถามออกมาเย็นชาและไม่แยแสเช่นเคย
“เจ้ามีเรื่องอันใดก็พูดมา”
ปีศาจแดงเห็นแล้วก็ชะงักไป และฉวยโอกาสหนีไปซ่อนหลังหน้าต่างทันที
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองพลางถอนหายใจในใจ มองปีศาจแดงที่กระทำเช่นนั้น
ปีศาจแดงนั้นช่างกวนประสาทเหลือเกิน เพราะรู้ว่ามู่ชิงเห่อเกลียดการที่ผู้อื่นมาสัมผัสชาของเขามาก แต่มันก็กล้าที่จะทำเช่นนั้น
ช่างเก่งกาจจริงๆ ที่อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ได้
น่าแปลกที่เดิมทีมู่ชิงเห่อมาจากครอบครัวพื้นเพต่ำต้อย เมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาต้องขโมยขนมปังนึ่งจากขอทาน และไม่เคยมีชีวิตที่ดีเลยสักวัน
ต่อมาเขาติดตามนางและเงื่อนไขชีวิตในทุกด้านก็ค่อยๆ ดีขึ้น แต่เขาไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เมื่อผ่านความยากจนไปจนถึงความเจริญรุ่งเรืองแล้ว เขาไม่ได้ตื่นเต้นและเพลิดเพลินกับชีวิตที่รุ่งโรจน์เหล่านั้น แต่เน้นไปที่การฝึกฝนและการต่อสู้แทน
ยกเว้นสิ่งเดียวที่เขาจะเพลิดเพลินและยอมที่จะดื่มด่ำก็คือ…ชา
แม้แต่นางก็ยังไม่รู้ว่าเขาตกหลุมรักสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อใด
เขาไม่เพียงแต่ชอบดื่มชาเท่านั้น แต่ยังชอบชงชาอีกด้วย
ฉู่หลิวเยว่จำได้ว่าเขามีทักษะในการชงชาที่ดี และแม้แต่ปรมาจารย์ด้านชาในวังก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้
นางหยุดความคิดของนางก่อนจะมองไปที่มู่ชิงเห่อและบอกแผนการของนางสั้นๆ
“ครานี้ข้าหวังว่าท่านจะยินยอมให้ข้าไปที่สำนักไท่เหยียน ส่วนระยะเวลาที่จะให้ข้าอยู่ในสำนักไท่เหยียนนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่านว่าจะให้อยู่นานเท่าใด”
มู่ชิงเห่อหยิบถ้วยอีกใบขึ้นมา เทชาใส่ถ้วย และมองที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะแน่ใจนะว่าข้าจะไม่ออกจากที่นี่ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เจ้าถึงได้มีความกล้าที่จะยื่นคำร้องนี้ใช่หรือไม่”
รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“ท่านบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าจะอยู่ที่นี่สักพัก ข้าไม่รู้ว่าท่านหมายความว่านานเท่าใด จึงรวบรวมความกล้ามาปรึกษาและถามท่าน เพราะสุดท้ายแล้ว… การได้ไปที่ห้องสมุดสำนักเพื่อร่ำเรียนวิชานั้นเป็นโอกาสที่หายากมากเช่นกัน ข้าไม่อยากพลาดโอกาสนั้นไป จึงอยากจะขอความเห็นใจจากรองแม่ทัพมู่อีกครั้ง”
มู่ชิงเห่อไม่ได้พูดอันใดซักพัก
เมื่อเขามาครั้งนี้ นอกจากจะมองหาอัจฉริยะที่ครอบครอชีพจรตี้จิงแล้ว เขายังมีเรื่องสำคัญอื่นๆ ที่ต้องทำอีกด้วย
สามถึงห้าวันก็ยังไม่จบแน่นอน
ดูเหมือนว่าคำพูดของฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้มีความผิดปกติอันใด
เพียงแต่ว่า…
“ถ้าเจ้าอยากไปก็ไปได้ แต่มีหนึ่งคำถามที่เจ้าต้องตอบอย่างตรงไปตรงมา”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“รองแม่ทัพมู่ว่ามาเถิด”
มู่ชิงเห่อจ้องมองที่นาง
“ในวันนั้น ในหอคอยจิ่วโยว… เจ้าได้อันใดกลับมาบ้าง?”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นผิดจังหวะทันที
ทันใดนั้น นางก็เบิกตาขึ้นเล็กน้อย ทำท่าทางเหมือนกำลังประหลาดใจและสงสัย
“ที่ท่านว่านั้น…หมายความว่าอย่างไรหรือ”
มู่ชิงเห่อไม่เอ่ยอันใดต่อ เพียงแต่มองดูนางอย่างพิจารณา ราวกับจะเปิดโปงคำโกหกของนางให้ได้
ความสามารถและพลังข่มขู่บนร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก ส่วนแววตาของเขาก็เย็นชามากเช่นกัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาเกรงว่าจะไม่สามารถทนกับสายตาสงสัยที่มองมาแบบนี้ได้แน่นอน
แต่ฉู่หลิวเยว่นั้นไม่เหมือนคนอื่น
นางพบกับมู่ชิงเห่อตอนที่เขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และนางก็ได้เห็นสภาพที่น่าสังเวชและน่าสมเพชที่สุดของเขาแล้วเช่นกัน
แต่นางก็ยังให้โอกาสมู่ชิงเห่อให้ได้เป็นผู้ติดตามที่อายุน้อยที่สุดในราชวงศ์เทียนลิ่ง จนได้เห็นเขาในรูปแบบที่รุ่งโรจน์ที่สุด
ดังนั้น รูปลักษณ์นี้ของมู่ชิงเห่อจึงไม่มีผลกระทบอันใดต่อนาง
นางขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
“รองแม่ทัพมู่ ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอันใด สถานการณ์ในวันนั้นวิกฤตมาก กว่าข้าและหลีอ๋องจะรอดมาได้นั้นไม่ง่ายเลยสักนิด อย่าว่าแต่เราจะเอาอันใดออกมาเลย พวกข้าแทยจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นเสียแล้ว จริงๆ แล้วท่านต้องการถามถึงเรื่องอันใดกันแน่?”
มู่ชิงเห่อมองไปที่แม่นางที่อยู่ข้างหน้าเขา
ฉลาด หลักแหลม อัจฉริยะ
การแสดงออกของนางจริงใจมากจนเขาเริ่มสงสัยว่าเขาเดาผิดไปหรือไม่
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากอย่างลังเล และเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ
“ท่านรองแม่ทัพมู่ ท่านกำลังตามหาอันใดอยู่หรือ”
ดวงตาของมู่ชิงเห่อเฉียบคม ความโมโหในร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้นและพุ่งเข้าหาฉู่หลิวเยว่ทันที!
โฮกกก!
ปีศาจแดงส่งเสียงร้องดังขึ้นมา เปลวไฟสีฟ้าบินไปที่ด้านหน้าฉู่หลิวเยว่ แปลงร่างเป็นเกราะป้องกัน และคุ้มกันพลังข่มขู่ของมู่ชิงเห่อเอาไว้
ก่อนที่พลังของมู่ชิงเห่อและปีศาจแดงจะต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง!
เพล้ง!
ชุดน้ำชาของมู่ชิงเห่อตกแตก!
แม้แต่โต๊ะเก้าอี้ทั้งชุดก็ยังมีรอยร้าวเต็มไปหมด
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
นางแค่ถามคำถามง่ายๆ แต่ไม่คิดเลยว่าปฏิกิริยาของมู่ชิงเห่อจะรุนแรงได้ถึงเพียงนี้
นี่เป็นการพิสูจน์ว่านางพูดถูกแล้ว!
มู่ชิงเห่อมาจากแดนไกลกว่าหลายพันกิโลนั้น เขามาเพื่อตามหาอันใดกันแน่?
ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายค่อยๆ หายไป สภาพในห้องก็เละเทะไปหมด
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองไปที่ถ้วยน้ำชาที่แตกกระจายอยู่บนพื้น
ข้างในดูเหมือนเป็นชาดำจินจวนเม่ยที่เปียกโชก
มู่ชิงเห่อไม่เคยดื่มสิ่งนี้มาก่อน…
นางมองย้อนกลับไป
“ท่านรองแม่ทัพมู่ ท่านเข้าใจอันใดผิดไปหรือไม่ ข้าแค่อยากจะบอกว่ามีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถเหยียบไปที่ชั้นบนของหอคอยจิ่วโยวได้ และหลีอ๋องกับข้าก็สามารถออกจากชั้นหกได้อย่างปลอดภัย ต้องขอบคุณที่ท่านแม่ของเขาทิ้งสิ่งของเอาไว้ ถ้าท่านอยากจะหาอันใดบางอย่าง บางที…ทางหลีอ๋องอาจจะมีเบาะแสก็เป็นได้”
เจตนาฆ่าในดวงตาของมู่ชิงเห่อค่อยๆ ลดลง
“ไม่จำเป็น”
เมื่อสิ้นเสียง ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันทันที
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าหากยังคงอยู่พูดคุยต่อไป เรื่องราวอาจจะยิ่งแย่ลง ดังนั้นนางจึงต้องแกล้งกระแอมไอเพื่อทำลายความเงียบงันนี้
“ท่านรองแม่ทัพมู่ ชาของท่านหกหมดแล้ว ถ้าอย่างงั้นข้าขอชดใช้ชาหนึ่งกาให้กับท่านจะดีกว่า คราวที่แล้วข้าบังเอิญได้ชาดำจินชวนเม่ยคุณภาพดีมาหนึ่งกระปุก แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกใจท่าน แต่…”
“ไม่ต้องการ”
มู่ชิงเห่อเอ่ยขัดขึ้นทันที นั่นทำให้นางนิ่งไปสักพัก
“ข้าให้เวลาเจ้าสิบวัน”
ฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มดีใจ
“ขอบพระทัยท่านรองแม่ทัพมู่!”
แม้ว่าอารมณ์ของคนคนนี้จะไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นางก็ดีใจมากที่ได้คำตอบตกลงจากเขา
มู่ชิงเห่อมองไปที่แม่นางที่กำลังหัวเราะอยู่ตรงหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดว่านัยน์ตาหยกสีดำที่เจิดจ้านั้นคล้ายกันเกินไปแล้ว แม้จะเห็นได้ชัดว่านางทั้งสองคนมีใบหน้าที่แตกต่างกัน แต่ท่าทางการหัวเราะ การแสดงออกระหว่างคิ้วนั่นทำให้รู้สึกคล้ายกันมาก
แต่เมื่อเขามองใกล้ๆ กลับรู้สึกว่ามันไม่ได้เหมือนกันแต่อย่างใด
มีหลายสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแววตาของฉู่หลิวเยว่
นั่นคือรูปลักษณ์ที่เหมือนได้ผ่านความยากลำบากมานับไม่ถ้วน
แต่คนคนนั้นไม่ได้เป็นเช่นนี้
นางมีเกียรติสูงส่งและจิตใจบริสุทธิ์อยู่เสมอ
มู่ชิงเห่อจึงละสายตาไปอย่างไม่ได้สนใจอีก
ช่วงนี้เขาคิดถึงนางบ่อยเหลือเกิน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก
“กลับไปได้แล้ว อย่าลืมว่าเจ้ามีเวลาแค่สิบวัน”
ฉู่หลิวเยว่สังเกตอารมณ์ของมู่ชิงเห่อที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่นางรู้ว่ามันจะไม่ดีแน่นอนถ้านางอยู่ต่อ ฉะนั้นนางจึงแสดงความดีใจและจากไป
ปีศาจแดงตามนางไปที่ประตูอย่างไม่เต็มใจ
มาแค่ครู่เดียวก็จะกลับไปแล้ว…ยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อได้ฟังสิ่งที่พวกเขาพูดกันในตอนนี้ แสดงว่ามันจะไม่ได้เห็นนางไปอีกสิบวันเลยหรือ
ฉู่หลิวเยว่เดินไปที่รั้วก่อนจะมองย้อนกลับไปที่ปีศาจแดงที่กำลังแสดงท่าทางไม่เต็มใจ
นางจึงโน้มตัวเข้ามาใกล้และบอกว่า
“กลับมาแล้วจะเอาของขวัญมาให้นะ”