ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 341 ไร้ความรู้สึก
ตอนที่ 341 ไร้ความรู้สึก [รีไรท์]
เจี่ยนเฟิงฉือครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ
“พิษในร่างกายของพระชายานั้น… ดูเหมือนจะเป็นส่วนผสมของพิษหลายชนิด และพวกมันก็ถูกปล่อยออกมาในเวลาที่ต่างกัน”
มู่หงอวี่อุทาน
“เป็นไปได้อย่างไรเนี่ย!”
นานมาแล้วที่นางคิดว่าพิษในร่างกายของมารดาเกิดจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน นางไม่คาดคิดว่า…
“ท่านแม่ สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือ”
มู่หงอวี่รีบเอ่ยถามพระชายาผิงเจียงอย่างรวดเร็ว
ความขมขื่นแวบผ่านดวงตาของพระชายาผิงเจียง ก่อนนางจะเผยยิ้มเยือกเย็น
“ใช่…”
เจี่ยนเฟิงฉือกล่าวเสริม
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด ร่างกายของพระชายาคงจะเสื่อมลงอย่างกะทันหันในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาใช่หรือไม่?”
องค์พระชายาผิงเจียงพยักหน้า
“ถ้าอย่างงั้นก็ใช่แล้วล่ะ”
เจี่ยนเฟิงฉือลุกขึ้นยืน
“ยาพิษสองสามชนิดแรกในร่างกายของพระชายาถูกฝังอยู่ในร่างกายของนางมาหลายปีแล้วและได้แทรกซึมเข้าไปในอวัยวะภายใน แต่เนื่องจากไม่มีพิษร้ายแรง จึงไม่เกิดผลอันใดนัก สารพิษทั้งหมดในร่างกายของพระชายาถูกกระตุ้นในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ทรุดลงอย่างที่เห็นในตอนนี้”
มู่หงอวี่จ้องไปที่เจี่ยนเฟิงฉือด้วยแววตาว่างเปล่าราวกับคนที่ถูกฟ้าผ่า
“ถ้าอย่างนั้น…แล้วเราจะทำอย่างไรดี ท่านสามารถกำจัดพิษเหล่านี้ได้หรือไม่?”
เจี่ยนเฟิงฉือขมวดคิ้วและดูเหมือนจะลำบากใจ
“นี่เป็นงานที่ยาก เพราะเวลาและประเภทของพิษเหล่านี้แตกต่างกัน หากเจ้าต้องการกำจัดพวกมันทั้งหมด ไม่เพียงแค่ต้องรู้ว่าพิษเหล่านี้คืออันใด แต่ต้องหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดปัญหาใหม่ในระหว่างการล้างพิษด้วย ถ้าประมาทเลินเล่อ ความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่าทั้งยังอาจจะ…”
เจี่ยนเฟิงฉือหยุดพูดไปชั่วขณะ
แม้ว่าคำที่เหลือจะไม่ถูกพูด ทุกคนก็รู้ว่ามันหมายถึงอันใด
มู่หงอวี่รู้สึกเสียสติ
แม้แต่ปรมาจารย์แพทย์ของราชวงศ์เทียนลิ่งก็ไม่สามารถทำอันใดกับมันได้?
จีฉ่างถอนหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“นายน้อยเจี่ยน ช่วยคิดหาทางด้วยเถิด! ท่านอ๋องและพระชายารักกันดีและสนับสนุนกันมานานหลายปี ถ้าพระชายา…”
“นั่นเป็นเรื่องปกติ”
เจี่ยนเฟิงฉือขัดจังหวะคำพูดของจีฉ่าง รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
จีฉ่างตกตะลึงครู่หนึ่ง สีหน้าเศร้าสร้อยของเขาก็หยุดนิ่งทันที
“ท่าน ท่านหมายถึง”
“พิษนี้จัดการยากมาก แต่ข้าไม่ได้บอกว่าข้าแก้ไม่ได้” เจี่ยนเฟิงฉือยิ้มอย่างมีเลศนัย
จากนั้นทุกคนก็เข้าใจความหมายของเจี่ยนเฟิงฉือทันที
ฉู่หลิวเยว่แอบต่อต้านท่าทางของเจี่ยนเฟิงฉือในใจอย่างเอือมระอา
ถ้าไม่พูดเช่นนี้ ทำอย่างกับไม่ได้แสดงให้เห็นว่าตนนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน!
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนเฟิงฉือสังเกตเห็นว่าจีฉ่างมีบางอย่างผิดปกติ…
“อย่ากังวลไป ข้าสามารถล้างพิษของพระชายาได้แน่นอน ข้าจะรักษาเพื่อให้พระชายาฟื้นร่างกายกลับมาอย่างสมบูรณ์”
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่มองไปยังใบหน้าของจีฉ่างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก้มหน้าลง
นางมองเห็นได้ชัดเจนว่าในตอนที่เจี่ยนเฟิงฉือพูดว่าเขาสามารถรักษาพระชายาผิงเจียงได้ ดวงตาของจีฉ่างนั้นมีความตกใจและตื่นตระหนกขึ้น
สิ่งที่นางรับรู้นั้นเข้าใจได้ไม่ยาก แต่…เกิดอันใดขึ้นกันแน่?
หากสามารถดูแลและพาพระชายาผิงเจียงมาจนถึงเมืองหลวงได้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าท่านอ๋องไว้วางใจเขามาก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากการเรียกชื่อที่มู่หงอวี่เรียกเขาและหวู่ซาน ก็ให้ความรู้สึกว่าพวกเขานั้นใกล้ชิดและสนิทกันมาก
มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จีฉ่างจะกลัวหลังจากที่รับรู้ว่าร่างกายของพระชายาผิงเจียงสามารถรักษาให้หายขาดได้…
ฉู่หลิวเยว่จำได้ว่าเมื่อครั้งที่นางจะดูจับชีพจรให้พระชายาผิงเจียง จีฉ่างนั้นก็ปฏิเสธหลายครั้งและดูเหมือนว่าจะกลัวนางเจออันใดบางอย่าง
บางที…อาจจะเป็นคนร้ายที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง
“นายน้อยเจี่ยน ท่านพูดจริงรึ! ท่านรักษาท่านแม่ของข้าได้จริงหรือ”
มู่หงอวี่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ในสมองของนางรับรู้เพียงคำพูดของเจี่ยนเฟิงฉือเท่านั้น
เจี่ยนเฟิงฉือมองไปที่แม่นางที่วิ่งมาตรงหน้าเขา ดวงตาเรียวสวยของนางสดใส พลันให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย พลางเผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งขึ้น
“แน่นอน เจี่ยนเฟิงฉือคนนี้พูดจริงทำจริง”
ถ้าเขาแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่ได้ แสดงว่าหลายปีมานี้เขาคงอยู่มาอย่างไร้ประโยชน์แล้ว
มู่หงอวี่ตื่นเต้นมาก นางรีบไปที่เตียงและจับมือพระชายาผิงเจียง
“ท่านแม่ ได้ยินหรือไม่ อาการป่วยของท่านแม่รักษาหายได้!”
ตอนนี้พระชายาผิงเจียงไม่มีแรงเหลือแล้ว มีเพียงแค่รอยยิ้มซีดเซียวที่เผยออกมา พลางมองไปที่มู่หงอวี่
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยกล่าวขึ้นมาว่า
“หงอวี่ ดูเหมือนพระชายาต้องการจะพักผ่อน เราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
มู่หงอวี่พยักหน้ารับ
“เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้น…ท่านแม่พักผ่อนเถอะนะเพคะ แล้วข้าจะมาหาท่านแม่ทีหลัง!”
พระชายาผิงเจียงพยักหน้า
“…ต้อง… ขอบคุณนายน้อยเจี่ยน รองแม่ทัพมู่…และหลิวเยว่ด้วย…”
หลังจากจบประโยคแล้ว ในที่สุดนางก็หลับตาและพักผ่อน
ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ ทั้งหมดก็เดินออกไป
ทันทีที่มู่หงอวี่ลุกขึ้น นางเห็นว่าพระชายาผิงเจียงมีผ้าเช็ดหน้าบนข้อมือของนางอยู่
นางหยิบผ้าเช็ดหน้าและตะโกนเรียกเจี่ยนเฟิงฉือที่เดินออกมาถึงหน้าประตู
“นายน้อยเจี่ยน ผ้าเช็ดหน้าของท่าน!”
เจี่ยนเฟิงฉือหยุดเดินและมองย้อนกลับไป
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ขยับ และนางก็เกือบจะขอให้มู่หงอวี่ทิ้งผ้าเช็ดหน้านั่นไปเสีย
มีบางอย่างผิดปกติกับเจี่ยนเฟิงฉือ
เขาเป็นแพทย์และมักจะต้องจับชีพจรของผู้คน แต่ทุกครั้งที่ไปทำการรักษา เขาต้องวางผ้าเช็ดหน้าไว้ขณะจับชีพจร และไม่เคยสัมผัสมันด้วยมือของเขาเองเลยสักครั้ง
วัสดุของผ้าเช็ดหน้ามีค่ามาก แต่เขาใช้เพียงครั้งเดียวแล้วโยนทิ้ง
ฉู่หลิวเยว่เห็นเช่นนี้ตั้งแต่เขารู้จักเขา และนางก็ไม่รู้ว่าทำไม
นอกจากนี้เขายังมีงานอดิเรกมากมาย และเขานั้นก็ดื้อรั้นมาก
แม้แต่ตอนที่นางเคยได้รับเกียรติให้เป็นปรมาจารย์แพทย์ นางยังรู้สึกว่าชายผู้นี้โอ้อวดมาก
เจี่ยนเฟิงฉือจ้องไปที่มือของหงอวี่สักพัก แต่แทนที่จะปล่อยให้นางทิ้งผ้าเช็ดหน้านั่น กลับหัวเราะ
“ใช่แล้ว เกือบลืมไปเลย”
เอ่ยจบก็เดินกลับไปหามู่หงอวี่
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองเขาราวกับว่านางเห็นผี
เขาทำบ้าอันใด!
เจี่ยนเฟิงฉือดูเหมือนจะรู้อันใดบางอย่างและหันหน้าไปมอง
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงและหันหลังเดินไปที่ประตูทันที
เจี่ยนเฟิงฉือหรี่ตาลง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขารู้สึกอยู่เสมอว่า…ดูเหมือนฉู่หลิวเยว่จะเกลียดเขามาก
แม้ว่านางมีรอยยิ้มที่สุภาพอยู่ตลอด แต่เขาก็ยังรู้สึกแบบนั้น
และความรู้สึกนี้…ก็มีความคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก…
เขาระงับความคิดในใจและยื่นมือออกไปหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือของมู่หงอวี่
สองมือสัมผัสกันครู่หนึ่ง
ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สังเกต เขาโค้งตัวเล็กน้อย มุมปากของเขากำลังยิ้ม มีเสน่ห์ และมีความเจ้าชู้อยู่บนใบหน้าและดวงตาของเขาเล็กน้อย
“ขอบใจแม่นางมู่”
มู่หงอวี่ยิ้มอย่างสดใส
“นายน้อยเจี่ยนสุภาพเกินไปแล้ว! หากท่านต้องการความช่วยเหลืออันใดก็บอกข้าได้เช่นกัน!”
เจี่ยนเฟิงฉือมองมาที่นางพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
อืม…มู่หงอวี่คนนี้…เหมือนว่าจะใสซื่อเกินไปหน่อย…
หากแม่นางคนอื่นถูกเขาแตะต้องแบบนี้ พวกนางคงหน้าแดงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ดูเหมือนว่ามู่หงอวี่จะไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย
ตอนนั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกว่าแสงจ้าในดวงตาเรียวสวยของนางนั้นแท้จริงแล้วเพียงเพราะดีใจที่แม่ของนางสามารถรักษาหายได้ ไม่ใช่เพราะเขา
นั่นทำให้เขาเกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นทันที
แม่นางสองคนนี้ทำไมถึงแปลกกว่าคนอื่นๆ กันนะ?
ฉู่หลิวเยว่เดินออกไปนอกประตูก่อนจะหันกลับมาโบกมือให้มู่หงอวี่
“หงอวี่!”