ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 392 เปิดใช้งาน
ตอนที่ 392 เปิดใช้งาน [รีไรท์]
ยอดเขาซีจิน
ฉู่หลิวเยว่ตามติดมู่ชิงเห่อไปตลอดทาง
ระหว่างทางโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้สีเขียวชอุ่ม ที่โอบรอบและช่วยบดบังร่างเงาของสองนักเดินทางคนได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากเสียงลมภูเขาที่พัดใบไม้ไหวเป็นครั้งคราวแล้ว ทั่วทั้งบริเวณนี้ก็ไร้ซึ่งเสียงอื่นใดแทรกแซง ทั่วทั้งพื้นที่พร้อมใจกันเงียบสงัด
เพียงพริบตา ก็มีขั้นบันไดประหลาดปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทั้งสอง
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองทันควัน
บันไดหลายขั้นซ้อนทับต่อกันขึ้นไปเรื่อยๆ มันขยายตัวยืดจากตีนเขา และไล่ระดับยาวขึ้นไปจนถึงยอดเขาโดยตรง
เมื่อมองดูแล้ว ก็พลันรู้สึกราวกับว่าขั้นบันไดเหล่านั้นไร้จุดสิ้นสุด
ว่ากันว่าบันไดนี้มีขั้นบันไดทั้งหมด เก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น
ยอดเขาซีจินนั้นสูงชันยิ่งนัก จนพวกเขาสามารถจินตนาการได้เลย ว่าต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรมากเพียงใด ในการสร้างบันไดนี่
บนยอดเขานั้นเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิแห่งแคว้นเย่าเฉินใช้บูชาท้องฟ้า และบูชาบรรพบุรุษของพวกเขาทุกปี
นอกจากจักรพรรดิแล้ว แม้แต่พระมเหสีเองก็ยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปเหยียบบันไดขั้นบนสุดได้ และทำได้เพียงนั่งยองรออย่างเงียบๆ
ฉู่หลิวเยว่หันไปสบตามู่ชิงเห่อทันทีอย่างไม่ลังเล
ไม่ใช่ว่าเขากำลังคิดจะขึ้นไปเหยียบบันไดขั้นบนสุดหรอกนะ…
เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า เขาต้องการเข้าไปในสุสานของจักรพรรดิ และนั่นทำให้ฉู่หลิวเยว่นึกถึงปัญหาที่ตามมาอีกอย่าง ซึ่งก็คือ ทางเข้าสุสานของจักรพรรดิที่ว่านี่อยู่ที่ใดกัน?
ยอดเขาซีจินนั้นรายล้อมไปด้วยผู้คุ้มกันแน่นหนา และทางเดียวที่จะขึ้นไปบนภูเขาได้ ก็คือบันไดนี่
และสุสานของจักรพรรดิที่พวกนางกำลังตามหาอยู่นั้น ถูกฝังไว้ใต้ยอดเขาซีจินแห่งนี้!
ทว่าหลังจากเดินสำรวจไปทั่วขนาดนี้ นางกลับไม่พบสถานที่น่าสงสัยใดใด ที่สามารถใช้เป็นทางเข้าได้เลย
มีแต่ป่าไม้กับก้อนหินเต็มไปหมด
แต่มู่ชิงเห่อยังคงก้าวขึ้นบันไดไป ทำให้ฉู่หลิวเยว่จำต้องก้าวขึ้นบันไดตามไปด้วย
ทั้งสองร่างสาวเท้าฉับๆ อย่างว่องไว ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็มาได้ครึ่งทางแล้ว
เมื่อมาถึงจุดนี้ ในที่สุดมู่ชิงเห่อก็หันกลับไปมองฉู่หลิวเยว่
นอกจากแก้มที่แดงเล็กน้อยและหยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ บนหน้าผากของนาง ก็ไม่เห็นว่านางจะดูเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งสำหรับนักรบระดับสองธรรมดานั้น เป็นไปไม่ได้ที่ตามเขาขึ้นมาถึงระดับนี้แน่นอน
ทว่าสำหรับฉู่หลิวเยว่แล้ว กลับดูเป็นเรื่องง่ายดายเสียอย่างนั้น
“รองแม่ทัพมู่ เป็นอันใดไปหรือ?”
เมื่อเห็นเขาหยุดฝีเท้ากะทันหัน ฉู่หลิวเยว่จึงโพล่งถามออกไปอย่างสงสัย
มู่ชิงเห่อจึงตอบกลับอย่างกำกวม
“ก็แค่ กล้ามเนื้อของเจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้”
ฉู่หลิวเยว่ถึงกับสำลักเบาๆ
ความจริงแล้ว นางเองก็รู้จุดเด่นข้อนี้ของตัวเองดี
ไม่เพียงแต่เทียบกับนักรบระดับเดียวกันเท่านั้น ทว่าแม้แต่ผู้ฝึกตนที่มีตำแหน่งสูงกว่านาง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ก็ยังเทียบนางไม่ติด
ของแบบนี้มันไม่ใช่พรสวรรค์
หากต้องการร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก และบางครั้งยังต้องใช้พืชหายากหรือแร่ธาตุวิเศษเข้าช่วยเสริมสร้างกำลังอีกด้วย
มู่ชิงเห่อเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี จนเกิดความสงสัยขึ้นในใจเขา…
ทว่าขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังคิดหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของมู่ชิงเห่ออยู่นั้น จู่ๆ เขาก็หมุนตัวกลับไปแล้วเดินต่อราวไม่ใส่ใจ
ฉู่หลิวเยว่จึงเลือกที่จะเงียบปาก และเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ
แต่ในใจเธอนางรู้สึกคลุมเครือว่า มู่ชิงเห่อกำลังวิตกกังวลกับอันใดบางอย่าง…
เพราะอันใดเขาถึงได้รีบเร่งขนาดนี้กัน?
…
เวลาผ่านไปหลายต่อหลายนาที ในที่สุดฉู่หลิวเยว่และมู่ชิงเห่อก็พิชิตขึ้นบันไดเหล่านี้ได้สำเร็จ
เมื่อมองไปยังยอดเขาตรงหน้า หัวใจฉู่หลิวเยว่ก็เย็นวาบขึ้นมาทันที
บนยอดเขาแห่งนี้มีค่ายกลอันแข็งแกร่ง ที่เผยจิตวิญญาณอันน่าเกรงขามและแผ่รังสีคุกคามออกมา!
ก่อนขึ้นมานางสัมผัสถึงมันไม่ได้ ทว่าเมื่อเท้าของนางเหยียบลงบนขั้นบันไดสองสามขั้น ก่อนที่จะถึงขั้นสุดท้าย ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นไป นางสามารถสัมผัสได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
หัวใจดวงน้อยเริ่มอยู่ไม่สุข
ตรงข้ามกับมู่ชิงเห่อที่ก้าวขึ้นเหยียบบันไดขั้นสุดท้ายโดยไม่ลังเล! และขึ้นไปถึงยอดเขาได้!
ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น กระจุกแสงสีเงินนับไม่ถ้วนลอยพรวดขึ้นมาจากพื้น! แล้วพุ่งเข้าใส่มู่ชิงเห่อด้วยความเร็วสูง!
แสงเย็นแวววาบปรากฏขึ้นในมือของมู่ชิงเห่อ พร้อมกระบี่ด้ามยาวที่เผยโฉมออกมา!
เขายกกระบี่เล่มนั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วฟันฉับลงมา!
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วยอดเขา!
“ฉึบ ฉึบ ฉึบ”!
พลันกลุ่มแสงสีเงินที่พุ่งเข้าโจมตีเขา ก็สลายไปทันที! ราวกับกลุ่มแสงเหล่านั้นเป็นภาพลวงตา! พวกมันรวมตัวกันแล้วก็ถูกทำลายภายในไม่กี่วินาที!
หมายความว่าเขาตั้งใจจะทำลายค่ายกลอันแข็งแกร่งนี่!
ทว่าการเคลื่อนไหวบนยอดเขาดึงดูดความสนใจของผู้คุมรอบๆ ได้อย่างฉับไหว
“มีผู้บุกรุกบนยอดเขาซีจิน!”
“จะเป็นไปได้อย่างใด?! ข้าไม่เห็นสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวนอกค่ายกลบนยอดเขาซีจินเลย…”
“แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มาจากยอดเขาจริงๆ!”
ขณะพูด ร่างของชายฉกรรจ์จำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นไปในอากาศในทันที!
จนในที่สุด ก็มีคนสังเกตเห็นฉู่หลิวเยว่และมู่ชิงเห่อ
“มีคนสองคนอยู่บนยอดเขา!?”
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
ยอดเขาซีจินนั้นได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ใครกันที่ริอาจวิ่งขึ้นไปอย่างเงียบๆ อีกทั้งยังเก่งกาจจนขึ้นไปถึงยอดเขาอีก!
ชายชราในชุดสีดำตะโกนเสียงดัง
“ทุกคนฟัง! ปิดตายยอดเขาซีจินทันที! อย่าให้สองคนนั้นหลุดรอดไปได้เด็ดขาด!”
เสียงที่แหบแห้งและทรงอำนาจแผ่ออกไปอย่างทรงพลัง!
“รับทราบ!”
ชายชราชุดดำรีบขมวดคิ้ว พยายามเพ่งสายตาดูว่าทั้งสองคนนั้นเป็นใคร!
มีเพียงไม่กี่คนในแคว้นเย่าเฉินที่แข็งแกร่งจนสามารถปีนยอดเขาได้ และเขาเดาไม่ออกเลยว่าใครมันจะกล้าลองดีถึงเพียงนี้!
แต่น่าเสียดายที่ต้นไม้บนยอดเขาบดบังทัศนวิสัย เขาจึงไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของคนสองคนได้ ชั่วขณะหนึ่งเขารู้เพียงเลือนรางว่า สองคนนั้นเป็นชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน
ครืน!
ขณะนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังมาจากยอดเขาอีกครั้ง!
ชายชราชุดดำตกตะลึง ค่ายกดที่ลึกซึ้งบนยอดเขาถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายเสียสิ้น!
นั่นคือรูปแบบค่ายกลอันซับซ้อนและลึกซึ้ง ที่สืบทอดกันในแคว้นเย่าเฉินเป็นเวลาหลายพันปีเชียวนะ!
เหตุใดจึงถูกทำลายได้ง่ายดายเพียงนี้!?
ความแข็งแกร่งของคนพวกนั้น เกรงว่ามันจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว!
เขาหยิบหลอดไม้ไผ่ออกมาโดยไม่ลังเล พลันอัดฉีดพลังปราณเข้าไป แล้วโยนขึ้นไปในอากาศ!
บึ้ม!
ดอกไม้ไฟที่สดใสและพร่างพรายเบ่งบานเหนือท้องฟ้า! ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงอึกทึกกันอย่างโครมคราม!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองมู่ชิงเห่อที่ยกกระบี่ฟาดฟันคลื่นพลังรอบตัว จนมันแหวกออกเป็นเส้นทางเดิน!
ความผันผวนของพลังงานอันบ้าคลั่งแผ่กระจายไปทั่วตัวเธอ จนนางแทบหายใจไม่ออก
มู่ชิงเห่อยืนอยู่กลางพายุกระแสความผันผวนที่กำลังปั่นป่วน ด้วยเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ้งจากการต่อสู้
และเป็นจังหวะเดียวกับตอนที่ฉู่หลิวเยว่ได้ยินเสียงที่น่าอัศจรรย์ พลันตวัดตามองขึ้นไปบนฟ้า และเห็นดอกไม้ไฟขนาดใหญ่บานสะพรั่ง
อีกฝ่ายรู้ตัวแล้วและกำลังขอกำลังเสริม!
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันแน่น และในที่สุดก็ก้าวขึ้นไปบนยอดเขาจนได้!
ทว่าขณะกำลังจะก้าวขึ้นตามมู่ชิงเห่อไป หยดน้ำใสในจุดตันเถียนของนางก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกลึกลับดังมาจากพื้นใต้เท้าของนาง!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจสุดขีด พลันก้มมองอย่างไว
พลังนี้…มาจากใต้ภูเขาหรือ!?
ก่อนที่นางจะนึกออกว่าเกิดอันใดขึ้น จู่ๆ พื้นดินใต้เท้าก็เริ่มขยับ!
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าก้มตามองอย่างจริงจัง ก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่า ตนกำลังยืนอยู่บนวงแหวนยักษ์!
วงแหวนที่ถูกฝังอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ หากไม่สังเกตดีๆ ย่อมแยกไม่ออกว่ามันคือพื้นที่ธรรมดาหรือไม่
กระทั่งวงแหวนนี้ค่อยๆ หมุนวนไปช้าๆ ถึงเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน!
วินาทีถัดมา ร่างของฉู่หลิวเยว่ก็ล้มลงทันที!
มู่ชิงเห่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหลังเขา พลันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นร่างของฉู่หลิวเยว่ที่อยู่กลางวงแหวนหายวับไปต่อหน้าต่อตา
แสงประหลาดแวบเข้ามาในดวงตาของเขา เพียงเสี้ยววินาที เขาก็กระโดดพุ่งตัวออกไปโดยไม่ลังเล!
เมื่อชายชราชุดดำมาถึง เขาก็พบว่าบนยอดเขามีวงแหวนขนาดใหญ่หมุนตัวอยู่ช้าๆ
เขาตกใจจนแทบเสียสติ นี่สุสานจักรพรรดิถูกเปิดออกแล้วหรือ!